เรียน ged ทั้งทีเรียนที่ไหนดีนะ

GED (General Education Development) เป็นระบบการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเรียน ged เป็นการเรียนเพื่อสอบเทียบเท่าในระดับมัธยมปลาย ที่เมื่อสอบผ่านได้ประกาศนียบัตรมาแล้ว ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อ ในระดับอุดมศึกษาต่อไปได้ ทั้งมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยภายในประเทศไทยที่เปิดสอนในหลักสูตรนานาชาติ ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐ และมหาวิทยาลัยเอกชน ผู้เรียน ged ต้องสอบทั้งหมด 5 วิชาคือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคม วิชาการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อทำคะแนนรวมให้ได้ไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน จากคะแนนเต็มทั้งหมด 4,000 คะแนน แต่ล่ะวิชาจึงมีคะแนนเต็มวิชาละ 800 คะแนน ซึ่งต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 410 คะแนนต่อวิชาด้วย จึงจะถือว่าสอบผ่าน แต่ถ้าหากสอบไม่ผ่าน ผู้เรียน ged สามารถเลือกสอบใหม่ในรายวิชาที่ยังสอบไม่ผ่าน หรือวิชาที่ตัวเองถนัดได้ โดยที่ไม่ต้องสอบใหม่ทั้งหมดทุกวิชา เนื่องจากการสอบจะใช้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษผู้เข้าสอบจึงต้องมีทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีพอสมควรด้วย การเรียน ged เพื่อสอบเทียบวุฒิผู้สอบต้องมีอายุตั้งแต่ 16 บริบูรณ์ปีขึ้นไป (ผู้เข้าสอบที่มีอายุ 16 ปีต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครองด้วย) จึงสามารถสมัครเข้าสอบเทียบได้ แต่หากจะไปสมัครสอบเลยก็เกรงว่าความรู้จะไม่แน่นพอ[…]

เรียน ged คือว่างไร มันดียังไง ทำไมถึงต้องเรียน

เชื่อว่าหลายคนคงพอจะรู้มาบ้างแล้วนะคะว่าเรียน ged คืออะไร แต่สำหรับหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้ เราขออธิบายคร่าวๆ ตรงนี้อีกครั้ง GED (General Education Development) คือระบบการเรียนในรูปแบบ กศน.ของสหรัฐอเมริกา หรือที่นิยมเรียกกันง่ายๆ ว่า Home School ค่ะ ซึ่งเป็นระบบการเรียนที่เหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางไปเรียนที่โรงเรียน หรือสำหรับคนที่ต้องการวุฒิการศึกษา เมื่อสอบผ่านแล้วก็จะได้วุฒิการศึกษาในระดับ High School นั่นเอง ซึ่งก็เทียบเท่าวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลาย (ม.6) ของเมืองไทย มีเด็กไทยจำนวนมากสนใจเรียน ged และไปสอบ เพื่อนำวุฒินี้ไปประกอบการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น แต่น้องๆ ที่สอบในเมืองไทย เมื่อสอบผ่านแล้วต้องนำวุฒิไปปรับเทียบเพื่อรับการรับรองวุฒิที่ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการก่อนนะคะ ถึงจะสามารถนำไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ การสอบ ged ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากจะว่ายากก็ไม่น่าจะยากเกินความสามารถของเราจริงหรือเปล่าคะ แล้วเราควรมีการเตรียมตัวก่อนสอบอย่างไร จึงจะมั่นใจได้ว่าเรามีความรู้ที่แน่นพอที่ทำข้อสอบได้ ดังนั้นหากเราคิดจะสอบก็ควรเริ่มมองหาที่เรียน ged เป็นอันดับแรกก่อนเลยค่ะ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้เวลาไปสอบจะได้มั่นใจ มีสถาบันที่รับสอนมากมายให้เราเลือก แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรคะ ว่าที่ไหนเป็นมืออาชีพในการสอนด้านนี้จริงๆ เพราะการเข้าสอบแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายก็แสนแพง น้องๆ ก็คงอยากจะสอบครั้งแรกแล้วผ่านกันเลยใช่ไหมคะ อับดับแรกเราควรมองหาสถานที่เรียนที่มีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับและเป็นมืออาชีพด้านนี้จริงๆ ก่อน[…]

