GED Social : Federalism หรือ ระบอบสหพันธรัฐ ประธานาธิบดี (President), ผู้ว่าการรัฐ (Governor), นายกเทศมนตรี (Mayor)

อีกหนึ่งเรื่องหลักในการติว GED เพื่อสอบวิชา Social Studies ที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้คือเรื่อ “Federalism” หรือ ระบอบสหพันธรัฐ (จำยากกว่าภาษาอังกฤษอีก) คือ หลักการแบ่งอำนาจอธิปไตยหรืออำนาจในการปกครอง (Sovereign) กันระหว่างรัฐบาลส่วนกลางกับรัฐบาลระดับมณฑลหรือรัฐ ซึ่งในสหรัฐอเมริกาแบ่งอำนาจรัฐออกเป็น สามระดับ ได้แก่ รัฐบาลกลางของสหรัฐ (Federal Government) มีอำนาจสูงสุด, รัฐบาลประจำแต่ละรัฐ (State Government) มีอำนาจรองลงมา และ ในแต่ละรัฐเองก็จะมีรัฐบาลท้องถิ่น (Local Government) ทำหน้าที่ดูแลประชาชนในแต่ละท้องที่ถือว่ามีความใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด สาเหตุที่ในสหรัฐอเมริกาจะต้องแบ่งอำนาจรัฐบาลออกเป็นหลายระดับก็เพื่อให้การดูแลประชาชนเป็นไปได้อย่างทั่วถึง เนื่องมาจากพื้นที่ภูมิประเทศที่ค่อนข้างกว้างทำให้รัฐบาลกลางหน่วยงานเดียวอาจไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รัฐบาลแต่ละระดับจะมีอำหน้าหน้าที่ส่วนใหญ่แตกต่างกัน แต่ก็มีอำนาจบางอย่างที่ทับซ้อนกันบ้าง โดยเรามาเริ่มดูจากรัฐบาลกลางกันดีกว่าครับ รัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา มีหัวหน้ารัฐบาล คือ ประธานาธิบดี (President) รัฐบาลกลางถือว่าเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจสูงสุด ทำหน้าที่ดูแลและบริหารความเป็นไปของประเทศโดยภาพรวม ซึ่งรัฐบาลกลางเป็นผู้ทำหน้าที่กำหนดนโยบายต่าง ๆ ให้รัฐบาลประจำรัฐนำไปปรับใช้กับรัฐของตน นอกเหนือจากนี้รัฐบาลกลางยังเป็นรัฐบาลเดียวที่สามารถ ผลิตธนบัตรและเหรียญ, ประกาศสงคราม, ดูแลกองทัพ ควบคุมอัตราดอกเบี้ยและการค้าระหว่างประเทศเช่นเดียวกับการดูแลและสร้างความสัมพันธ์กับต่างชาติ รัฐบาลประจำรัฐ มีหัวหน้ารัฐบาลเรียกว่า ผู้ว่าการรัฐ (Governor) จะทำหน้าที่ดูแลและบริหารเฉพาะพื้นที่ต่าง[…]

GED Social : Check and Balance หรือ หลักการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ

วันนี้เรามาคุยกันในเรื่องที่สำคัญหลักๆอีกหนึ่งเรื่องในการติว GED Social Studies นั่นก็คือเรื่อง “หลักการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ” หรือ Check and Balance ซึ่งเป็นอำนาจตามกฎหมายรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาในการพยายามรักษาสมดุลอำนาจผ่านการแบ่งแยกอำนาจออกเป็นหลายส่วน เพื่อป้องกันไม่ให้หน่วยงานหลักของรัฐบาลหน่วยใดมีอำนาจมากเกินไปและเพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจตามมาได้ โดยหน่วยงานหลักของรัฐบาลสามารถแบ่งออกเป็น 3 ฝ่ายซึ่งทำหน้าที่และมีอำนาจแตกต่างกัน ประกอบด้วย Executive Branch – ฝ่ายบริหาร ทำหน้าที่ในการควบคุมและบริหารความเป็นไปของประเทศอีกทั้งทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มีหัวหน้าก็คือประธานาธิบดี Legislative Branch – ฝ่ายนิติบัญญัติ ทำหน้าที่หลักในการออกกฎหมาย หรือที่เรารู้จักในนามรัฐสภา Congress Judicial Branch – ฝ่ายตุลาการ ทำหน้าที่ตีความกฎหมาย แต่ชื่อที่น้อง ๆ น่าจะคุ้นเคยมากกว่า คือ ศาลสูงสุด ครับ แต่ละฝ่ายจะมีอำนาจที่แตกต่างกันเพื่อคอยคานอำนาจซึ่งกันและกัน เรามาเริ่มทำความรู้จักตัวอย่างอำนาจสำคัญที่ชอบออกข้อสอบจากฝ่ายแรก คือ ฝ่ายบริหารกันดีกว่า โดย ประธานาธิบดี มีอำนาจในการยับยั้งร่างกฎหมาย Veto Power ของสภาคองเกรสเพื่อให้เกิดการพิจารณาใหม่อีกครั้งหากฝ่ายบริหารไม่เห็นชอบกับร่างกฎหมายนั้น แต่อำนาจนี้สามารถถูกลบล้างได้หากเสียง 2 ใน[…]

