สำหรับน้อง ๆ ที่มีแผนเตรียมสอบเพื่อยื่นคะแนนเข้าคณะอินเตอร์หรือมหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ คงต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับ “ข้อสอบ SAT” กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นหนึ่งในข้อสอบเฉพาะสำคัญที่ใช้พิจารณาทักษะด้านการวิเคราะห์เหตุผลและตรรกะของน้อง ๆ นอกเหนือจากการสอบ IELTS ซึ่งจะวัดทักษะด้านภาษาอังกฤษเป็นหลัก
แต่น้อง ๆ ทราบกันไหมคะว่า การสอบ SAT ไม่ได้มีแค่ประเทศไทยเท่านั้นนะคะที่สอบกัน ในบล็อกนี้มาดูกันว่า ข้อสอบ SAT มีที่มาที่ไปอย่างไร? และระหว่างการสอบข้อสอบนี้ในประเทศไทย และประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการสอบ SAT มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง? ถ้าพร้อมแล้ว เราไปรู้กันได้เลย
SAT คืออะไร?
SAT ย่อมาจาก Scholastic Aptitude Test หรือ Scholastic Assessment Test จัดสอบโดยหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาชื่อ College Board โดยจะเป็นข้อสอบมาตรฐานสากลที่ใช้วัดทักษะความรู้ความสามารถในวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics) และภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สำหรับการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ ข้อสอบ SAT ยังได้รับความสนใจและมีการยอมรับในมหาวิทยาลัยหลากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงมหาวิทยาลัยของประเทศไทยหลายแห่ง ก็ได้นำผลคะแนนสอบ SAT มาใช้เป็นเกณฑ์ในการรับเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติด้วยเช่นกัน
เกร็ดความรู้: ปัจจุบันข้อสอบ SAT ทำการทดสอบผ่านระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์แทนการสอบแบบกระดาษแล้ว หรือที่เรียกกันว่า SAT Digital Test ซึ่งมีความแม่นยำกว่า รวดเร็วกว่า และอื่น ๆ อีกมากมาย
อ่านบทความ วิวัฒนาการของ SAT ก่อน Digital SAT เคยเป็นแบบไหนมาก่อน คลิกที่นี่
ข้อสอบ SAT ของอเมริกา เป็นแบบไหน?
ข้อสอบ SAT ในประเทศสหรัฐอเมริกา นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (High School) จะสามารถใช้ผลการทดสอบมาใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ได้ทั่วประเทศ
ข้อสอบ SAT ของอเมริกาแต่เดิม จะวัดความถนัด 3 พาร์ท ได้แก่ การอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ (Critical Reading), การเขียนภาษาอังกฤษ (Writing) และ คณิตศาสตร์ (Mathematics) แต่ละพาร์ทมีคะแนนเต็มพาร์ทละ 800 คะแนน รวมทั้งหมด 2,400 คะแนน
แต่ในเดือนมีนาคม 2559 ข้อสอบ SAT ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบข้อสอบและระบบการให้คะแนนใหม่ ทำให้จากเติม SAT คะแนนเต็ม 2,400 ถูกเปลี่ยนมาเป็นคะแนนเต็ม 1,600 คะแนน โดยยกการสอบในพาร์ทการเขียนภาษาอังกฤษ (Writing) ไปรวมกับพาร์ทการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ (Critical Reading) หรือที่เรียกว่า การอ่านเชิงวิเคราะห์และการเขียนภาษาอังกฤษ (Evidence-Based Reading & Writing)
สำหรับรอบสอบ SAT ในอเมริกานั้นสอบได้เกือบทั้งปี ตามช่วงเวลาที่กำหนด แต่หลัก ๆ ตามระบบจะได้แก่ มีนาคม พฤษภาคม มิถุนายน สิงหาคม ตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม นอกจากนี้การสอบ SAT ที่อเมริกายังสามารถตรวจวันสอบได้ล่วงหน้าถึง 2 ปี ผ่านเว็บไซต์ College Board อีกด้วย
ส่วนในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบ การสอบ SAT ที่อเมริกา น้อง ๆ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสอบทั้งหมด 60$ หรือประมาณ 2,100 บาท(อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามค่าเงิน ณ เวลานั้นนะคะ)
ข้อสอบ SAT ของไทย เป็นแบบไหน?
