วางแผนการเรียน GED ให้ผ่านในรอบเดียว

GED ย่อมาจาก General Educational Development ถือเป็นการศึกษานอกระบบแนวหนึ่งซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการว่ามีวุฒิเทียบเท่ากับระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย การเรียน GED นั้นมี 5 วิชาด้วยกันคือ Reading, Writing, Mathematics, Science และ Social Studies และถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนรักความก้าวหน้า ในการวางแผนชีวิตเนี่ย เราวางแผนได้ 2 แบบคือ พูดว่าอยากจะเป็นนั่นเป็นนี่ และรู้สึกว่าอยากเป็นนั่นเป็นนี่ น้องๆลองคิดดูนะว่าใน 2 แบบเนี่ย แบบไหนที่จะไปได้ถึงฝั่งฝัน…แน่นอนว่าต้องเป็นพวกที่รู้สึกอยากใช่ไหมครับ เพราะพอรู้สึกก็อยากที่จะทำ เมื่อทำก็สำเร็จได้ไม่ยาก แต่คนที่ได้ทำแล้วสามารถทำให้มีความสม่ำเสมอไปตลอดรอดฝั่งมันก็มีน้อย เพราะอุปสรรคมันมีได้ตลอดเวลา น้องๆลองนึกดูนะ สมมติว่าวันนี้น้องๆกำลังเรียน GED เรื่องที่น้องไม่เคยเรียนหรือได้ยินมาก่อนเลย น้องๆจะรู้สึกอย่างไร พี่เชื่อว่ามีไม่กี่คนหรอกที่จะคิดว่า “อู้หู…เรียน GED เรื่องนี้มันน่าตื่นเต้นเร้าใจจริงๆ อยากจะหาคำตอบให้ได้เร็วๆจัง…” ในทางกลับกัน ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า “โห…ยากจัง นี่ขนาดบทแรกนะนี่ แล้วบทต่อไปเราจะรอดเหรอ?” เคยคิดอย่างนี้กันบ้างไหมล่ะครับ? แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เราคิดแบบนี้ เชื่อได้เลยว่ารอดยาก ในสถานการณ์แบบนี้นี่แหละที่เราอยากจะมีที่ปรึกษาดีๆซักคน ที่จะช่วยดึงให้เรามีกำลังใจเข้มแข็งได้เหมือนเดิม…คุณครูที่ The Planner[…]

เรียนGED ทางเลือกใหม่ที่ลงตัว

การเรียนGED (General Education Development) เป็นการเรียนใน 5 วิชาหลัก สำหรับหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งใช้ในการสอบเพื่อศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ เทียบเท่ากับวุฒิ ม.ปลาย ประกอบไปด้วย Language Arts ; Reading และ Writing (ทักษะการอ่านและเขียน), Social Studies(สังคมศึกษา), Science(วิทยาศาสตร์) และ Mathematics(คณิตศาสตร์) การเรียนการสอนในปัจจุบันนี้มีการแข่งขันสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเนื้อหาก็ยกระดับความยากมากขึ้นทุกๆปี ปัญหาอีกอย่างก็คือการทำงาน สำหรับผู้ที่กำลังเรียนอยู่นั้นไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าถ้าเรียนจบแล้วจะสามารถเป็นผู้เลือกงานที่ต้องการได้หรือไม่…หรืองานที่จะทำนั้นจะตรงกับสาขาที่ได้เรียนมาหรือไม่…ดังนั้นเรื่องของอนาคตจึงต้องถูกกำหนดด้วยปัจจุบัน เนื่องจากมีสถาบันสอนเสริมเกิดขึ้นมากมายน้องๆเองไม่สามารถที่จะทราบได้เลยว่าที่ใดจะตอบโจทย์ที่น้องๆต้องการได้มากที่สุด แต่น้องๆมีสิทธิ์ที่จะเลือกครับว่าจะเบนเข็มทิศของตัวเองไปทางใด การเรียนGED เองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวนัก เนื่องจากการเรียนGED นั้นมีข้อได้เปรียบอยู่หลายประการด้วยกันครับ ประการแรก การเรียนGED นั้นน้องๆเรียนเพียง 5 วิชาที่จำเป็นจะต้องนำไปใช้เพื่อสอบ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อวิชาเรียนน้อยลงน้องๆก็สามารถที่จะใช้เวลาเรียนในแต่ละวิชาได้มากขึ้น ระดับความเข้าใจก็จะเพิ่มขึ้นแบบแปรผันตรงครับ ประการที่สองคือ หากเรียนGED แล้วสอบไม่ผ่าน น้องๆสามารถที่จะเรียนซ้ำได้ฟรีครับ ซึ่งน้องๆที่สอบไม่ผ่านเนี่ยอย่ามองว่าเป็นเรื่องน่าอายนะครับ ต้องถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ทบทวนเนื้อหาที่ไม่เข้าใจให้เข้าใจได้ถ่องแท้มากขึ้นแล้วยิ่งสามารถเรียนซ้ำได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยยิ่งเป็นอะไรที่ได้กำไรอย่างมหาศาลเลยนะครับ ประการที่สาม การเรียนGED จะเรียนกันแค่กลุ่มเล็กๆครับ การเรียนเป็นกลุ่มเล็กจะช่วยให้น้องๆมีสมาธิมากขึ้น เมื่อไม่เข้าใจก็สามารถประเคนคำถามกับพี่ๆติวเตอร์ที่มีความรู้ความสามารถ แถมยังใจดีพร้อมให้คำปรึกษากับน้องๆทุกคนอีกด้วย ประการที่สี่ก็คือ ในการเรียนGED[…]