เรียน ged กับสถาบันมืออาชีพ The planner education

น้องๆ คนไหนที่มีความฝันอยากจะเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาภาคอินเตอร์ทั้งในและต่างประเทศ ย่อมต้องศึกษาและทำความเข้าใจมาก่อนแล้วว่า น้องๆ จะต้องเตรียมตัวสอบอะไรบ้างเพื่อใช้เป็นใบเบิกทางประกอบการสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาให้ได้ดังหวัง ซึ่งก็มีน้องๆ จำนวนไม่น้อยที่ต้องการไปถึงฝั่งฝันให้เร็วกว่าปกติ เพราะบางคนอาจมีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อมจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยก่อนวัย Ged Certificate จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นทางลัดไปสู่รั้วมหาวิทยาลัยในภาคอินเตอร์ได้ เพราะถ้าน้องคนไหนสามารถสอบผ่าน Ged (General Education Development) ได้ ย่อมหมายถึงว่าน้องๆ สามารถย่นระเวลาในการเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาให้เร็วขึ้นได้ถึง 1-2 ปีเลยทีเดียว Ged เป็นหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อใช้สอบเทียบวุฒิในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (High school) ภายใต้มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา น้องที่สามารถสมัครสอบได้จะต้องมีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปและสามารถได้รับใบจบ หรือ Ged Certificate เมื่ออายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ นักเรียนที่ถือว่าสอบผ่านจะต้องได้คะแนนในแต่ละรายวิชาไม่น้อยกว่า 410 คะแนน โดยสอบทั้งหมด 5 วิชาและคะแนนรวมทั้ง 5 วิชาจะต้องไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน การจะสอบให้ผ่านด้วยตนเองจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก น้องๆ จึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยหรือผู้นำทางที่ดีในการพาน้องๆ ไปให้ถึงจุดหมาย ปัจจุบันจึงมีน้องๆ ที่ตั้งใจจะสอบ Ged Certificate นิยมมาเรียน ged[…]

คิดจะเรียน GED เรียนกับ The planner Education สิคะ

GED หรือ General Educational Development คือ การสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลาย ในระบบหลักสูตรการเรียนการสอนของสหรัฐอเมริกา ของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้สมัครสอบจะต้องอยู่ในช่วงอายุ 16-17 ปีเท่านั้น และต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ข้อสอบ GED ประกอบด้วย 5 วิชา คือ Mathematics, Science , Social Studies Language Art: Reading และ Language Arts: Writing ข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นปรนัยหรือ Multiple choices ค่ะ แต่มีข้อสอบเขียนอยู่บ้างในหมวดการเขียนเรียงความและการตอบคำถามสั้นๆ โดยผู้สอบจะต้องทำคะแนนขั้นต่ำของแต่ละวิชาให้ได้ 410 คะแนน จากคะแนนเต็ม 800 คะแนน และผู้สอบต้องได้คะแนนรวมทั้ง 5 วิชาไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน เมื่อคะแนนผ่านเกณฑ์ครบทั้ง 5 วิชาแล้ว ผู้สอบจะได้รับวุฒิการศึกษาที่รับรองจากกระทรวงศึกษาธิการค่ะ สำหรับผู้ที่สอบ GED ไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด หรือผู้ที่ต้องการลงสอบใหม่[…]

เรียน GED เรียน IELTS Writing: เขียน Essay อย่างไรให้ได้คะแนนเยอะ

การเขียนเรียงความเป็นงานที่หลายคนไม่ชอบ เรียงความภาษาไทยก็นับว่ายากแล้วเรียงความภาษาอังกฤษความยากยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ การเรียนGED หรือ IELTS เป็นการเตรียมตัวสอบวัดความสามารถที่ยอมรับกันในระดับสากลในปัจจุบันนี้ เช่นการสอบ GED หรือการสอบ IELTS จะมีโจทย์ให้เขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษหรือที่เรียกว่า Essay สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวสอบและกังวลกับการเขียนเรียงความนี้ เรามีคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเพื่อทำข้อสอบในส่วนเขียนอย่างไรให้ได้คะแนนเยอะ ดังต่อไปนี้ อ่านให้มาก ควรเลือกอ่านบทความที่ดีมีคุณภาพในหนังสือพิมพ์ นิตยสารและเว็บไซต์ต่างๆ จะทำให้เราได้เห็นตัวอย่างที่ดี การเรียบเรียงความคิด คำศัพท์ใหม่ๆ รูปแบบการเขียน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ถ้าเราได้อ่านอย่างมากพอจะทำให้เราซึมซับได้อย่างอัตโนมัติโดยที่อาจจะไม่ต้องท่องจำไวยากรณ์อย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งอ่านมากคลังคำก็มากตามทำให้การเขียนของเราดีขึ้นตามไปด้วย อ่านโจทย์ให้เข้าใจ ว่าโจทย์ต้องการให้เราเขียนเกี่ยวกับอะไร ถึงแม้ว่านักเรียนจะเขียนได้ไพเราะถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ทุกอย่าง แต่เขียนตอบไม่ตรงคำถามก็คงไม่ได้คะแนนดีเท่าที่ควร เขียนให้ถูกวิธี บทความนั้นจะแบ่งได้เป็น 3ส่วนหลักๆ คือIntroduction, BodyและConclusionโดยแต่ละส่วนจะมีลักษณะดังนี้ Introductionหรือ บทนำจะเป็น Paragraph แรกของ Essay ส่วนนี้มีความสำคัญมากต้องเขียนดึงดูดใด้ผู้อ่านสนใจที่จะอ่านต่อไปในส่วนเนื้อหาให้ได้ Body เป็นส่วนใจความสำคัญ เป็นส่วนที่ยาวที่สุดที่จะบอกเล่าเนื้อหาต่างๆ ผู้เขียนควรวางโครงเรื่องให้ดี ให้มีความสอดคล้องกันตลอดเรื่อง ครบทุกประเด็นที่โจทย์ต้องการ Conclusionคือ บทสรุปของเนื้อหาทั้งหมดซึ่งจะขมวดใจความสำคัญของเรื่อง ตรงประเด็น ไม่ขัดแย้งกับเนื้อหาที่เขียน *อย่างไรก็ตาม เราจะต้องพิจารณาว่าหัวข้อที่เราได้มานั้นควรจะถูกเขียนเป็น 4 หรือ 5[…]