GED Social : USA Election หรือ การเลือกตั้งสหรัฐ ฯ

สวัสดีครับทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ “Social วันละนิด พิชิตข้อสอบ GED” โดยเรามาอยู่กันในบทความซีรีส์แรกในการเรียน GED วิชา Social Studies  แอบใบ้ให้ว่าสิ่งที่วันนี้ที่จะมาคุยกำลังเป็นกระแสในสังคมไทยเลย เพราะเราเพิ่งจะได้นายกคนใหม่ คงพอกันเดาได้แล้ว ว่าเรื่องที่อยากจะคุยนั่นคือ  “การเลือกตั้ง(แต่เป็นของ)สหรัฐ ฯ / USA Election” นะครับ  ก่อนอื่นน้อง ๆ เคยสงสัยไหมครับ ว่าประธานาธิบดีของอเมริกาขึ้นสู่ตำแหน่งได้อย่างไร แล้วเผื่อน้อง ๆ บางคนอยากสมัครชิงตำแหน่งนี้จะสามารถทำได้ไหม คำตอบ คือ อันดับแรกต้องมาดูว่าน้อง ๆ มีคุณสมบัติตรงกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาหรือเปล่าครับ โดยผู้ที่จะสามารถลงสมัครเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี จะต้องเป็นผู้ที่ถือสัญชาติอเมริกาโดยกำเนิด  มีอายุขั้นต่ำ 35 ปี และต้องอาศัยอยู่ในอเมริกามาแล้ว 14 ปี ถ้าน้อง ๆ มีคุณสมบัติตรงกับเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว ก็จะต้องสมัครเข้าสู่พรรคการเมืองที่มีแนวคิดตรงกับที่ตนต้องการและไปหาเสียงเพื่อสู้กับคู่แข่งคนอื่นภายในพรรคที่ต้องการเป็นตัวแทนเหมือนน้อง โดยหลังจากหาเสียงภายในพรรคเสร็จ จะมีการจัดการเลืองตั้งขั้นต้นที่เรียกว่า PRIMARY ซึ่งสมาชิกในพรรค จะออกมาลงคะแนนโหวตเลือกผู้แทนของตนในแต่ละรัฐให้เข้าไปโหวติในการเลือกตั้งลำดับถัดไป หลังจากจบการเลือกตั้งขั้นต้น จะมีการจัดงานประชุมใหญ่ หรือ National Convention[…]

เรียน GED สอบไม่ผ่าน เรียนซ้ำฟรี

THE PLANNER คือผู้นำด้านการติว GED ของประเทศไทย พิสูจน์ได้จากจำนวนนักเรียน GED ที่ประสบความสำเร็จแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 คน ภายในระยะเวลา 3 ปี  (ข้อมูลปี 2015-2017) คอร์สเรียน GED ที่ เดอะ แพลนเนอร์ได้รับการยอมรับจากนักเรียนและผู้ปกครองอย่างกว้างขวางกันอย่างต่อเนื่อง และน้องๆเหล่านี้คือความภาคภูมิใจของ เดอะ แพลนเนอร์ เอดดูเคชั่น คอร์สเรียน GED ที่โรงเรียน The Planner ไม่ได้เป็นการสอนเนื้อหาทั่วไปแบบกว้างๆ แต่เป็นการเจาะไปที่ Topic และ scope ของตัวข้อสอบทั้ง 4 วิชา (New GED) ดังนั้นผู้เรียน GED ที่นี่จะได้เรียน GED ที่ตรงกับข้อสอบมากที่สุด และที่สำคัญน้องๆที่เรียน GED ทุกคนของ The Planner จะได้ติวจากข้อสอบจริงก่อนไปสอบทุกคน เดอะแพลนเนอร์จึงกล้ารับรอง หากสอบไม่ผ่าน กลับมาเรียนซ้ำฟรี คอร์สเรียน GED[…]

เรียน GED Math (Mathematical Reasoning)