เรียนGED จบไว ได้มาตรฐาน

การเรียนGED (General Education Development) เป็นหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการว่าเทียบเท่ากับระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งสามารถนำไปสอบเรียนต่อได้ในระดับอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ น้องๆที่มีความต้องการเรียนให้จบในหลักสูตร ม.ปลายนั้น การเรียนGED ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะครับสำหรับน้องๆที่อาจมีเหตุจำเป็นส่วนตัวมากมาย เช่น เพิ่งกลับจากต่างประเทศและต้องการปรับวุฒิเพื่อนำไปสอบเรียนต่อ น้องๆที่มีเหตุต้องหยุดเรียนไปแล้วกลับมาเรียนต่อ หรือแม้กระทั่งน้องๆที่ต้องการสอบเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาให้เร็วขึ้น การเรียนGED ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการของน้องๆได้ครบถ้วนครับ เนื่องจากการเรียนGED นั้นเราจัดวิชาที่จำเป็นในการสอบเรียนต่อไว้ให้ 5 รายวิชาครับคือ Language Arts ; Reading และ Writing (กลุ่มภาษาทักษะอ่านและเขียน) Social Studies(สังคมศึกษา) Science(วิทยาศาสตร์) และ Mathematics(คณิตศาสตร์) อีกทั้งยังเปิดคอร์สระยะสั้นให้ได้เรียนและสอบกัน ที่นี้ความกังวลที่อาจเกิดขึ้นก็คือ เรียนระยะสั้นแล้วจะได้มาตรฐานหรือ? ไม่ต้องกังวลครับ เรื่องมาตรฐานทางเรารักษาไว้แน่นอนครับ เพราะกระทรวงศึกษาธิการก็ได้รับรองแล้วว่าได้มาตรฐาน และทางเราก็ยังได้เตรียมการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนที่สอบไม่ผ่านครับ โดยสามารถจะเรียนซ้ำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ แต่น้องๆจะต้องวางแผนให้ดี ถึงแม้ว่าเราสามารถจะเรียนซ้ำได้ แต่ถ้าเรียนซ้ำบ่อยๆก็จะทำให้จบช้ากว่าเกณฑ์ได้นะครับ ในการเรียนGED วิชาหลัก 5 วิชานี้ไม่ได้มากเกินไปที่จะเอาใจใส่เนื้อหาให้ได้อย่างละเอียดครับ ในขณะที่ลงคอร์สเรียนGED ในแต่ละวันนั้น น้องๆก็ควรมีการเตรียมตัวกันมาก่อนบ้าง เพื่อที่เวลาเรียนน้องๆจะได้เข้าใจได้เร็วขึ้นไงครับ ตอนเรียนถ้าไม่เข้าใจก็ควรกล้าที่จะถามพี่ๆติวเตอร์ครับ เพราะพี่ๆใจดีทุกคน พร้อมตอบคำถามเพื่อให้ความกระจ่างกับน้องๆทุกคนเช่นกัน[…]

เรียน GED สอบเข้าอินเตอร์ทางลัดฉบับอัจฉริยะ

การเข้าเรียนอินเตอร์มีหลายช่องทาง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีหลายมหาวิทยาลัยที่คณะอินเตอร์เด่นๆ และดังๆ อาทิ CUINTER TUINTER MUICINTER มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล ทางเลือกที่ฮิตและเป็นที่จับตามองและน่าสนใจมากที่สุด โดยนำหน้าคนอื่นไปหนึ่งก้าว โดยไม่สนเรื่องข้อจำกัดอายุด้านการศึกษา ก็คือการสอบเข้าแบบฉบับ GED นั่นเอง การสอบแบบ GED คือการสอบเทียบเท่าวุฒิการศึกษาตอนปลายโดยใช้ transcript และ Diploma โดยสอบทั้งหมด 5 วิชาคือ writing social science reading mathematics และที่ง่ายกว่านั้นคือ ตัวข้อสอบเป็นแบบสอบปรนัยนั่นเอง การเลือกสอบสิ่งนี้เพราะถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและฉลาดทางหนึ่ง เพราะฉะนั้นถึงต้องมีการเรียน GED เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสอบ GED นั่นเอง แล้วการเรียน GED ดียังไง   1.ไม่ต้องจบ ม.6 ก็สามารถเข้ามหาลัยอินเตอร์ได้โดยการเรียน GED เจ้าหลักสูตรการเรียน GED ถือเป็นทางลัดและตัวช่วยที่สำคัญในการย่นระยะเวลาและเลื่อนขั้นไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ โดยสามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป สำหรับผู้ที่สนใจจะเรียนสาขาวิชาหลักสูตรนานาชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยไม่ต้องรอจนจบ ม.6 และเรียน[…]

