IELTS Essay Structure เรียนรู้โครงสร้าง…เขียนให้ปัง

ใครที่กำลังติว IELTS หรือหาที่ติว IELTS อาจจะกำลังเจอปัญญหาในข้อสอบพาร์ท Writing ด้วยความที่การเขียนบทความหรือ Essay ภาษาอังกฤษจะมีความเป็นทางการมากกว่าภาษาพูดค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นนอกจากเรื่องคำศัพท์ที่เป็นปัญหาแล้ว อาจจะเป็นเรื่องโครงสร้างของบทความที่ทำให้น้อง ๆ อาจจะสงสัยว่าบทความจะเขียนออกมาในรูปแบบไหนให้มันถูกต้องที่สุด

โครงสร้าง Essay โดยปกติจะมีดังนี้:

  1. Introduction
  2. Main Body (2-3 paragraph)
  3. Conclusion

ซึ่งถ้าน้อง ๆ สามารถเขียนแบ่งแต่ละย่อหน้า (paragraph) ตามโครงสร้างบทความด้านบนก็เริ่มมาถูกทางแล้ว โดยเนื้อหาในย่อหน้าของ Main Body จะแตกต่างกันไปตามประเภทของ Essay ที่น้อง ๆ เขียน หรือตามโจทย์ที่ได้มา

หลัก ๆ แล้วจะมี 5 ประเภทบทความในข้อสอบ IELTS:

  1. Opinion (Agree or Disagree)
  2. Discussion (Discuss both views)
  3. Problem and Solution
  4. Advantages and Disadvantages
  5. Direct Question (Two-part Question)

 

  1. Opinion Questions (Agree or Disagree) 

โจทย์จะให้น้อง ๆ แสดงความคิดเห็นว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับประโยคที่โจทย์ให้มา ซึ่งจะต้องเขียนอธิบายเหตุผลที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยให้ชัดเจน สามารถยกตัวอย่างจากเหตุการณ์จริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แล้วก็ทำให้บทความที่เขียนมีเหตุมีผลมากขึ้น

ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Opinion Questions

  • Introduction
    • เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
    • ทวนคำถาม (optional)
    • เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
  • Main Body Paragraph 1 
    • ประโยคหัวเรื่อง หรือแสดงใจความสำคัญของย่อหน้านี้
    • อธิบายความคิดเห็นของตัวเอง
    • ยกตัวอย่างเพื่อซัพพอร์ตเหตุผลที่เขียน
  • Main Body Paragraph 2
    • ประโยคหัวเรื่อง หรือแสดงใจความสำคัญของย่อหน้านี้
    • อธิบายความคิดเห็นของตัวเอง
    • ยกตัวอย่างเพื่อซัพพอร์ตเหตุผลที่เขียน
  • Conclusion 
    • บทสรุปของทั้งหมด สรุปแล้วเราเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร
  1. Discussion (Discuss both views)

โจทย์จะกำหนด Statement มาให้ 1 หัวข้อ แล้วจะมี ความคิดเห็น 2 ฝั่งที่ขัดแย้งกัน อย่างเช่น ชุด Uniform โรงเรียนทำให้เกิดความเป็นระเบียบ คนบางส่วนเห็นด้วย แต่บางส่วนก็บอกว่าสิ้นเปลือง น้อง ๆ ก็ต้องแสดงความคิดเห็นว่าคิดเห็นอย่างไรกับ 2 ความขัดแย้งนี้ และเราเห็นด้วยกับความเห็นฝั่งไหน พร้อมอธิบายให้ชัดเจน

ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Discuss Both Views Question 

  • Introduction
    • เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
    • ทวนคำถาม (optional)
    • เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
  • Main Body Paragraph 1
    • ความคิดเห็นที่ 1
    • แสดงความคิดเห็นของตัวเองที่มีต่อความเห็นแรก
    • เขียนเหตุผลว่าทำไมถึงเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย
    • ยกตัวอย่างประกอบเหตุผลที่เขียน
  • Main Body Paragraph 2
    • ความคิดเห็นที่ 2
    • แสดงความคิดเห็นของตัวเองที่มีต่อความเห็นแรก
    • เขียนเหตุผลว่าทำไมถึงเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย
    • ยกตัวอย่างประกอบเหตุผลที่เขียน
  • Conclusion 
    • บทสรุปของทั้งหมด สรุปแล้วเราคิดว่าจาก 2 ความขัดแย้ง เราเห็นด้วยกับแบบไหนมากกว่า
  1. Problem and Solution

เป็นประเภทของ Essay ที่น้อง ๆ จะต้องให้ Solution หรือว่าหนทางแก้ปัญหาในเรื่องที่โจทย์ให้มา Statement ที่โจทย์ให้อาจจะเกี่ยวข้องกับปัญหาทางสังคมโดยรวม ๆ เช่นปัญหาของเด็กสมาธิสั้นลงเพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งน้อง ๆ อาจจะอธิบายเพิ่มเติมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับวิธีแก้ปัญหา หรือ สาเหตุของปัญหา กับวิธีการแก้ปัญหาก็ได้เช่นกัน

ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Problem and Solution

  • Introduction 
    • เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
    • ทวนคำถาม (optional)
    • เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
  • Main Body Paragraph 1
    • ปัญหาที่ 1
    • อธิบายว่าปัญหาคืออะไร
    • ปัญหาที่ 2
    • อธิบายว่าปัญหาคืออะไร
  • Main Body Paragraph 2
    • หนทางแก้ปัญหาที่ 1
    • อธิบายวิธีแก้ปัญหาเพิ่มเติม
    • หนทางแก้ปัญหาที่ 2
    • อธิบายวิธีแก้ปัญหาเพิ่มเติม
  • Conclusion 
    • บทสรุปของทั้งหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร และวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคืออะไร
  1. Advantages and Disadvantages

โจทย์จะให้เราอธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของ Statement อย่างเช่นถ้าโจทย์บอกว่า Gap Year กำลังเป็น Trend ของวัยรุ่นสมัยนี้ นักเรียนเรียน GED มากขึ้น มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร น้อง ๆ ก็จะต้องอธิบายถึงข้อดี 1 พารากราฟ และข้อเสียอีก 1 พารากราฟพร้อมเหตุผลที่จะช่วยซัพพอร์ตความคิดเห็นของน้อง ๆ

ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Advantages and Disadvantages

  • Introduction 
    • เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
    • ทวนคำถาม (optional)
    • เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
  • Main Body Paragraph 1
    • 2 ข้อดีของ Statement ที่โจทย์ให้
    • อธิบายข้อดีที่ 1
    • อธิบายข้อดีที่ 2
    • ยกตัวอย่างประกอบเหตุผลที่เขียน
  • Main Body Paragraph 2
    • 2 ข้อเสียของ Statement ที่โจทย์ให้
    • อธิบายข้อเสียที่ 1
    • อธิบายข้อเสียที่ 2
    • ยกตัวอย่างประกอบเหตุผลที่เขียน
  • Conclusion 
    • บทสรุปของทั้งหมด ข้อดีและข้อเสียของ Statement ที่โจทย์ให้คืออะไร
  1. Direct Question (Two-part Question)

โจทย์ที่เป็น Direct Question หรือ Two-part Question จะให้ Statement มา 1 หัวข้อ แต่จะถามคำถาม 2 ข้อขึ้นไป ให้น้อง ๆ ตอบให้ครบบทุกข้อ ทีละคำถาม โดยที่คำถามอาจจะเชื่อมโยงกันหรือว่าไม่เชื่อมโยงกันก็ได้

ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Direct Question

  • Introduction 
    • เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
    • ทวนคำถาม (optional)
    • เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
  • Main Body Paragraph 1
    • ตอบคำถามที่ 1
    • อธิบายคำตอบที่เขียน
    • อธิบายเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่าง
  • Main Body Paragraph 2
    • ตอบคำถามที่ 2
    • อธิบายคำตอบที่เขียน
    • อธิบายเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่าง
  • Conclusion 
    • บทสรุปของทั้งหมด สรุปจากคำตอบที่เราเขียนในพรารากราฟที่ 2-3

ไม่ว่าน้อง ๆ จะได้เขียนบทความประเภทไหนก็ต้องคำนึงว่าตอบตรงประเด็นและมีเหตุผลซัพพอร์ตที่หนักแน่นมาอธิบายความคิดเห็นของตัวเอง อาจจะลิสต์เป็นข้อ ๆ ไว้ก่อนแล้วค่อยเขียนออกมาเป็นพารากราฟก็ได้ จะได้ตอบคำถามให้ครบทุกจุดที่โจทย์ถามโดยไม่หลงลืมประเด็นสำคัญ หากมีคลังคำศัพท์ในหัวเยอะก็จะช่วยเพิ่มคะแนนให้น้อง ๆ ได้ IELTS Writing แบนด์สูงได้ แต่เวลาเลือกคำศัพท์มาใช้ ควรมั่นใจกับความหมายของคำนั้น ๆ ด้วย

ที่ The Planner Education มีคอร์สเรียน IELTS ครอบคลุมทั้ง 4 สกิลในข้อสอบ IELTS ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ใครกำลังมองหาที่ติว IELTS เพื่อสอบเข้าคณะอินเตอร์หรือนำคะแนน IELTS ไปใช้เพื่อยื่นเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศ สามารถติดต่อ The Planner Education ได้ทางไลน์ หรือโทรฯ สอบถามได้โดยตรง

สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT/GSAT | ACT | IELTS | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | IB | AP | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Line: @theplanner หรือ Phone: 095-726-2666

เพิ่มเพื่อน

Leave a Reply