เรียน GED Mathematical Reasoning หรือ เรียน GED ในสาขาวิชาการใช้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ นับว่ามีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวที่จะสอบ GED โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยผ่านการสอบมาก่อนและมีพื้นฐานความรู้ไม่แน่นและลึกซึ้งพอ วิชา Mathematical Reasoning เป็นอีกสาขาวิชาหนึ่งที่ GED จัดให้มีการทดสอบความรู้ เนื่องจากเป็นพื้นฐานความรู้ที่มีความจำเป็นและสำคัญที่ต้องนำไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือแม้แต่การใช้ประกอบอาชีพต่อไปในอนาคต การเรียน GED จะช่วยให้ผู้ที่จะสอบได้ทราบถึงแนวทางของข้อสอบ เข้าใจถึงเทคนิคการทำข้อสอบ ตอบโจทย์ข้อสอบได้อย่างถูกต้องภายในเวลาที่จำกัด และสร้างโอกาสที่จะสอบผ่านในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น ชุดข้อสอบวิชา Mathematical Reasoning ของ GED จะประกอบด้วยชุดคำถามจำนวน 50 ข้อ ให้เวลาในการทำสอบ 90 นาที และเนื้อหาที่ใช้ในการออกสอบ จะเป็นเนื้อหาการวัดระดับความรู้ของผู้สอบในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกอบด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้ทางด้านการตอบโจทย์ปัญหาด้านพีชคณิต 55 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณ และอีก 45 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ ด้านการตอบโจทย์ปัญหาด้านคณิตศาสตร์เชิงปริมาณ ลักษณะข้อสอบ 80 เปอร์เซ็นต์เป็น Multiple-choice ให้เลือกตอบ ส่วนอีก 20 จะเป็นการทดสอบทักษะ ด้านการคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์ มาตรวัดทางเรขาคณิต การวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์และข้อมูลทางสถิติ[…]

เรียน GED Social Studies

เรียน GED Social Studies จำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะสอบ GED วิชา Social Studies เป็นอีกวิชาหนึ่งที่ต้องใช้ในการสอบ เป็นวิชาที่ศึกษาถึง ความเป็นไปทางประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และรวมถึงการศึกษาสภาพแวดล้อมความเป็นไปของโลก ผู้คนที่อาศัยอยู่บนโลก รวมถึงขนมธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ครอบคลุมความรู้ขั้นพื้นฐานของหลักสูตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พื้นฐานความรู้ Social Studies เป็นพื้นฐานความรู้ที่จำเป็นต้องมี สำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และเป็นพื้นฐานความรู้ที่จำเป็นและสำคัญที่ต้องจัดให้มีการทดสอบความรู้ของ GED การเรียน GED เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประสงค์จะเข้าสอบ GED ชุดข้อสอบ GED Social Studies จะเป็นชุดคำถามจำนวน 50 ข้อ ให้เวลาในการทำสอบ 70 นาที ส่วนสัดสวนของเนื้อหาที่จะใช้วัดระดับความรู้ในการทดสอบโดยประมาณ แบ่งสัดส่วนออกเป็น เนื้อหาความรู้ด้านพลเรียนและรัฐบาล (Civics and Government) 50 เปอร์เซ็นต์ เนื้อหาความรู้ประวัติศาสตร์ของอเมริกา (U.S. History ) 20 เปอร์เซ็นต์ เนื้อหาความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ (Economics)[…]

เรียน GED Science

[et_pb_section fb_built=”1″ admin_label=”section” _builder_version=”3.0.47″][et_pb_row admin_label=”row” _builder_version=”3.0.48″ background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.47″][et_pb_text admin_label=”Text” _builder_version=”3.19.17″ background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat”] เรียน GED วิชาวิทยาศาสตร์ (Science) ซึ่งเป็นวิชาที่ GED กำหนดไว้ให้เป็นวิชาหนึ่งในการสอบของ GED โดยเนื้อหาวิชาที่จะใช้วัดผลการสอบของวิชาวิทยาศาสตร์ จะเน้นความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ replica rolex datejust ที่ผู้สอบควรจะต้องมีความรู้และความเข้าใจที่ลึกพอ และสามารถนำความรู้ความเข้าใจนั้นมาประยุกต์ใช้กับสถานการณ์จริงตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งกรอบเนื้อหาของวิชาวิทยาศาสตร์ที่ใช้ทดสอบจะครอบคลุมใน 3 วิชาทางวิทยาศาสตร์ คือ 1. Life science (ชีววิทยา) 2. Physical science (ฟิสิกส์) 3. Earth and space science (โลกและอวกาศ)           แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ของ GED จะประกอบด้วยข้อสอบจำนวน 50 ข้อ[…]

เรียน GED RLA (Reasoning through Language Arts)