มารู้จัก GED ให้มากขึ้นกันดีกว่า

หากถามผู้ใหญ่หลายๆ คนว่า GED คืออะไร เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะส่ายหน้าว่าไม่รู้จัก แม้ไปถามเด็กนักเรียนก็อาจจะมีบางคนไม่รู้จักเช่นกันก็เป็นได้ GED ย่อมาจาก General Education Development หมายถึง การสอบเทียบวุฒิการศึกษามัธยมปลายตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ สามารถสอบได้ ประวัติความเป็นมาของการสอบเทียบ ม.ปลาย (GED Test) การสอบเทียบถือกำเนิดขึ้นจากเจตนาดีที่ต้องการเพิ่มโอกาสให้กับคนทั่วไปที่ไม่ได้รับการศึกษาในระบบโรงเรียน ได้มีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้ในวิชาแขนงต่างๆ และยังสามารถได้รับประกาศนียบัตรเช่นเดียวกับนักเรียนในระบบ ในอเมริกาผู้ที่สอบ GED ส่วนมากจะเป็นวัยผู้ใหญ่ที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย การสอบมีขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1942 ซึ่งตรงกับ พ.ศ.2485 นับเป็นเวลากว่า 70 ปีแล้วที่มีการสอบดังกล่าว ซึ่งการสอบเป็นการประเมินทักษะและความรู้ทางวิชาการของผู้เรียนในระดับชั้นไฮสคูลหรือมัธยมศึกษาตอนปลายในรายวิชาภาษาอังกฤษทั้งการอ่านและการเขียน สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ข้อสอบ GED เป็นข้อสอบแบบปรนัย(Multiple choic) ข้อสอบถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องควบคู่กันไปกับการพัฒนาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของอเมริกา นอกจากนี้ยังออกข้อสอบให้เข้ากับสภาพสังคมในขณะนั้น จวบจนปัจจุบันมีการแก้ไขชุดข้อสอบแล้วทั้งหมด 5 เวอร์ชั่นดังนี้ เวอร์ชั่น ค.ศ.1942 เป็นข้อสอบชุดแรกที่ใช้ในท่ามกลางความรุ่งเรืองยุคอุตสาหกรรม ข้อสอบภาษาอังกฤษจะเน้นความถูกต้องและประสิทธิภาพในการใช้ภาษา ส่วนวิชาสังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์เน้นการตีความจากการอ่านข้อสอบ เวอร์ชั่น ค.ศ.1978 ยุคอุตสาหกรรมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงการใช้ชีวิตของผู้คน[…]

ใครควรเรียน GED

GED ย่อมาจาก General Education Development เป็นการสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของไทยให้เทียบเท่าระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบันการสอบดังกล่าวเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทยโดยเฉพาะในหมู่นักเรียนโรงเรียนนานาชาติ แม้ไม่มีการบังคับให้นักเรียนทุกคนต้องสอบ แต่ก็ยังมีนักเรียนบางส่วนต้องการสอบ GED ด้วยความสมัครใจในเหตุผลที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลดังต่อไปนี้ คำถามก็คือใครควรเรียนGED บุคคลส่วนใหญ่ด้านล่างนี้ล้วนแล้วเหมาะแก่การเรียนGEDเป็นอย่างมาก และที่ผ่านมาตามสถิติแล้วนั้น บุคคลในกลุ่มนี้เรียนGEDกันมากที่สุด เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนที่กลับมาจาก exchange program ในต่างประเทศเมื่อกลับมาไม่ต้องการกลับไปเรียนกับรุ่นน้อง จึงต้องการสอบ GED เพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนที่จบระดับ High School จากต่างประเทศ แต่กระทรวงศึกษาธิการไม่รับเทียบวุฒิให้ ซึ่งเป็นไปได้หลายสาเหตุ เช่น หน่วยกิตไม่เพียงพอ กลุ่มวิชาเรียนไม่ตรงกัน เรียนจบจากโรงเรียนนานาชาติในไทยแต่กระทรวงศึกษาธิการไม่รับรองคุณวุฒิ ดารานักร้องวัยรุ่นที่ไม่มีเวลาไปเข้าห้องเรียนตามปกติ ไม่สามารถทำการบ้านอ่านหนังสือสอบได้เช่นนักเรียนทั่วไป นักเรียน Home School ซึ่งมีการเรียนการสอนที่บ้านโดยไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนในระบบ หลังจากเรียนจบจึงต้องการสอบ GED เพื่อสอบเทียบวุฒิและนำไปสมัครเรียนในชั้นอุดมศึกษา นักเรียนที่ต้องออกจากระบบการศึกษากลางคัน จากนั้นศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ต้องการสอบ GED เพื่อสอบเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาในระบบได้เหมือนเดิม เด็กนักเรียนที่พ่อแม่ส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ และไม่สามารถเรียนจบได้ อาจจะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ก็สามารถสอบ GED เพื่อเทียบวุฒิและศึกษาในประเทศไทยต่อได้ เป็นนักเรียนในระบบปกติแต่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยก่อนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6[…]