เรียน ged ไม่ยากอย่างที่คิดกับ The planner Education

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจจะเรียน ged ทางสถาบัน The planner Education เรามีความพร้อมทั้งหลักสูตรและทีมครูผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญ ผ่านการสั่งสมประสบการณ์การติวให้นักเรียน Ged มาแล้วจำนวนมาก น้องๆ คนไหนที่สนใจอยากเรียน ged วันนี้ทาง The planner Education มีรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรเรียน ged ที่น้องๆ ต้องรู้และเข้าใจก่อนการตัดสินใจเรียนมาฝาก เพื่อช่วยให้น้องๆ วางแผนและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง ก่อนอื่นพี่ขออธิบายก่อนนะคะว่าหลักสูตร ged แท้จริงแล้วมันคืออะไรแล้วเหมาะสำหรับน้องๆ คนไหนบ้าง Ged (General Educational Development) เป็นระบบการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อสอบเทียบวุฒิในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (High school) ภายใต้มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา น้องๆที่มีสิทธ์สอบจะต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไปแต่จะได้รับใบจบเมื่ออายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ น้องๆ อาจจะรู้จัก GED ในชื่ออื่น เช่น Accredited, High School Diploma, Equivalent M.6 เป็นต้น หลักสูตร[…]

เรียน ged ไม่ใช่เพื่อแค่ให้สอบผ่าน

เรียน ged ที่ไหนดีถึงจะแน่นไปด้วยความรู้ และไม่ใช่เพื่อแค่ให้แค่สอบผ่านไปได้เท่านั้น แต่มีอะไรที่เราควรจะได้รับมากกว่า น้องๆ หลายคนคงจะรู้จักกันมาบ้างแล้วนะคะว่า GED (General Education Development) นั้นคืออะไร และหลายคนคงสนใจกับการสอบวัดผลของ GED นี่อยู่พอสมควร เพราะเมื่อเราสอบผ่านก็จะได้วุฒิการศึกษาที่เทียบเท่ากับวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลาย (ม.6) โดยไม่ต้องไปเสียเวลานั่งเรียนในระบบกันเลยล่ะค่ะ เอ๊ะยังไง ก็เพราะ GED นี่คือระบบการศึกษาด้วยตัวเองหรือ Home School ของอเมริกา และถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ กศน.อเมริกานั่นเองยังไงล่ะคะ ถามว่าใครที่สามารถเรียน ged ได้บ้าง? ต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปค่ะ จึงจะสามารถสมัครเข้าสอบวัดผลได้ ผู้ที่ไม่มีเวลาไปเรียนในระบบ หรือน้องๆ ที่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนพอกลับมาแล้วไม่อยากเรียนซ้ำชั้น ก็สามารถไปสอบวัดผล เอาวุฒิเพื่อไปใช้ประกอบการศึกษาต่อ ซึ่งใช้ได้ทั้งในประเทศตามมหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชนที่มีระบบการเรียนการสอนแบบอินเตอร์และมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ แต่จากการที่เราไม่ได้เรียนในระบบโดยตรงนี่แหละ ที่จะทำให้เราเสียเปรียบในเรื่องความรู้ที่อาจจะไม่แน่นพอ ดังนั้นการเรียน ged เพิ่มเติมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการสอบเราก็คงไม่ได้หวังแค่ให้สอบผ่านใช่ไหมล่ะคะ หากสอบผ่านแล้วได้คะแนนสูงๆ ด้วย นั่นยิ่งจะน่าภูมิใจกว่าเป็นไหนๆ จากการที่เราไม่ได้เรียนในระบบหรือเรียนแต่คิดว่าความรู้ที่เรามีอาจจะยังไม่แน่นพอ จึงอาจจะทำให้มีความกังวลใจกับการสอบอยู่บ้าง ข้อนั้นไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราสามารถเรียน ged[…]

เรียน ged ทั้งทีเรียนที่ไหนดีนะ

GED (General Education Development) เป็นระบบการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเรียน ged เป็นการเรียนเพื่อสอบเทียบเท่าในระดับมัธยมปลาย ที่เมื่อสอบผ่านได้ประกาศนียบัตรมาแล้ว ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อ ในระดับอุดมศึกษาต่อไปได้ ทั้งมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยภายในประเทศไทยที่เปิดสอนในหลักสูตรนานาชาติ ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐ และมหาวิทยาลัยเอกชน ผู้เรียน ged ต้องสอบทั้งหมด 5 วิชาคือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคม วิชาการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อทำคะแนนรวมให้ได้ไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน จากคะแนนเต็มทั้งหมด 4,000 คะแนน แต่ล่ะวิชาจึงมีคะแนนเต็มวิชาละ 800 คะแนน ซึ่งต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 410 คะแนนต่อวิชาด้วย จึงจะถือว่าสอบผ่าน แต่ถ้าหากสอบไม่ผ่าน ผู้เรียน ged สามารถเลือกสอบใหม่ในรายวิชาที่ยังสอบไม่ผ่าน หรือวิชาที่ตัวเองถนัดได้ โดยที่ไม่ต้องสอบใหม่ทั้งหมดทุกวิชา เนื่องจากการสอบจะใช้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษผู้เข้าสอบจึงต้องมีทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีพอสมควรด้วย การเรียน ged เพื่อสอบเทียบวุฒิผู้สอบต้องมีอายุตั้งแต่ 16 บริบูรณ์ปีขึ้นไป (ผู้เข้าสอบที่มีอายุ 16 ปีต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครองด้วย) จึงสามารถสมัครเข้าสอบเทียบได้ แต่หากจะไปสมัครสอบเลยก็เกรงว่าความรู้จะไม่แน่นพอ[…]