สำหรับใครที่ต้องการ เรียน GED เพื่อการสอบ NEW GED ระบบใหม่ปี 2017 กับวิชา Reasoning Through Language Arts ซึ่งเป็นวิชาภาษาอังกฤษที่ผสมผสานเนื้อหาการเขียน (Writing) และการอ่าน (Reading) เข้าด้วยกัน พูดง่ายๆว่าเป็นวิชา Reading กับ Writing เดิมที่มารวมกันนั่นเอง โดยหลักๆจะทดสอบความสามารถในการอ่านและเข้าใจบทความ รวมทั้งสามารถตอบคำถามได้อย่างถูกหลักไวยากรณ์ มีเวลาให้ทำข้อสอบทั้งหมด 150 นาที และมีเนื้อหาหลักที่จะต้อง เรียน GED ดังนี้ Analysis of Arguments and Use of Evidence การวิเคราะห์บทความโต้เถียงเพื่อนำมาตอบคำถาม ผู้สอบควรเข้าใจเนื้อเรื่องและบริบทจากบทความ เพื่อยกเหตุผลจากโจทย์มาประกอบการอธิบายคำตอบได้ รวมทั้งการมีทักษะในการวิเคราะห์เพื่อให้สามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง Development of Ideas and Structure การมีไอเดียและข้อมูลในการเขียน มีทักษะในการเขียนบทความได้อย่างถูกต้องตามหลักโครงสร้าง Clarity and Command of Standard[…]

เคล็ดลับเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียน GED

[et_pb_section fb_built=”1″ admin_label=”section” _builder_version=”3.0.47″][et_pb_row admin_label=”row” _builder_version=”3.0.48″ background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.47″][et_pb_text admin_label=”Text” _builder_version=”3.19.17″ background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat”] การเรียน GED หรือ General Educational Development ซึ่งเป็นการสอบเทียบเท่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ผู้ที่ไม่ได้จบม.ปลายหรือ High School สายสามัญมีโอกาสนำวุฒิเทียบเท่าม.ปลายนี้ไปสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีหรือใช้ในการทำงานได้ เรียกได้ว่า  การเรียน GED เปรียบเสมือนการทำข้อสอบเทียบว่าจบม.6 ของอเมริกานั่นเอง   โดยวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก เคล็ดลับเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียน GED เตรียมตัวอย่างไรให้คุณสามารถเรียน GED ได้อย่างเข้าใจและพร้อมสำหรับการสอบในวันจริง ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 1.ศึกษาข้อมูลขั้นพื้นฐานของเรียน GED อันดับแรกเลยเราจะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆของการเรียน GED ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แบ่งเป็นกี่ส่วน เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง รวมไปถึงมีเวลาในการสอบเท่าไหร่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการสอบ GED จะใช้วิธีการทำข้อสอบในคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์สอบ โดยจะแบ่งการสอบ GED เป็น 4 วิชา[…]

ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การติว GED ผ่านไปด้วยดี

เรียกได้ว่าในปัจจุบันนี้ มีคนนิยมเลือกสอบ หรือติว GED เพื่อเป็นอีกหนึ่งเลือกสำหรับใช้ในการศึกษาและทำงานต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสด้านความรู้และเปิดทางชีวิตให้มีทางเลือกในการพัฒนาศักยภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก การติว GED หรือ General Educational Development เป็นการสอบเทียบเท่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ผู้ที่ไม่ได้จบม.ปลาย สายสามัญ สามารถนำวุฒิเทียบเท่าม.ปลายนี้ไปสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีหรือใช้ในการทำงานได้ ความยากในการสอบนั้นจะมีสัดส่วนของข้อที่ง่ายอยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และที่เหลือก็จะเป็นเนื้อหาระดับกลางไปจนถึงระดับที่ยาก โดยช่วงเวลาในการทำข้อสอบจะอยู่ที่ประมาณ 1-2.5 ชั่วโมง มีการสอบทั้งหมด 4 พาร์ทคือ Reasoning through Language Arts; Reading & Writing, Science, Social Studies, และ Mathematical Reasoning เรียกได้ว่า การติว GED จึงมีความสำคัญและมีความยากอยู่ในระดับหนึ่ง วันนี้เราจะพาไปดูปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การติว GED ของน้องๆผ่านไปได้ด้วยดี ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 1.ความพร้อมในการติว GED ขั้นพื้นฐาน อันดับแรกเลยเราจะต้องมีความพร้อมในการติว GED ขั้นพื้นฐาน[…]