สอบ GED คืออะไร 10 คำถามควรรู้ ก่อนเรียน GED

การใช้ชีวิตในยุคดิจิตอลเช่นนี้ ไม่ว่าอะไรต่างก็ปรับตัวให้รวดเร็วทันใจสมชื่อยุค ไม่เว้นแม้แต่ระบบการศึกษา การเรียน GED เป็นการเรียนเพื่อสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ตามหลักสูตรของสหรัฐอเมริกา ผู้สอบผ่านสามารถใช้ประกาศนียบัตรสมัครเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันนักเรียนให้ความสนใจสมัครเรียน GED และสอบ GED กันมากขึ้น เพราะช่วยให้สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เร็วขึ้นกว่าปกติ The Planner Education เป็นหนึ่งในสถาบันเรียน GED ที่ดีที่สุด ได้รับการไว้วางใจจากน้อง ๆ และผู้ปกครองมากมาย ดูแลและให้คำปรึกษาเรื่องการเรียน GED ตั้งแต่สมัครเรียนจนได้รับวุฒิ คอร์สเรียน GED รับรองผล 100% (สอบไม่ผ่าน เรียนซ้ำฟรีจนผ่าน) ที่ The Planner Education ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตรงตามจุดประสงค์ของผู้สอบ โดยมีการเรียนเนื้อหาที่สำคัญที่มีในข้อสอบจริงที่อัปเดทล่าสุด ดังนั้นเราจึงกล้ารับประกันผล หากลงเรียนเต็มคอร์สแล้วสอบไม่ผ่าน เรียนซ้ำฟรี! รับคำปรึกษารายบุคคล คลิกที่นี่ สำหรับใครที่สนใจสอบถาม หรืออยากรู้ข้อมูลคอร์สเรียน GED เพิ่มเติม เรามีข้อมูลมาฝากกัน 10 ข้อดังต่อไปนี้ GED คืออะไร และย่อมาจากอะไร ตอบ[...]

5 วิชาเรียนGED

การเรียนGEDเป็นการเรียนเพื่อสอบGED ซึ่งเทียบเท่าวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรของประเทศสหรัฐอเมริกาและรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย การเรียนGEDตามสถาบันจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาที่ผู้จบมัธยมปลายควรจะรู้ ผู้สอบสามารถเข้าสอบได้ตามศูนย์สอบทั่วโลก โดยสอบผ่านคอมพิวเตอร์และสามารถทราบผลสอบหลังจากสอบเสร็จเลยทันที ยกเว้นข้อสอบในส่วนของการเขียนที่ต้องรอผลประมาณ 1 สัปดาห์ เนื้อหาการเรียนGEDแต่ละวิชามีดังนี้ กลุ่มวิชาที่สอบมี 5 วิชา ดังต่อไปนี้ Language Art, Writing แบ่งออกเป็น 2 ส่วน Part I: การอ่านบทความ เช่น บทความจากหน้าหนังสือพิมพ์ จดหมาย บันทึกการประชุม อีเมล์ต่างๆ ข่าวหรืองานเอกสารที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และตอบคำถามให้ถูกต้องเกี่ยวกับไวยากรณ์และการใช้ โครงสร้างรูปประโยค การเชื่อมต่อประโยคและคำศัพท์Part II: เขียนเรียงความ 1 เรื่อง เขียนเรียงความ(Essay)ตามหัวข้อที่กำหนดโดยพิมพ์ผ่านแป้นคอมพิวเตอร์โดย การให้คะแนนบทความนั้นจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น เน้นประเด็นสำคัญ ความชัดเจนของโครงร่าง การแสดงความคิดเห็น การใช้ภาษาที่ถูกต้อง Language Art, Reading เนื้อหาส่วนนี้เน้นในเรื่องการอ่านวรรณกรรมทั้งที่เป็นวรรณคดี (literature ) และเรื่องที่เกิดขึ้นจริง (nonfiction) สำหรับบทความที่เป็น nonfiction จะเป็นการอ่านเอกสารทางธุรกิจ และอาจมีบทความอื่นๆ บทบรรณาธิการ บทภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เป็นต้น[…]