เรียน ged คือว่างไร มันดียังไง ทำไมถึงต้องเรียน

เชื่อว่าหลายคนคงพอจะรู้มาบ้างแล้วนะคะว่าเรียน ged คืออะไร แต่สำหรับหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้ เราขออธิบายคร่าวๆ ตรงนี้อีกครั้ง GED (General Education Development) คือระบบการเรียนในรูปแบบ กศน.ของสหรัฐอเมริกา หรือที่นิยมเรียกกันง่ายๆ ว่า Home School ค่ะ ซึ่งเป็นระบบการเรียนที่เหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางไปเรียนที่โรงเรียน หรือสำหรับคนที่ต้องการวุฒิการศึกษา เมื่อสอบผ่านแล้วก็จะได้วุฒิการศึกษาในระดับ High School นั่นเอง ซึ่งก็เทียบเท่าวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลาย (ม.6) ของเมืองไทย มีเด็กไทยจำนวนมากสนใจเรียน ged และไปสอบ เพื่อนำวุฒินี้ไปประกอบการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น แต่น้องๆ ที่สอบในเมืองไทย เมื่อสอบผ่านแล้วต้องนำวุฒิไปปรับเทียบเพื่อรับการรับรองวุฒิที่ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการก่อนนะคะ ถึงจะสามารถนำไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ การสอบ ged ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากจะว่ายากก็ไม่น่าจะยากเกินความสามารถของเราจริงหรือเปล่าคะ แล้วเราควรมีการเตรียมตัวก่อนสอบอย่างไร จึงจะมั่นใจได้ว่าเรามีความรู้ที่แน่นพอที่ทำข้อสอบได้ ดังนั้นหากเราคิดจะสอบก็ควรเริ่มมองหาที่เรียน ged เป็นอันดับแรกก่อนเลยค่ะ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้เวลาไปสอบจะได้มั่นใจ มีสถาบันที่รับสอนมากมายให้เราเลือก แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรคะ ว่าที่ไหนเป็นมืออาชีพในการสอนด้านนี้จริงๆ เพราะการเข้าสอบแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายก็แสนแพง น้องๆ ก็คงอยากจะสอบครั้งแรกแล้วผ่านกันเลยใช่ไหมคะ อับดับแรกเราควรมองหาสถานที่เรียนที่มีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับและเป็นมืออาชีพด้านนี้จริงๆ ก่อน[…]

เรียน ged กับสถาบันมืออาชีพ The planner education

น้องๆ คนไหนที่มีความฝันอยากจะเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาภาคอินเตอร์ทั้งในและต่างประเทศ ย่อมต้องศึกษาและทำความเข้าใจมาก่อนแล้วว่า น้องๆ จะต้องเตรียมตัวสอบอะไรบ้างเพื่อใช้เป็นใบเบิกทางประกอบการสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาให้ได้ดังหวัง ซึ่งก็มีน้องๆ จำนวนไม่น้อยที่ต้องการไปถึงฝั่งฝันให้เร็วกว่าปกติ เพราะบางคนอาจมีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อมจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยก่อนวัย Ged Certificate จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นทางลัดไปสู่รั้วมหาวิทยาลัยในภาคอินเตอร์ได้ เพราะถ้าน้องคนไหนสามารถสอบผ่าน Ged (General Education Development) ได้ ย่อมหมายถึงว่าน้องๆ สามารถย่นระเวลาในการเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาให้เร็วขึ้นได้ถึง 1-2 ปีเลยทีเดียว Ged เป็นหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อใช้สอบเทียบวุฒิในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (High school) ภายใต้มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา น้องที่สามารถสมัครสอบได้จะต้องมีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปและสามารถได้รับใบจบ หรือ Ged Certificate เมื่ออายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ นักเรียนที่ถือว่าสอบผ่านจะต้องได้คะแนนในแต่ละรายวิชาไม่น้อยกว่า 410 คะแนน โดยสอบทั้งหมด 5 วิชาและคะแนนรวมทั้ง 5 วิชาจะต้องไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน การจะสอบให้ผ่านด้วยตนเองจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก น้องๆ จึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยหรือผู้นำทางที่ดีในการพาน้องๆ ไปให้ถึงจุดหมาย ปัจจุบันจึงมีน้องๆ ที่ตั้งใจจะสอบ Ged Certificate นิยมมาเรียน ged[…]

คิดจะเรียน GED เรียนกับ The planner Education สิคะ

GED หรือ General Educational Development คือ การสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลาย ในระบบหลักสูตรการเรียนการสอนของสหรัฐอเมริกา ของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้สมัครสอบจะต้องอยู่ในช่วงอายุ 16-17 ปีเท่านั้น และต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ข้อสอบ GED ประกอบด้วย 5 วิชา คือ Mathematics, Science , Social Studies Language Art: Reading และ Language Arts: Writing ข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นปรนัยหรือ Multiple choices ค่ะ แต่มีข้อสอบเขียนอยู่บ้างในหมวดการเขียนเรียงความและการตอบคำถามสั้นๆ โดยผู้สอบจะต้องทำคะแนนขั้นต่ำของแต่ละวิชาให้ได้ 410 คะแนน จากคะแนนเต็ม 800 คะแนน และผู้สอบต้องได้คะแนนรวมทั้ง 5 วิชาไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน เมื่อคะแนนผ่านเกณฑ์ครบทั้ง 5 วิชาแล้ว ผู้สอบจะได้รับวุฒิการศึกษาที่รับรองจากกระทรวงศึกษาธิการค่ะ สำหรับผู้ที่สอบ GED ไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด หรือผู้ที่ต้องการลงสอบใหม่[…]