ติว GED ยากหรือไม่ ฝึกฝนอย่างไรให้สอบผ่านเกณฑ์

การติว GED เป็นที่นิยมกันอย่างในปัจจุบันเนื่องจาก การติว  GED หรือ General Educational Development เป็นการสอบเทียบเท่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ผู้ที่ไม่ได้จบม.ปลายหรือ High School สายสามัญได้สามารถนำวุฒิเทียบเท่าม.ปลายนี้ไปสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีหรือใช้ในการทำงานได้ เรียกได้ว่า  การเรียน GED เปรียบเสมือนการทำข้อสอบเทียบว่าจบม.6 ของอเมริกานั่นเอง   ในหลายๆคนที่กำลังจะเข้าติว GED สำหรับการสอบ ก็มักจะเกิดความกลัวและคำถามสงสัยว่า ติว GED ยากหรือไม่ ??แล้วจะผ่านไหม  จะต้องใช้คะแนนเท่าไหร่ถึงจะผ่านเกณฑ์ กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้บ้าง วันนี้เราเลยมีคำแนะนำเกี่ยวกับการติว GED ว่ายากหรือไม่ ?? เป็นอย่างไรบ้าง?? ไปดูกัน ติว GED ยากหรือไม่? สำหรับการติว GED นั้นจะแบ่งแนวข้อสอบออกเป็น 4 ส่วน วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, สังคมศาสตร์, และภาษาอังกฤษ (การเขียนและการอ่าน) ซึ่งความยากในการสอบนั้นจะมีสัดส่วนของข้อที่ง่ายอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ และที่เหลือก็จะเป็นเนื้อหาระดับกลางไปจนถึงระดับที่ยาก โดยช่วงเวลาในการทำข้อสอบจะอยู่ที่ประมาณ 1-3 ชั่วโมง[…]

เทคนิคการเรียน GED แบบเห็นผลได้จริงๆ สอบผ่านฉลุยแน่นอน

การเรียน GED หรือ  General Educational Development คือการสอบเพื่อทำการเทียบเท่าวุฒิการศึกษาในระดับของมัธยมปลายของประเทศไทย เป็นการสอบตามหลักสูตรการศึกษาของทางประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะได้รับการยอมรับในการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ภาคภาษาอังกฤษ/นานาชาติ GED สามารถเรียกได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Equivalent to M.6 หรือ High School Diploma ซึ่งการเรียน GED จะประกอบไปด้วย 4 วิชาในการสอบ คือ Mathematics คณิตศาสตร์ , Language Arts; Reading & Writing (including Essay)  การอ่าน และ การเขียน , Science วิทยาศาสตร์ และ Social Studies สังคมศาสตร์ วันนี้เราจะพาไปดูเทคนิคการเรียน GED แต่ละส่วนกัน ติวอย่างไรให้ผลดี เนื้อหาของแต่ละส่วนนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้สร้างความเข้าใจและเป็นแนวทางในการเรียน GED ให้ได้ผลดี 1.เรียน[…]

เทคนิคในการเรียน SAT ติวอย่างไรให้เรียนรู้ได้รวดเร็ว

สิ่งหนึ่งที่จะทำให้การเรียน SAT เพื่อให้การสอบของคุณผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งการที่คุณจะสามารถเรียน SAT  เพื่อให้รู้หลักการอ่านแบบที่สามารถจดจำและประหยัดเวลาได้มากที่สุดนั้น จะต้องมีเทคนิคและองค์ประกอบหลายอย่าง  วันนี้เราได้รวมเทคนิคในการเรียน SAT  ในรูปแบบของการอ่านที่คุณสามารถนำไปใช้และเพิ่มทักษะการเรียน SAT ของคุณให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ในการอ่านหนังสือเพื่อฝึกการอ่านและการเรียน SAT นั้นลองพยายามฝึกซ้อมการอ่านหนังสือให้แม่นยำกับสิ่งที่อ่านให้ได้ก่อน เพื่อที่จะได้ทำให้คุณไม่กดดัน หรือเกิดความรู้สึกเครียดได้ มีหลากหลายวิธีที่จะทำให้คุณไม่ต้องรู้สึกกดดันมากเกินไป มาดูกันดีกว่าว่า ทักษะการอ่านที่ควรฝึกมีอะไรบ้าง? 1.อ่านในเนื้อหาส่วนสำคัญเป็นอันดับแรก การเรียน SAT  ในส่วนของการอ่าน ก่อนอื่นจะต้องรู้หัวใจสำคัญของเนื้อเรื่องให้ได้ การจะทำให้คุณได้รู้ถึงเนื้อเรื่องของหนังสือที่อ่านนั้น คุณควรเน้นการอ่านตรงความคิดหลักหรือใจความสำคัญ  เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้คุณเสียเวลากับการอ่าน มากนัก และยังสามารถช่วยให้การเจาะจงเนื้อหาอีกทั้งยังทำให้สรุปได้ทันที ซึ่งการเรียน SAT ในส่วนของการอ่าน เพียงแค่คุณอ่านเฉพาะในส่วนของย่อหน้าตรงบทสรุป รวมทั้งอ่านประโยคกับประโยคสุดท้ายของแต่ละย่อหน้า ซึ่งจะต้องตั้ง เป้าหมายในเรื่องนี้ว่าคุณต้องการอ่านเรื่องอะไร  เพื่อที่จะจับจุดที่จำเป็นในการเรียน SAT  สำหรับการตอบคำถามรายละเอียดที่ต้องการได้ 2.เน้นตอบคำถามที่เป็นรายละเอียดเล็กๆ ในส่วนของการเรียน SAT  ที่เป็นข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นการตอบคำถามเป็นข้อๆ  คุณเองก็จะต้องลองตอบคำถามที่เป็นรายละเอียดย่อย ๆ ให้ได้ ในส่วนสำคัญของเนื้อเรื่องก่อน  ซึ่งอาจเลือกตอบคำถามในส่วนที่คุณสามารถตอบได้ก่อน โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องโฟกัสที่เนื้อเรื่องทั้งหมด หรือจะค่อย ๆ อ่านเนื้อเรื่องไปพร้อมกับการตอบคำถามที่เป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่คุณสามารถตอบได้ก่อน[…]