ความแตกต่างของการติวIGCSE และ เรียนGED และ เรียนSAT จะเลือกสอบตัวไหนดี

นักเรียนในวัยมัธยมศึกษาที่ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรือมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทย และโดยเฉพาะนักเรียนที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนนานาชาติทั้งหลาย คงจะรู้จัก IGCSE และ GED กันเป็นอย่างดี ว่าเป็นตัวช่วยที่สามารถเลื่อนไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้เพียงสอบ IGCSE หรือ GED ก็ได้ ส่วนการสอบ SAT นั้นมีความแตกต่างกับ IGCSE และ GED เพราะ SAT ไม่ใช่วุฒิม.6 IGCSE และ GED และ SAT แตกต่างกันอย่างไร จะเลือกสอบตัวไหนหรือต้องใช้ตัวไหนเพื่อยื่นเข้ามหาวิทยาลัย วันนี้จะมาลองเปรียบเทียบให้ดูกันค่ะ   เริ่มต้นอยากจะขอทบทวนก่อน ว่า IGCSE และ GED และ SAT คืออะไร IGCSE คือ การสอบเพื่อเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำวุฒินี้ไปยื่นเข้าศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ หรือมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยบางแห่ง และหากเป็นการสอบในโรงเรียนระบบอังกฤษจะเป็นการสอบเพื่อที่จะเข้าศึกษาในระดับ A Level และ As Level ใน Year 12 และ Year[…]

เลือกเรียน GED อย่างไร ให้สอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก

ถึงแม้ว่าการสอบ GED จะเปิดสอบตลอดทั้งปี แต่ทว่าในการสอบแต่ละครั้งก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการสอบ แม้จะลงทะเบียนสอบหลายครั้งก็ไม่มีส่วนลดให้ เราจึงควรสอบให้ผ่านในครั้งแรกๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลาในการทบทวนวิชาอื่นๆ แต่จะทำอย่างไรเราจึงจะสอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก การเตรียมตัวทบทวนเนื้อหาที่ดีที่สุดคือ การฝึกทำโจทย์เยอะๆ พร้อมบุคคลที่สามารถช่วยตอบคำถามในสิ่งที่เราสงสัยรวมไปถึงช่วยตรวจคำตอบให้เราด้วย การทบทวนเนื้อหาคนเดียว ฝึกทำโจทย์เอง ตรวจคำตอบเองนั้น เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เราทบทวน หรือโจทย์ที่เราฝึกทำไปนั้น ถูกต้องหรือไม่ เราเข้าใจในเนื้อหาอย่างแท้จริงหรือไม่ ดังนั้นการมีคนมาช่วยถือว่าเป็นสิ่งดีที่สุดของการทบทวน แล้วเราจะสามารถหาบุคคลคนนี้ได้อย่างไร ไม่ยากค่ะ คนแรกที่จะสามารถช่วยเราได้คือ “เพื่อน” การได้นั่งทำโจทย์ด้วยกันจะทำให้ได้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้เรียนมา แต่การทำกับเพื่อนมีข้อเสียตรงที่ อาจจะมีการหยอกล้อเล่นกัน มากจนเกินไป จนทำให้ไม่มีสมาธิ ไม่จดจ่ออยู่กับการทบทวนเนื้อหา อันนี้ต้องระวังกันให้มากๆ นะคะ คนที่สองที่อยากแนะนำคือ “อาจารย์ผู้สอนในแต่ละวิชา” หากอาจารย์มีเวลาอาจจะเข้าไปขอให้ช่วยทบทวนเนื้อหา และคอยตอบคำถาม รวมไปถึงการตรวจคำตอบ โดยอาจจขอให้อาจารย์เข้ามาช่วยในช่วงนอกเวลาเรียน วิธีนี้เมื่อเรามีคำถามหรือข้อสงสัยก็สามารถหาคำตอบได้จากอาจารย์ผู้สอนได้เลยทันที แต่อาจจะยากสักหน่อยตรงที่อาจารย์อาจมีเวลามาช่วยเราไม่ได้มากนัก ยังไงลองสอบถามกันดูนะคะ คนสุดท้ายที่สามารถช่วยเราได้ มีเวลาให้เราแน่นอน และสามารถตอบคำถาม ช่วยตรวจคำตอบ นั่นคือ “สถาบันกวดวิชา” นั่นเอง แต่ข้อเสียคือเราต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา หากครอบครัว ผู้ปกครองสนับสนุน ก็ควรใช้ทุกนาทีที่จ่ายไปให้คุ้มค่ากันด้วยนะคะ จากการที่ลองค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เนตผู้เขียนพบว่า สถาบันกวดวิชาหลายๆ[…]

การสมัครสอบ GED และขั้นตอนต่างๆ

GED Testing Service ร่วมกับ Pearson VUE และ the American Council on Education (ACE) ดำเนินการสอบ GED โดยอยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันสอบผ่านคอมพิวเตอร์ระดับโลกอย่าง Pearson VUE ผู้ที่สนใจสมัครสอบสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://ged.com โดยผู้สมัครสอบในประเทศไทยจะต้องคลิกเลือกสอบ Other Countries ในหัวข้อ Test in ดังรูปด้านล่างนี้ หากเคยลงทะเบียนแล้วก็สามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบ เพื่อสมัครสอบได้เลย แต่ถ้ายังไม่เคยลงทะเบียนก็ทำการกรอกข้อมูลสร้างบัญชีผู้ใช้ก่อน จึงทำการสมัครสอบต่อไป ในประเทศไทยสามารถเลือกสนามสอบได้ 3 ที่คือ The Enterprise Resources ชั้น 3 อาคารชาญอิสระ2 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพ 10320 Pearson Professional Centers – Bangkok Thailand ห้องเลขที่ 10-10 ชั้น 10 อาคาร Bangkok[…]

