ไขข้อสงสัย จบโรงเรียนหลักสูตรไทย เรียนต่อคณะอินเตอร์ได้ไหม

ความกังวลของเด็กหลักสูตรไทยที่มีความฝันอยากเรียนคณะอินเตอร์ คือความกลัวที่จะต้องเริ่มต้น ตัวเองจะเริ่มต้นกับอะไรก่อนดี ควรเริ่มต้นอ่านหนังสือที่เรื่องอะไร ควรไปติวหรือไปเรียนพิเศษวิชาไหนบ้าง ตลอดจนความกังวลหลังสอบติดว่าเราจะเรียนตามเพื่อน ๆ ทันไหม จะเรียนรู้เรื่องไหม หากต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษล้วน ทั้งที่ทั้งชีวิตเราเรียนเป็นภาษาไทยมาโดยตลอด บอกเลยค่ะว่าก่อนจะไปถึงคณะในฝัน น้อง ๆ ควรจะเลิกกลัวการเริ่มต้นก่อนเลยค่ะ และเพื่อคลายความกังวลหลาย ๆ อย่างของน้อง ๆ The Planner จะมาช่วยไกด์ไลน์การเรียนการวางแผนเตรียมตัวสู่คณะอินเตอร์ ฉบับเด็กนักเรียนหลักสูตรไทยกันค่ะ

ก่อนอื่นจะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักกับคะแนนตัวสำคัญที่ใช้ในการยื่นเข้าภาคอินเตอร์ทุกคณะในไทยกันก่อนเลย นั่นคือ IELTS และ TOEFL ผลคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษหลัก ๆ ที่สามารถใช้ยื่นเข้าคณะอินเตอร์ได้ทุกที่ เรียกได้เลยว่าหากน้อง ๆ จะสอบเข้าภาคอินเตอร์น้อง ๆ จะต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ 1 ใน 2 ตัวนี้เป็นสำคัญ แม้ว่าหลายคณะจะมีตัวเลือกอื่นให้น้องได้ยื่นเข้าแทน IELTS หรือ TOEFL แต่ตัวเลือกเหล่านั้นก็ยังไม่สามารถยื่นเข้าได้ทุกคณะเหมือน IELTS และ TOEFL การที่เราโฟกัสทั้ง 2 ตัวนี้เป็นสำคัญเลย มันน่าจะดีใช่ไหมคะ ต่อมาจะเป็นเรื่องสายของคณะอินเตอร์ว่าแต่ละหลักสูตรอยู่สายไหน ใช้คะแนนอะไรบ้าง วันนี้ The Planner ได้รวบรวมสรุปมาให้น้อง ๆ แล้วค่ะ มีทั้งหมด 4 สายดังนี้

  1. คณะสายศิลป์
    – คะแนนที่ใช้: คะแนนผลทดสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL, SAT ฯลฯ
    – ตัวอย่างคณะ: BALAC, BEC, BJM, PGS, PBIC ฯลฯ
  2. คณะสายคำนวณ
    – คะแนนที่ใช้
    (1) คะแนนผลทดสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL, SAT ฯลฯ
    (2) คะแนนผลทดสอบคณิตศาสตร์ เช่น SAT MATH, ACT, IB, A-Level ฯลฯ
    – ตัวอย่างคณะ: BBA, Comm Arts, INDA, Comm De
  3. คณะสายวิทย์
    – คะแนนที่ใช้
    (1) คะแนนผลทดสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL, SAT ฯลฯ
    (2) คะแนนผลทดสอบคณิตศาสตร์ เช่น SAT MATH, ACT ฯลฯ
    (3) คะแนนผลทดสอบวิทยาศาสตร์ศาสตร์ เช่น ACT, IB, A-Level ฯลฯ
    – ตัวอย่างคณะ: ChPE, BSAC, ISE ฯลฯ
  4. คณะสายแพทย์
    – คะแนนที่ใช้
    (1) คะแนนผลทดสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL, SAT ฯลฯ
    (2) BMAT

 เตรียมตัวสู่คณะอินเตอร์ฉบับเด็กหลักสูตรไทย

  1. รู้ก่อนว่าเป้าหมายของตัวเองคือคณะอะไร
  2. ศึกษา Requirement ของคณะที่อยากเข้า อ้างอิงปีก่อนได้ เพราะ Requirement แต่ละปีจะไม่ค่อยเปลี่ยนจากเดิม
  3. เริ่มติวจากการติวผลทดสอบภาษาอังกฤษอย่าง ติว IELTS หรือ ติว TOEFL เพราะคะแนนภาษาอังกฤษใช้ยื่นเข้าอินเตอร์ทุกคณะ
  4. เริ่มติวผลทดสอบอื่น ๆ ที่ต้องใช้ยื่น เช่น SAT Math วิชาออกแบบ หรือวิชาความถนัดอื่น ๆ ฯลฯ
  5. เมื่อน้อง ๆ ได้คะแนนถึงเป้าหมายที่ต้องทำแล้ว 2 อย่างสุดท้ายที่ต้องทำคือ เตรียมแฟ้มสะสมผลงานและเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์

หมายเหตุ : น้องสามารถติวภาษาอังกฤษกับวิชาอื่นไปพร้อมกันได้เลยนะคะ

 มาถึงอีกหนึ่งเรื่องกังวลใจของเด็กหลักสูตรไทย เมื่อน้อง ๆ สอบติดคณะอินเตอร์ แต่ยังกังวลว่าจะเรียนตามเพื่อนไม่ทัน อยากให้น้อง ๆ อย่าพึ่งกลัวหรือกังวลไปก่อนเลยนะคะ ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญ หากเราได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทั้งเพื่อน ๆ และอาจารย์ต่างพูดภาษาอังกฤษกันหมด สภาวะแบบนี้ถือเป็นข้อดีที่จะทำให้น้องเก่งภาษาอังกฤษขึ้น และกล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น เวลาสี่ปีในคณะอินเตอร์จะทำให้น้องได้พัฒนาภาษาอังกฤษแบบก้าวกระโดดแน่ ๆ ค่ะ เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่ช่วงสี่ปีในมหาวิทยาลัยถือเป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงเวลาหนึ่งเลยนะคะ

The Planner ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ทุกคนที่มีความฝันว่าอยากเรียนในคณะหลักสูตรอินเตอร์ อย่าพึ่งกังวลหรือกลัวกันไปก่อนเลยนะคะ และถ้าหากอยากได้เพื่อนคู่คิดร่วมทางไปสู่คณะในฝัน The Planner เป็นอีกหนึ่งสถาบันในการติวเพื่อเข้าคณะอินเตอร์ที่ดีเลยนะคะ

 สนใจติว A-LEVEL | IGCSE | GED | SAT/GSAT | ACT | IELTS | IB | AP | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 095-726-2666
หรือ LINE: @theplanner

เพิ่มเพื่อน

Leave a Reply