เรียน GED เรียน IELTS Writing: เขียน Essay อย่างไรให้ได้คะแนนเยอะ

การเขียนเรียงความเป็นงานที่หลายคนไม่ชอบ เรียงความภาษาไทยก็นับว่ายากแล้วเรียงความภาษาอังกฤษความยากยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ การเรียนGED หรือ IELTS เป็นการเตรียมตัวสอบวัดความสามารถที่ยอมรับกันในระดับสากลในปัจจุบันนี้ เช่นการสอบ GED หรือการสอบ IELTS จะมีโจทย์ให้เขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษหรือที่เรียกว่า Essay สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวสอบและกังวลกับการเขียนเรียงความนี้ เรามีคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเพื่อทำข้อสอบในส่วนเขียนอย่างไรให้ได้คะแนนเยอะ ดังต่อไปนี้ อ่านให้มาก ควรเลือกอ่านบทความที่ดีมีคุณภาพในหนังสือพิมพ์ นิตยสารและเว็บไซต์ต่างๆ จะทำให้เราได้เห็นตัวอย่างที่ดี การเรียบเรียงความคิด คำศัพท์ใหม่ๆ รูปแบบการเขียน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ถ้าเราได้อ่านอย่างมากพอจะทำให้เราซึมซับได้อย่างอัตโนมัติโดยที่อาจจะไม่ต้องท่องจำไวยากรณ์อย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งอ่านมากคลังคำก็มากตามทำให้การเขียนของเราดีขึ้นตามไปด้วย อ่านโจทย์ให้เข้าใจ ว่าโจทย์ต้องการให้เราเขียนเกี่ยวกับอะไร ถึงแม้ว่านักเรียนจะเขียนได้ไพเราะถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ทุกอย่าง แต่เขียนตอบไม่ตรงคำถามก็คงไม่ได้คะแนนดีเท่าที่ควร เขียนให้ถูกวิธี บทความนั้นจะแบ่งได้เป็น 3ส่วนหลักๆ คือIntroduction, BodyและConclusionโดยแต่ละส่วนจะมีลักษณะดังนี้ Introductionหรือ บทนำจะเป็น Paragraph แรกของ Essay ส่วนนี้มีความสำคัญมากต้องเขียนดึงดูดใด้ผู้อ่านสนใจที่จะอ่านต่อไปในส่วนเนื้อหาให้ได้ Body เป็นส่วนใจความสำคัญ เป็นส่วนที่ยาวที่สุดที่จะบอกเล่าเนื้อหาต่างๆ ผู้เขียนควรวางโครงเรื่องให้ดี ให้มีความสอดคล้องกันตลอดเรื่อง ครบทุกประเด็นที่โจทย์ต้องการ Conclusionคือ บทสรุปของเนื้อหาทั้งหมดซึ่งจะขมวดใจความสำคัญของเรื่อง ตรงประเด็น ไม่ขัดแย้งกับเนื้อหาที่เขียน *อย่างไรก็ตาม เราจะต้องพิจารณาว่าหัวข้อที่เราได้มานั้นควรจะถูกเขียนเป็น 4 หรือ 5[…]

มารู้จัก GED ให้มากขึ้นกันดีกว่า

หากถามผู้ใหญ่หลายๆ คนว่า GED คืออะไร เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะส่ายหน้าว่าไม่รู้จัก แม้ไปถามเด็กนักเรียนก็อาจจะมีบางคนไม่รู้จักเช่นกันก็เป็นได้ GED ย่อมาจาก General Education Development หมายถึง การสอบเทียบวุฒิการศึกษามัธยมปลายตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ สามารถสอบได้ ประวัติความเป็นมาของการสอบเทียบ ม.ปลาย (GED Test) การสอบเทียบถือกำเนิดขึ้นจากเจตนาดีที่ต้องการเพิ่มโอกาสให้กับคนทั่วไปที่ไม่ได้รับการศึกษาในระบบโรงเรียน ได้มีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้ในวิชาแขนงต่างๆ และยังสามารถได้รับประกาศนียบัตรเช่นเดียวกับนักเรียนในระบบ ในอเมริกาผู้ที่สอบ GED ส่วนมากจะเป็นวัยผู้ใหญ่ที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย การสอบมีขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1942 ซึ่งตรงกับ พ.ศ.2485 นับเป็นเวลากว่า 70 ปีแล้วที่มีการสอบดังกล่าว ซึ่งการสอบเป็นการประเมินทักษะและความรู้ทางวิชาการของผู้เรียนในระดับชั้นไฮสคูลหรือมัธยมศึกษาตอนปลายในรายวิชาภาษาอังกฤษทั้งการอ่านและการเขียน สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ข้อสอบ GED เป็นข้อสอบแบบปรนัย(Multiple choic) ข้อสอบถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องควบคู่กันไปกับการพัฒนาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของอเมริกา นอกจากนี้ยังออกข้อสอบให้เข้ากับสภาพสังคมในขณะนั้น จวบจนปัจจุบันมีการแก้ไขชุดข้อสอบแล้วทั้งหมด 5 เวอร์ชั่นดังนี้ เวอร์ชั่น ค.ศ.1942 เป็นข้อสอบชุดแรกที่ใช้ในท่ามกลางความรุ่งเรืองยุคอุตสาหกรรม ข้อสอบภาษาอังกฤษจะเน้นความถูกต้องและประสิทธิภาพในการใช้ภาษา ส่วนวิชาสังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์เน้นการตีความจากการอ่านข้อสอบ เวอร์ชั่น ค.ศ.1978 ยุคอุตสาหกรรมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงการใช้ชีวิตของผู้คน[…]