เจาะลึก 5 รายวิชาในการเรียน GED ติวGED

การสอบ GED จะต้องสอบผ่านทุกวิชา โดยมีทั้งหมด 5 วิชา และแต่ละวิชาจะต้องได้คะแนนอย่างน้อย 410 คะแนน และคะแนนรวมทั้ง 5 วิชารวมกันต้องไม่น้อยกว่า 2,250 คะแนน โดยมีประเภทการสอบของ GED คือ ข้อสอบปรนัย (Multiple choice), ฝนคำตอบลงในกระดาษคำตอบ (Number grid) และ พิกัดเส้นกริด (Coordinate grid) 5 รายวิชาและแนวการสอบใน GED เป็นดังนี้ Language Arts, Reading เป็นข้อสอบปรนัย (Multiple Choice) 40 ข้อ ใช้เวลาการสอบ 65 นาที โดยเนื้อหาจะเน้นในเรื่องของการอ่านเพื่อนำไปตอบคำถาม จะมีทั้งบทความจากวรรณคดี และบทความจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเช่น เอกสารทางธุรกิจ บทภาพยนตร์ เป็นต้น Language Arts, Writing จะแบ่งเป็น 2 Part แต่สอบพร้อมกันคือ[…]

เรียนGED วุฒิ ม.6 สำหรับคนเรียนนอกระบบ

หากใครอ่านหัวข้อของบทความนี้แล้วเกิดความสงสัย คงจะต้องรีบไปหาข้อมูลกันเป็นการใหญ่ ว่า GED มันคืออะไร เพื่อให้หายสงสัยกันจะขออธิบายดังนี้ GED หรือชื่อเต็มๆ ว่า General Educational Development คือการสอบเทียบวุฒิการศึกษามัธยมปลายตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆสามารถสอบได้โดยผู้ที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐอเมริกาจะต้องมีอายุ ตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ขณะนี้การจัดสอบอยู่ภายใต้การดูแลของ Pearson VUE สถาบันสอบผ่านคอมพิวเตอร์ระดับโลก ผู้ที่สอบ GED ในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แต่สำหรับประเทศไทยนั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นน้องๆ นักเรียนอายุน้อยๆ หรือนักเรียนเรียนที่บ้าน (Home School) เพื่อให้ได้วุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป โดยการสอบ GED นี้หากสอบผ่านตามที่กำหนดไว้ก็จะได้วุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายทันทีโดยไม่ต้องไปขอเทียบวุฒิที่กระทรวงศึกษาธิการ ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการเทียบวุฒิการศึกษาต่างประเทศ http://bet.obec.go.th/bet/wp-content/uploads/2015/06/p223514.pdf หากดูจากเว็บไซต์ www.ged.com เราจะพบว่าการสอบ GED ได้มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2014 ทั้งในเรื่องผลคะแนน เนื้อหาการสอบ และค่าสมัครสอบ แต่ทว่าการสอบ GED ในประเทศไทยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยใช้ชื่อการสอบเดิมนี้ว่า 2002 series จะมีแต่เพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ใช้การสอบใหม่ที่มีชื่อว่า 2014 series   เนื้อหาของการสอบ[…]

ทำไมจึงควรตัดสินใจติว GED กับ The Planner Education

  การหาสถาบันติว GED ในปัจจุบัน น้องๆสามารถหาได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว เพียงน้องๆพิมพ์คำว่า “ติว GED” ลงไปใน Google น้องๆก็จะพบว่ามีสถาบันติว GED มากมายให้น้องๆเลือกได้ตามอัธยาศัย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เราก็มักจะเลือกที่เรียนจาก ชื่อเสียง ประสบการณ์ คำบอกเล่า ราคาค่าเล่าเรียน หรือความสะดวกในการเดินทาง หรือบางครั้งเราก็เลือกเรียนตามเพื่อนของเราไปเลย แล้วทำไมจึงควรเลือกติว GED กับ The Planner Education ล่ะ? เพราะเราเป็นหนึ่งในผู้ที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญการติว GED ให้กับน้องๆมายาวนาน และเรามีปัจจัยสำคัญที่มากกว่าข้อพิจารณาขั้นต้นตามที่กล่าวมา นั่นคือ   The Planner Vision สถาบันของเรามีจุดมุ่งหมายในการเสริมสร้างความรู้ ความสามารถให้กับน้องๆคนรุ่นใหม่ ให้ก้าวไปสู่การศึกาในระดับอุดมศึกษาอย่างมีคุณภาพ ที่เชี่ยวชาญทั้งด้านภาษาอังกฤษ และด้านวิชาการ เราจึงเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนสำหรับน้องๆที่เตรียมตัวเข้าทดสอบทางด้านภาษา ไม่ว่าจะเป็น GED, IGCSE, SAT, IELTS, CU-AAT, CU-ATS, TOEFL-MUIC, MUIDS, CU-TEP, TU-GET,[…]