เรียน SAT ขั้นพื้นฐานให้ได้ผลต่อเนื่อง

เคล็ดลับในการเรียน SAT  ขั้นพื้นฐานที่ควรรู้ไว้ ก็เพื่อที่จะทำให้คุณได้ปรับเปลี่ยนแปลงตัวเองในการเตรียมตัวสำหรับการทำคะแนนที่ดีที่สุด   เพราะการเรียน SAT ขั้นพื้นฐานนั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับใครหลาย ๆ คน นักศึกษาหรือผู้ที่เข้าทำการทดสอบส่วนใหญ่ ค่อนข้างที่จะเกิดความกังวลและไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน หรือเรียนจากที่ไหน?? ซึ่งข้อผิดพลาดในการทำข้อสอบ และเรียน SAT   คือความไม่สมเหตุสมผลของเนื้อหา และใช้เวลานานในการวิเคราะห์  ซึ่งบางหัวข้อหรือเนื้อเรื่องยังมีคำถามที่ไม่สามารถตีโจทย์ให้แตกได้ ทำให้เกิดความประมาทและไม่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง มาดูสิ่งที่จะช่วยให้คุณเข้าใจกับการเรียน SAT  ขั้นพื้นฐานกันดีกว่า 1.ปฏิบัติตามรูปแบบพื้นฐานของการเรียน SAT กฎสำคัญที่สุดในการเรียน SAT  คือมีคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียวสำหรับแต่ละคำถาม ซึ่งคุณควรจะจัดการนำคำตอบที่ ไม่สมเหตุสมผลออกไป   เท่ากับว่ากลยุทธ์ในขั้นตอนแรกของคุณในการทดสอบก็คือ เป็นการคัดคำตอบที่ไม่สมดุลทิ้ง หากคุณกำลังดิ้นรนกับคำถามเพื่อตีโจทย์ให้แตก ลองใช้วิธีหาเหตุผลที่จะคัดเลือกคำตอบที่ไม่ใช่ออกไป ดูสิ ศึกษาข้อมูลต่างๆเพื่อค่อย ๆ คัดคำตอบที่ไม่ใช่ออกไปอย่างละเอียด  ควรหาเหตุผลกับรูปแบบการทดสอบขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นอีกหนึ่งของบทเรียน SAT ในการวิเคราะห์คำตอบ 2.การเรียน SAT ต้องทำความเข้าใจกับข้อผิดพลาดเสมอ สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณสามารถปรับปรุงศักยภาพการเรียน SAT ได้เป็นอย่างดี คือ พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผิดพลาดทุกครั้ง และหาคำตอบที่ถูกต้อง  การใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจกับข้อผิดพลาดแต่ละข้อที่คุณทำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถวิเคราะห์กับการเรียน SAT  ขั้นพื้นฐานเพื่อให้การทำข้อสอบได้อย่างถูกต้อง  และนั่นจึงเป็นบทเรียนที่คุณจะไม่ทำมันอีกนั่นเอง ซึ่งไม่ว่าปัญหาของคุณจะเป็นอย่างไร[…]

พิชิตคะแนน A-Level ที่ The Planner

ผลสอบ A-Level น้องๆรู้หรือไม่ว่าผลการสอบของ A-Level นั้นมีทั้งหมด 6 ระดับด้วยกัน คือ A*, A, B, C, D และ E  โดยทั่วไปแล้ว ในการยื่นคะแนนสอบนี้กับทางมหาวิทยาลัยนั้น ส่วนมากก็จะพิจารณาผลการสอบในระดับ C ขึ้นไปนะคะ หรือบางมหาวิทยาลัยอาจจะรับเฉพาะนักเรียนที่ได้คะแนนสอบตั้งแต่ระดับ B ขึ้นไปเท่านั้นค่ะ และส่วนผลของการสอบ A-Level นี้ก็จะเป็นเกณฑ์ชี้วัดที่ทางสถานศึกษาใช้สำหรับการพิจารณาเพื่อการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อที่ประเทศไทยทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐ (หลักสูตรอินเตอร์) และ มหาวิทยาลัยเอกชน (หลักสูตรไทยและหลักสูตรอินเตอร์) รวมถึงหากมีน้องๆคนไหนสนใจที่จะยื่นคะแนนสอบกับมหาวิทยาลัยประเทศอังกฤษ หรือประเทศอื่นๆ ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ เพราะ A-Level นั้นเป็นหลักสูตรการศึกษา 2 ปี ของประเทศอังกฤษที่มีคุณภาพมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในหลายๆประเทศอีกด้วย โดยการสอบ A-Level ในประเทศไทยก็จะมีขึ้นปีละ 2 ครั้งนะคะ นั้นก็คือระหว่างเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน และอีกครั้งคือระหว่างเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ในทุกๆปีค่ะ โดยค่ายจัดสอบ A-Level ที่นิยมสอบกันก็มีอยู่ 3 ค่ายสอบ คือ ค่ายสอบ[…]