ใครควรเรียน GED

GED ย่อมาจาก General Education Development เป็นการสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของไทยให้เทียบเท่าระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบันการสอบดังกล่าวเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทยโดยเฉพาะในหมู่นักเรียนโรงเรียนนานาชาติ แม้ไม่มีการบังคับให้นักเรียนทุกคนต้องสอบ แต่ก็ยังมีนักเรียนบางส่วนต้องการสอบ GED ด้วยความสมัครใจในเหตุผลที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลดังต่อไปนี้ คำถามก็คือใครควรเรียนGED บุคคลส่วนใหญ่ด้านล่างนี้ล้วนแล้วเหมาะแก่การเรียนGEDเป็นอย่างมาก และที่ผ่านมาตามสถิติแล้วนั้น บุคคลในกลุ่มนี้เรียนGEDกันมากที่สุด เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนที่กลับมาจาก exchange program ในต่างประเทศเมื่อกลับมาไม่ต้องการกลับไปเรียนกับรุ่นน้อง จึงต้องการสอบ GED เพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนที่จบระดับ High School จากต่างประเทศ แต่กระทรวงศึกษาธิการไม่รับเทียบวุฒิให้ ซึ่งเป็นไปได้หลายสาเหตุ เช่น หน่วยกิตไม่เพียงพอ กลุ่มวิชาเรียนไม่ตรงกัน เรียนจบจากโรงเรียนนานาชาติในไทยแต่กระทรวงศึกษาธิการไม่รับรองคุณวุฒิ ดารานักร้องวัยรุ่นที่ไม่มีเวลาไปเข้าห้องเรียนตามปกติ ไม่สามารถทำการบ้านอ่านหนังสือสอบได้เช่นนักเรียนทั่วไป นักเรียน Home School ซึ่งมีการเรียนการสอนที่บ้านโดยไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนในระบบ หลังจากเรียนจบจึงต้องการสอบ GED เพื่อสอบเทียบวุฒิและนำไปสมัครเรียนในชั้นอุดมศึกษา นักเรียนที่ต้องออกจากระบบการศึกษากลางคัน จากนั้นศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ต้องการสอบ GED เพื่อสอบเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาในระบบได้เหมือนเดิม เด็กนักเรียนที่พ่อแม่ส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ และไม่สามารถเรียนจบได้ อาจจะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ก็สามารถสอบ GED เพื่อเทียบวุฒิและศึกษาในประเทศไทยต่อได้ เป็นนักเรียนในระบบปกติแต่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยก่อนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6[…]

สอบ GED คืออะไร 10 คำถามควรรู้ ก่อนเรียน GED

การใช้ชีวิตในยุคดิจิตอลเช่นนี้ ไม่ว่าอะไรต่างก็ปรับตัวให้รวดเร็วทันใจสมชื่อยุค ไม่เว้นแม้แต่ระบบการศึกษา การเรียน GED เป็นการเรียนเพื่อสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ตามหลักสูตรของสหรัฐอเมริกา ผู้สอบผ่านสามารถใช้ประกาศนียบัตรสมัครเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันนักเรียนให้ความสนใจสมัครเรียน GED และสอบ GED กันมากขึ้น เพราะช่วยให้สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เร็วขึ้นกว่าปกติ The Planner Education เป็นหนึ่งในสถาบันเรียน GED ที่ดีที่สุด ได้รับการไว้วางใจจากน้อง ๆ และผู้ปกครองมากมาย ดูแลและให้คำปรึกษาเรื่องการเรียน GED ตั้งแต่สมัครเรียนจนได้รับวุฒิ คอร์สเรียน GED รับรองผล 100% (สอบไม่ผ่าน เรียนซ้ำฟรีจนผ่าน) ที่ The Planner Education ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตรงตามจุดประสงค์ของผู้สอบ โดยมีการเรียนเนื้อหาที่สำคัญที่มีในข้อสอบจริงที่อัปเดทล่าสุด ดังนั้นเราจึงกล้ารับประกันผล หากลงเรียนเต็มคอร์สแล้วสอบไม่ผ่าน เรียนซ้ำฟรี! รับคำปรึกษารายบุคคล คลิกที่นี่ สำหรับใครที่สนใจสอบถาม หรืออยากรู้ข้อมูลคอร์สเรียน GED เพิ่มเติม เรามีข้อมูลมาฝากกัน 10 ข้อดังต่อไปนี้ GED คืออะไร และย่อมาจากอะไร ตอบ[...]