สำหรับข้อสอบ SAT ในประเทศไทย จะมีเนื้อหาการสอบแบบเดียวกันกับการสอบของอเมริกาแบบล่าสุด นั่นคือการสอบวัดความถนัด 2 พาร์ท ได้แก่ R&W และการสอบ Mathematics และมีคะแนนเต็ม 1600 เท่ากัน ซึ่งเมื่อทดสอบเสร็จเรียบร้อยน้อง ๆ ก็จะสามารถใช้คะแนนยื่นพิจารณากับทางคณะอินเตอร์ที่ต้องการเพื่อเข้าเป็นนักศึกษาได้เช่นเดียวกัน
แต่สำหรับรอบสอบ SAT ในประเทศไทยนั้นจะมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยเมื่อเทียบกับที่อเมริกา โดยจะกำหนดการสอบจะตรงกัน แต่ Deadline การเปิดปิดรับสมัครจะไม่ตรงกันกับที่อเมริกา และจะแสดงรอบสอบล่วงหน้าให้เห็นในเว็บไซต์ College Board เพียง 3 รอบเดือนที่จะถึง หรือไม่เกินในปีนั้น ๆ เท่านั้น
และในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบ การสอบ SAT ที่ประเทศไทย น้อง ๆ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสอบ 60$ เท่ากันกับที่อเมริกา แต่จะมีในส่วนที่เป็น international fee เพิ่มมาอีก 43$ เท่ากับว่าน้อง ๆ ที่สอบ SAT ในประเทศไทยจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสอบรวมทั้งหมด 103$ หรือประมาณ 3600 บาท(อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามค่าเงิน ณ เวลานั้นค่ะ)
อ่านบทความ SAT 1450 ทำได้จริง กับ น้องกระปุก คลิกที่นี่
การสอบ SAT ถือเป็นการสอบที่สำคัญมาก ๆ กับน้อง ๆ นักเรียน ม.ปลายที่ต้องการเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะน้อง ๆ นักเรียนไทย ที่ไม่เพียงแต่ต้องเตรียมตัวติวเรื่องเนื้อหาการสอบ แต่ยังต้องดูเรื่องรอบสอบ วันสอบและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดด้วย
แต่จะดีกว่านี้ไหม ถ้าน้อง ๆ มีคนที่คอยช่วยเหลือน้อง ๆ แบบครบทุกปัญหา ดูแลตั้งแต่ต้นจนสอบผ่าน? ที่ The Planner Education สถาบันติวสอบเข้าคณะอินเตอร์ เปิดสอน คอร์สติว SAT ทั้งรูปแบบกลุ่ม รูปแบบคู่และเดี่ยว ซึ่งนอกจากจะได้เทคนิคและความรู้ดี ๆ จากคุณครูแล้ว น้อง ๆ ยังได้รับบริการที่ครบวงจรจากทีมพี่ ๆ แอดมินที่คอยดูแลและให้คำปรึกษา ทั้งเรื่องการสมัครสอบ รอบสอบ และการตรวจสอบข้อมูลอื่น ๆ ให้กับน้อง ๆ แบบเรียลไทม์
มองหาสถาบันติว SAT ดี ๆ สักที่ เลือกติวสอบกับ The Planner Education ไม่มีผิดหวัง การันตีจากน้อง ๆ ลูกศิษย์สถาบันที่สอบผ่านแล้วมากกว่า 2,000 คน!!
สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT/GSAT | ACT | IELTS | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | IB | AP | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!