เรียน A-Level Physics กับ The Planner ติวได้คะแนนดีแน่นอน

เรียน A-Level Physics กับ The Planner คะแนนดีแน่นอน มารู้จักวิชา Physics กัน Physics ก็คือวิทยาศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับสสารและพลังงาน นั่นเอง ซึ่งเราเรียนรู้วิชาฟิสิกส์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างสสารกับพลังงาน อีกทั้งวิชาฟิสิกส์ก็ยังเป็นความรู้พื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผลิต และการออกแบบเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับโลกอีกด้วย วิชา Physics กับ A-Level เกี่ยวข้องกันอย่างไร? สำหรับรายวิชาของการเรียน A-Level นั้นจะมี 4 กลุ่มหลักๆด้วยกันดังต่อไปนี้ กลุ่มที่ 1 : Mathematics and Science กลุ่มที่ 2 : Languages กลุ่มที่ 3 : Arts and Humanities กลุ่มที่ 4 : Global Perspectives วิชา Physics ก็คือหนึ่งในรายวิชาของกลุ่มที่ 1 หรือกลุ่ม[…]

เรียน A-Level ที่ The Planner

เรียน A-Level ไปเพื่ออะไร? A-Level (Advanced Level) นั้นสามารถเรียนเพื่อนำผลสอบที่ได้ไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัย ของสหราชอาณาจักร หรือ ประเทศอื่นๆ รวมทั้งสามารถนำไปยื่นเพื่อเข้ามหาวิยาลัยรัฐในไทย (ภาคอินเตอร์) และมหาวิทยาลัยเอกชน (ทั้งภาคไทยและอินเตอร์) เนื่องจากเป็นการสอบที่มีมาตรฐาน จึงทำให้ได้รับการยอมรับอย่างมากมายจากหลายๆประเทศ เหมาะสำหรับนักเรียนไทย ที่ต้องการนำผลสอบที่ได้ไปยื่นเพื่อเทียบวุฒิ ม.6 สำหรับใช้เรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศนั้นๆ   เกี่ยวกับวิชา History ใน A-Level History หรือ ประวัติศาสตร์ หมายถึงการค้นพบ รวบรวมเรื่องราว จัดระเบียบและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต ประวัติศาสตร์ยังอาจหมายถึงช่วงเวลาหลังมีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นด้วย โดยทำการพิจารณาและวิเคราะห์ลำดับของเหตุการณ์ จากการเล่าเรื่องราวประกอบกับการอ้างอิงหลักฐานในเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งการศึกษาประวัติศาสตร์สามารถนำมุมมองที่ได้มาประยุกต์เป็นวิถีทางให้กับปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือทำการวิวัฒนาการสิ่งที่มีในอดีตให้ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น History จึงถือว่าเป็นวิชาพื้นฐานในการเรียนและควรเลือกเรียนใน  A-Level ด้วย ทำไมต้องเลือกเรียน A-Level History ที่ The Planner ? เหตุผลที่น้องๆควรเลือกเรียน A-Level History ที่ The Planner Education[…]