5 วิชาเรียนGED

การเรียนGEDเป็นการเรียนเพื่อสอบGED ซึ่งเทียบเท่าวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรของประเทศสหรัฐอเมริกาและรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย การเรียนGEDตามสถาบันจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาที่ผู้จบมัธยมปลายควรจะรู้ ผู้สอบสามารถเข้าสอบได้ตามศูนย์สอบทั่วโลก โดยสอบผ่านคอมพิวเตอร์และสามารถทราบผลสอบหลังจากสอบเสร็จเลยทันที ยกเว้นข้อสอบในส่วนของการเขียนที่ต้องรอผลประมาณ 1 สัปดาห์ เนื้อหาการเรียนGEDแต่ละวิชามีดังนี้ กลุ่มวิชาที่สอบมี 5 วิชา ดังต่อไปนี้ Language Art, Writing แบ่งออกเป็น 2 ส่วน Part I: การอ่านบทความ เช่น บทความจากหน้าหนังสือพิมพ์ จดหมาย บันทึกการประชุม อีเมล์ต่างๆ ข่าวหรืองานเอกสารที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และตอบคำถามให้ถูกต้องเกี่ยวกับไวยากรณ์และการใช้ โครงสร้างรูปประโยค การเชื่อมต่อประโยคและคำศัพท์Part II: เขียนเรียงความ 1 เรื่อง เขียนเรียงความ(Essay)ตามหัวข้อที่กำหนดโดยพิมพ์ผ่านแป้นคอมพิวเตอร์โดย การให้คะแนนบทความนั้นจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น เน้นประเด็นสำคัญ ความชัดเจนของโครงร่าง การแสดงความคิดเห็น การใช้ภาษาที่ถูกต้อง Language Art, Reading เนื้อหาส่วนนี้เน้นในเรื่องการอ่านวรรณกรรมทั้งที่เป็นวรรณคดี (literature ) และเรื่องที่เกิดขึ้นจริง (nonfiction) สำหรับบทความที่เป็น nonfiction จะเป็นการอ่านเอกสารทางธุรกิจ และอาจมีบทความอื่นๆ บทบรรณาธิการ บทภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เป็นต้น[…]

ความแตกต่างของการติวIGCSE และ เรียนGED และ เรียนSAT จะเลือกสอบตัวไหนดี

นักเรียนในวัยมัธยมศึกษาที่ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรือมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทย และโดยเฉพาะนักเรียนที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนนานาชาติทั้งหลาย คงจะรู้จัก IGCSE และ GED กันเป็นอย่างดี ว่าเป็นตัวช่วยที่สามารถเลื่อนไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้เพียงสอบ IGCSE หรือ GED ก็ได้ ส่วนการสอบ SAT นั้นมีความแตกต่างกับ IGCSE และ GED เพราะ SAT ไม่ใช่วุฒิม.6 IGCSE และ GED และ SAT แตกต่างกันอย่างไร จะเลือกสอบตัวไหนหรือต้องใช้ตัวไหนเพื่อยื่นเข้ามหาวิทยาลัย วันนี้จะมาลองเปรียบเทียบให้ดูกันค่ะ   เริ่มต้นอยากจะขอทบทวนก่อน ว่า IGCSE และ GED และ SAT คืออะไร IGCSE คือ การสอบเพื่อเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำวุฒินี้ไปยื่นเข้าศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ หรือมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยบางแห่ง และหากเป็นการสอบในโรงเรียนระบบอังกฤษจะเป็นการสอบเพื่อที่จะเข้าศึกษาในระดับ A Level และ As Level ใน Year 12 และ Year[…]

เลือกเรียน GED อย่างไร ให้สอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก

ถึงแม้ว่าการสอบ GED จะเปิดสอบตลอดทั้งปี แต่ทว่าในการสอบแต่ละครั้งก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการสอบ แม้จะลงทะเบียนสอบหลายครั้งก็ไม่มีส่วนลดให้ เราจึงควรสอบให้ผ่านในครั้งแรกๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลาในการทบทวนวิชาอื่นๆ แต่จะทำอย่างไรเราจึงจะสอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก การเตรียมตัวทบทวนเนื้อหาที่ดีที่สุดคือ การฝึกทำโจทย์เยอะๆ พร้อมบุคคลที่สามารถช่วยตอบคำถามในสิ่งที่เราสงสัยรวมไปถึงช่วยตรวจคำตอบให้เราด้วย การทบทวนเนื้อหาคนเดียว ฝึกทำโจทย์เอง ตรวจคำตอบเองนั้น เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เราทบทวน หรือโจทย์ที่เราฝึกทำไปนั้น ถูกต้องหรือไม่ เราเข้าใจในเนื้อหาอย่างแท้จริงหรือไม่ ดังนั้นการมีคนมาช่วยถือว่าเป็นสิ่งดีที่สุดของการทบทวน แล้วเราจะสามารถหาบุคคลคนนี้ได้อย่างไร ไม่ยากค่ะ คนแรกที่จะสามารถช่วยเราได้คือ “เพื่อน” การได้นั่งทำโจทย์ด้วยกันจะทำให้ได้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้เรียนมา แต่การทำกับเพื่อนมีข้อเสียตรงที่ อาจจะมีการหยอกล้อเล่นกัน มากจนเกินไป จนทำให้ไม่มีสมาธิ ไม่จดจ่ออยู่กับการทบทวนเนื้อหา อันนี้ต้องระวังกันให้มากๆ นะคะ คนที่สองที่อยากแนะนำคือ “อาจารย์ผู้สอนในแต่ละวิชา” หากอาจารย์มีเวลาอาจจะเข้าไปขอให้ช่วยทบทวนเนื้อหา และคอยตอบคำถาม รวมไปถึงการตรวจคำตอบ โดยอาจจขอให้อาจารย์เข้ามาช่วยในช่วงนอกเวลาเรียน วิธีนี้เมื่อเรามีคำถามหรือข้อสงสัยก็สามารถหาคำตอบได้จากอาจารย์ผู้สอนได้เลยทันที แต่อาจจะยากสักหน่อยตรงที่อาจารย์อาจมีเวลามาช่วยเราไม่ได้มากนัก ยังไงลองสอบถามกันดูนะคะ คนสุดท้ายที่สามารถช่วยเราได้ มีเวลาให้เราแน่นอน และสามารถตอบคำถาม ช่วยตรวจคำตอบ นั่นคือ “สถาบันกวดวิชา” นั่นเอง แต่ข้อเสียคือเราต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา หากครอบครัว ผู้ปกครองสนับสนุน ก็ควรใช้ทุกนาทีที่จ่ายไปให้คุ้มค่ากันด้วยนะคะ จากการที่ลองค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เนตผู้เขียนพบว่า สถาบันกวดวิชาหลายๆ[…]