ทำความเข้าใจ การสอบ GED 2002 series และ GED 2014 ในแต่ละวิชา

  การสอบ GED นั้นเป็นการสอบเทียบวุฒิชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย การสอบมีมาตรฐานเป็นสากล โดยในประเทศไทยเราใช้ข้อสอบ GED 2002 series ซึ่งประกอบไปด้วยการสอบ 5 วิชา ได้แก่ Language Arts; Reading (การอ่านภาษาอังกฤษ) Language Arts; Writing (การเขียนภาษาอังกฤษ) Social Studies (สังคมศึกษาและประวัติศาสตร์) Mathematics (คณิตศาสตร์) Science (วิทยาศาสตร์) ดูรายละเอียด GED 2002 series ในการสอบ ทุกวิชาจะทำการสอบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มีทั้งที่เป็น Multiple Choice, การเติมคำ(ตัวเลข) และการเขียน ซึ่งแต่ละวิชาล้วนมีจุดประสงค์ในการวัดผลแตกต่างกัน จึงมีการแบ่งสัดส่วนของเนื้อหาตามความต้องการวัดผล ซึ่งหากน้องๆเข้าใจว่าข้อสอบแต่ละวิชาต้องการวัดอะไร น้องๆก็จะสามารถทำข้อสอบ GED ได้ดียิ่งขึ้น ทีนี้เรามาดูกันว่าข้อสอบ GED 2014 ต่างกับ GED 2002 อย่างไร ข้อสอบ GED 2014[…]

Checklist การสอบ GED จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดหมาย

  หากน้องๆกำลังพบว่าการเตรียมตัวสอบ GED มีหลายขั้นตอน จนไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อน เพราะไหนจะต้องวางแผนการอ่านถึง 5 วิชา ต้องไปติว GED ต้องทำแบบฝึกหัดและข้อสอบย้อนหลังตั้งหลายปี แถมยังต้องกังวลกับชีวิตการเรียนในระบบปกติ หรือบางคนอาจต้องทำงานไปด้วย ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะสามารถจัดตรางชีวิตเพื่อให้ทำทุกอย่างได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ ดังนั้น เราจึงต้องหาวิธีการในการลำดับความสำคัญของสิ่งที่เราต้องทำ ซึ่งตัวช่วยของเราก็คือสิ่งที่เรียกกันว่า “Checklist” Checklist คือ การรวบรวมรายละเอียดขั้นตอนของสิ่งที่ต้องทำ มาจัดทำเป็นลำดับขั้น 1, 2, 3, 4… ตามขั้นตอน หรือตามความสำคัญ หรือตามความเร่งด่วน ซึ่งการทำ Checklist ในการสอบ GED ช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง และสามารถ Update ได้ด้วยว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อให้น้องๆไม่พลาดทุกขั้นตอนสำคัญ ซึ่งวิธีการทำ Checklist ประกอบด้วย ระบุขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดของการสอบ GED: โดยสำรวจข้อมูลให้ครบถ้วนว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และ List เป็นข้อๆ จัดลำดับขั้นตอน: นำสิ่งที่ระบุไว้ในข้อที่ 1 มาทำการลำดับขั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสน น้องๆควรลำดับขั้นตอนตามความสำคัญ และความเร่งด่วน Update[…]

ลงทะเบียนสอบ GED ให้ปลอดภัย

การสอบ GED นั้น ผู้สมัครสอบจะต้องดำเนินการลงทะเบียนในเว็บไซต์ เลือกวัน เวลา สถานที่สอบ วิชาที่จะสอบ และชำระเงินค่าสอบ โดยทั้งหมดดำเนินการผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งถือว่ามีความสะดวกสำหรับผู้สมัครสอบอย่างมาก ที่ไม่ต้องเดินทางไปสมัครที่ศูนย์สอบให้ยุ่งยาก ยกเว้น “การสอบ” ผู้สมัครทุกคนจะต้องเดินทางไปสอบที่ศูนย์สอบด้วยตนเอง ตามวัน-เวลาที่ตนได้ลงทะเบียนไว้ โดยต้องแสดงตนต่อศูนย์สอบด้วยบัตรประชาชน และ Passport ซึ่งระเบียบการสอบนี้ ทาง GED ได้มีการเน้นย้ำไว้แล้วอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ความสะดวกในการดำเนินการเกือบทุกอย่างผ่านเว็บไซต์ ก็กลายเป็นช่องโหว่ให้เหล่ามิจฉาชีพสามารถหลอกล่อให้ผู้สมัครสอบชำระค่าสอบ GED บนเว็บไซต์ปลอม หรือให้ข้อมูลปลอม เพื่อให้ผู้สมัครชำระเงินมากกว่าปกติ โดยทำให้เชื่อว่าการสมัครสอบ GED ผ่านเว็บไซต์ของตนสามารถสอบทางออนไลน์ ไม่ต้องไปศูนย์สอบ หรือสามารถผ่าน GED ได้โดยไม่ต้องสอบเป็นต้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพื่อมิให้น้องๆที่สมัครสอบ GED จะต้องตกเป็นเหยื่อ เสียเงินจำนวนมากที่เตรียมไว้เพื่อการสอบ GED ตกไปเป็นของมิจฉาชีพเหล่านี้ เรามีข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยป้องกันภัยมาเล่าสู่กันฟัง ดังต่อไปนี้ เว็บไซต์เหล่านั้นตั้งชื่อคล้ายกับเว็บไซต์จริงที่ใช้ในการลงทะเบียน เช่น การเติม s หลังชื่อ, การใช้ชื่อเหมือนกับเว็บไซต์จริงแต่ใช้ (.) แตกต่างกันกับเว็บไซต์จริง ฉะนั้น[…]