เรียน A-Level ที่ The Planner

เรียน A-Level ไปเพื่ออะไร?             A-Level (Advanced Level) นั้นสามารถเรียนเพื่อนำผลสอบที่ได้ไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัย ของสหราชอาณาจักร หรือ ประเทศอื่นๆ รวมทั้งสามารถนำไปยื่นเพื่อเข้ามหาวิยาลัยรัฐในไทย (ภาคอินเตอร์) และมหาวิทยาลัยเอกชน (ทั้งภาคไทยและอินเตอร์) เนื่องจากเป็นการสอบที่มีมาตรฐาน จึงทำให้ได้รับการยอมรับอย่างมากมายจากหลายๆประเทศ เหมาะสำหรับนักเรียนไทย ที่ต้องการนำผลสอบที่ได้ไปยื่นเพื่อเทียบวุฒิ ม.6 สำหรับใช้เรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศนั้นๆ เกี่ยวกับวิชา History ใน A-Level             History หรือ ประวัติศาสตร์ หมายถึงการค้นพบ รวบรวมเรื่องราว จัดระเบียบและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต ประวัติศาสตร์ยังอาจหมายถึงช่วงเวลาหลังมีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นด้วย โดยทำการพิจารณาและวิเคราะห์ลำดับของเหตุการณ์ จากการเล่าเรื่องราวประกอบกับการอ้างอิงหลักฐานในเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งการศึกษาประวัติศาสตร์สามารถนำมุมมองที่ได้มาประยุกต์เป็นวิถีทางให้กับปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือทำการวิวัฒนาการสิ่งที่มีในอดีตให้ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น History จึงถือว่าเป็นวิชาพื้นฐานในการเรียนและควรเลือกเรียนใน  A-Level ด้วย ทำไมต้องเลือกเรียน A-Level History ที่ The Planner ? เหตุผลที่น้องๆควรเลือกเรียน A-Level History ที่ The Planner[…]

เรียน A-Level Economics

เรียน A-Level Economics                น้องๆคนไหนกำลังสนใจเรียน A-Level Economics เพื่อให้ได้เกรดที่ดีในรอบเดียวสามารถมาจัดคอร์สเรียน A-Level กับทางสถาบัน The Planner Education ได้เลยนะคะ น้องๆสามารถจัดคอร์สเรียนเดี่ยว หรือจัดกลุ่มมาเองก็ได้ค่ะ The Planner เปิดสอนคอร์สการเรียน A-Level มานานหลายปีและมีชื่อเสียงยาวนานในด้านการติว A-Level Economics คุณครูผู้เชี่ยวชาญของเราจบการศึกษาจากสาขา Economicsโดยตรง หลักสูตรการเรียนการสอนของเรามีความพิเศษและแตกต่างจากที่อื่นๆเพราะเราจะเน้นการเขียนตอบเพื่อให้ได้คะแนนเต็มในข้อสอบ เน้นการเรียนการสอนแบบถามตอบในห้องเรียน สอนเข้าสู่เนื้อหาเชิงลึกให้ผู้เรียนเข้าใจ สามารถทำข้อสอบได้จริงและเจาะลึกแต่ละทฤษฏีของ A-Level Economics ที่พบมากในข้อสอบ ให้น้องๆสามารถวิเคราะห์แต่ละทฤษฎีได้อย่างถูกต้องแม่นยำเพื่อช่วยให้น้องๆได้คะแนนเต็มตามจำนวนข้อนั้นๆและมีผลสอบที่น่าประทับใจ  การันตีได้จากผลสอบที่ผ่านมาของนักเรียนที่เรียน A-Level ที่ The Planner ซึ่งสามารถทำคะแนนได้สูงมาก ทางสถาบันเดอะ แพลนเนอร์ยังช่วยให้ความรู้และแนะนำน้องๆที่ต้องการจะสอบ A-Level Economics ในการเตรียมตัวสอบ จำนวน paper ที่ต้องสอบ ระยะเวลาในการทำข้อสอบ การคิดคำนวณคะแนนเป็นเปอร์เซ็นต์ สำหรับเนื้อหาในการเรียนวิชา A-Level Economics นั้นทางสถาบัน The Planner[…]

A-Level Psychology By PLANNER

เรียน A-Level  Psychology กับ The Planner การสอบ A-Level Psychology ของน้องๆจะไม่ยากอีกต่อไป และผลสอบ A-Level Psychology ของน้องๆก็จะเป็นที่ประทับใจอย่างแน่นอนหากน้องๆได้รับการติว A-Level จากสถาบันชั้นนำอย่าง The Planner Education The Planner เป็นหนึ่งในสถาบันชั้นนำของประเทศในด้านการสอน A-Level โดยเราเน้นสอนครอบคลุมเนื้อหาข้อสอบ100% และที่สำคัญวิธีการตอบให้ได้คะแนนเต็มของแต่ละข้อ พร้อมทั้งแนะนำน้องๆในการรับมือ เตรียมความพร้อมในการทำข้อสอบ ให้น้องๆเข้าใจข้อสอบอย่างลึกซึ้ง จำนวน paper ที่น้องๆต้องทำ ระยะเวลาในการทำข้อสอบของแต่ละ paper เขียนตอบอย่างไรให้ได้คะแนนสูงๆ การคิดคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ ทุกคอร์สสอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสอน A-Level ในวิชานั้นๆโดยตรง น้องคนไหนจะสอบ A-Level Psychology ของค่ายสอบไหนสามารถแจ้งก่อนเรียนได้เลย ส่วนตอนนี้ลองดูเนื้อหาการเรียน A-Level Psychology ตาม Syllabus ของ CIE ( Cambridge International Examinations) เบื้องต้นก่อนได้เลยค่ะ Topics[…]