การสมัครสอบ GED และขั้นตอนต่างๆ

GED Testing Service ร่วมกับ Pearson VUE และ the American Council on Education (ACE) ดำเนินการสอบ GED โดยอยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันสอบผ่านคอมพิวเตอร์ระดับโลกอย่าง Pearson VUE ผู้ที่สนใจสมัครสอบสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://ged.com โดยผู้สมัครสอบในประเทศไทยจะต้องคลิกเลือกสอบ Other Countries ในหัวข้อ Test in ดังรูปด้านล่างนี้ หากเคยลงทะเบียนแล้วก็สามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบ เพื่อสมัครสอบได้เลย แต่ถ้ายังไม่เคยลงทะเบียนก็ทำการกรอกข้อมูลสร้างบัญชีผู้ใช้ก่อน จึงทำการสมัครสอบต่อไป ในประเทศไทยสามารถเลือกสนามสอบได้ 3 ที่คือ The Enterprise Resources ชั้น 3 อาคารชาญอิสระ2 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพ 10320 Pearson Professional Centers – Bangkok Thailand ห้องเลขที่ 10-10 ชั้น 10 อาคาร Bangkok[…]

เจาะลึก 5 รายวิชาในการเรียน GED ติวGED

การสอบ GED จะต้องสอบผ่านทุกวิชา โดยมีทั้งหมด 5 วิชา และแต่ละวิชาจะต้องได้คะแนนอย่างน้อย 410 คะแนน และคะแนนรวมทั้ง 5 วิชารวมกันต้องไม่น้อยกว่า 2,250 คะแนน โดยมีประเภทการสอบของ GED คือ ข้อสอบปรนัย (Multiple choice), ฝนคำตอบลงในกระดาษคำตอบ (Number grid) และ พิกัดเส้นกริด (Coordinate grid) 5 รายวิชาและแนวการสอบใน GED เป็นดังนี้ Language Arts, Reading เป็นข้อสอบปรนัย (Multiple Choice) 40 ข้อ ใช้เวลาการสอบ 65 นาที โดยเนื้อหาจะเน้นในเรื่องของการอ่านเพื่อนำไปตอบคำถาม จะมีทั้งบทความจากวรรณคดี และบทความจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเช่น เอกสารทางธุรกิจ บทภาพยนตร์ เป็นต้น Language Arts, Writing จะแบ่งเป็น 2 Part แต่สอบพร้อมกันคือ[…]

เรียนGED วุฒิ ม.6 สำหรับคนเรียนนอกระบบ

หากใครอ่านหัวข้อของบทความนี้แล้วเกิดความสงสัย คงจะต้องรีบไปหาข้อมูลกันเป็นการใหญ่ ว่า GED มันคืออะไร เพื่อให้หายสงสัยกันจะขออธิบายดังนี้ GED หรือชื่อเต็มๆ ว่า General Educational Development คือการสอบเทียบวุฒิการศึกษามัธยมปลายตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆสามารถสอบได้โดยผู้ที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐอเมริกาจะต้องมีอายุ ตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ขณะนี้การจัดสอบอยู่ภายใต้การดูแลของ Pearson VUE สถาบันสอบผ่านคอมพิวเตอร์ระดับโลก ผู้ที่สอบ GED ในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แต่สำหรับประเทศไทยนั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นน้องๆ นักเรียนอายุน้อยๆ หรือนักเรียนเรียนที่บ้าน (Home School) เพื่อให้ได้วุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป โดยการสอบ GED นี้หากสอบผ่านตามที่กำหนดไว้ก็จะได้วุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายทันทีโดยไม่ต้องไปขอเทียบวุฒิที่กระทรวงศึกษาธิการ ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการเทียบวุฒิการศึกษาต่างประเทศ http://bet.obec.go.th/bet/wp-content/uploads/2015/06/p223514.pdf หากดูจากเว็บไซต์ www.ged.com เราจะพบว่าการสอบ GED ได้มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2014 ทั้งในเรื่องผลคะแนน เนื้อหาการสอบ และค่าสมัครสอบ แต่ทว่าการสอบ GED ในประเทศไทยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยใช้ชื่อการสอบเดิมนี้ว่า 2002 series จะมีแต่เพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ใช้การสอบใหม่ที่มีชื่อว่า 2014 series   เนื้อหาของการสอบ[…]