อยากเรียนต่อที่อังกฤษ ต้องเรียน GED หรือ ติวIGCSE

GED (General Educational Development) คือ การสอบที่เทียบวุฒิการศึกษามัธยมปลายตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) คือ การสอบเทียบวุฒิการศึกษาชั้นมัธยมปลายในเครือสหราชอาณาจักร ดังนั้น จากนิยามเราจะสังเกตได้ว่า การสอบทั้ง 2 ประเภทเป็นการสอบเพื่อเทียบวุฒิชั้นมัธยมปลายเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันคือ GED สำหรับสหรัฐอเมริกา ส่วน IGCSE ใช้สำหรับประเทศอังกฤษนั่นเอง น้องๆที่ต้องการศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ ต้องสอบ IGCSE ซึ่งประกอบไปด้วยการสอบภาษาอังกฤษทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน ร่วมกับการสอบวิชาเฉพาะตามความถนัดของผู้สอบอีก 2 วิชา ซึ่งน้องๆสามารถเลือกได้ตามวิชาที่ตนเองถนัด การสอบ IGCSE แบ่งการสอบเป็น 2 ระดับคือ Core                       จะตัดเกรด ตั้งแต่ C-G Extended              จะตัดเกรด ตั้งแต่ A*-G ข้อสอบ IGCSE เป็นการสอบแบบอัตนัยและบางวิชาอาจต้องแสดงวิธีทำด้วย สำหรับการสอบ[…]

บันได 5 ขั้นแห่งการสอบ GED

ตั้งแต่เล็กจนโต เราทุกคนล้วนผ่านการเรียนรู้ในระบบการศึกษามาทีละขั้นๆ ตั้งแต่ในระดับอนุบาล ประถม มัธยมต้น มาจนถึงมัธยมปลาย ซึ่งการสอบ GED ก็ถือเป็นบันไดขั้นหนึ่งก่อนที่จะก้าวไปสู่ระดับอุดมศึกษา ซึ่งเป็นก้าวใหญ่ที่เปลี่ยนจากมัธยมไปสู่สังคมมหาวิทยาลัย แต่ การเรียน GED ไม่ใช่การเรียนในลักษณะเดียวกันกับระบบการศึกษาสายสามัญ แต่เป็นการใช้ความรู้ในสายสามัญของสหรัฐอเมริกามาสอบเพื่อเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยที่น้องๆไม่ต้องใช้เวลาในการเรียนเท่ากับสายสามัญตามปกติ ดังนั้น GED จึงเป็นเสมือนทางลัด แต่เป็นทางลัดที่อาศัยความมุมานะบากบั่นไม่น้อยเลยทีเดียว ในการสอบ GED นั้น มีลำดับขั้นตอนในการดำเนินการเช่นเดียวกับการสอบเทียบวุฒิอื่นๆเช่น IGCSE ซึ่งเราต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจตั้งแต่การสอบ GED คืออะไร สมัครสอบอย่างไร สอบอะไร ไปจนถึงสอบผ่านแล้วจะได้อะไร ซึ่งจะขอเรียกขั้นตอนแต่ละขั้นว่า “บันได” ที่จะให้เราก้าวขึ้นไปทีละ Step จนถึงจุดสูงสุด ดังต่อไปนี้ ขั้นเริ่มต้น : เป็นขั้นตอนการเริ่มเรียนรู้ และทำความเข้าใจว่า GED คืออะไร และเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง โดยในขั้นนี้ น้องๆจะได้ทราบว่า GED จะต้องสอบอะไรบ้าง และเริ่มวางแผนการอ่าน การติว รวมทั้งหาหนังสือและแบบฝึกหัดเพิ่มเติม ขั้นเตรียมพร้อม : ในขั้นนี้เป็นขั้นตอนการดำเนินการตามแผนที่เราวางไว้ในขั้นเริ่มต้น ได้แก่[…]