เรียน ged ไม่ใช่เพื่อแค่ให้สอบผ่าน

เรียน ged ที่ไหนดีถึงจะแน่นไปด้วยความรู้ และไม่ใช่เพื่อแค่ให้แค่สอบผ่านไปได้เท่านั้น แต่มีอะไรที่เราควรจะได้รับมากกว่า น้องๆ หลายคนคงจะรู้จักกันมาบ้างแล้วนะคะว่า GED (General Education Development) นั้นคืออะไร และหลายคนคงสนใจกับการสอบวัดผลของ GED นี่อยู่พอสมควร เพราะเมื่อเราสอบผ่านก็จะได้วุฒิการศึกษาที่เทียบเท่ากับวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลาย (ม.6) โดยไม่ต้องไปเสียเวลานั่งเรียนในระบบกันเลยล่ะค่ะ เอ๊ะยังไง ก็เพราะ GED นี่คือระบบการศึกษาด้วยตัวเองหรือ Home School ของอเมริกา และถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ กศน.อเมริกานั่นเองยังไงล่ะคะ ถามว่าใครที่สามารถเรียน ged ได้บ้าง? ต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปค่ะ จึงจะสามารถสมัครเข้าสอบวัดผลได้ ผู้ที่ไม่มีเวลาไปเรียนในระบบ หรือน้องๆ ที่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนพอกลับมาแล้วไม่อยากเรียนซ้ำชั้น ก็สามารถไปสอบวัดผล เอาวุฒิเพื่อไปใช้ประกอบการศึกษาต่อ ซึ่งใช้ได้ทั้งในประเทศตามมหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชนที่มีระบบการเรียนการสอนแบบอินเตอร์และมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ แต่จากการที่เราไม่ได้เรียนในระบบโดยตรงนี่แหละ ที่จะทำให้เราเสียเปรียบในเรื่องความรู้ที่อาจจะไม่แน่นพอ ดังนั้นการเรียน ged เพิ่มเติมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการสอบเราก็คงไม่ได้หวังแค่ให้สอบผ่านใช่ไหมล่ะคะ หากสอบผ่านแล้วได้คะแนนสูงๆ ด้วย นั่นยิ่งจะน่าภูมิใจกว่าเป็นไหนๆ จากการที่เราไม่ได้เรียนในระบบหรือเรียนแต่คิดว่าความรู้ที่เรามีอาจจะยังไม่แน่นพอ จึงอาจจะทำให้มีความกังวลใจกับการสอบอยู่บ้าง ข้อนั้นไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราสามารถเรียน ged[…]

เรียน ged ทั้งทีเรียนที่ไหนดีนะ

GED (General Education Development) เป็นระบบการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเรียน ged เป็นการเรียนเพื่อสอบเทียบเท่าในระดับมัธยมปลาย ที่เมื่อสอบผ่านได้ประกาศนียบัตรมาแล้ว ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อ ในระดับอุดมศึกษาต่อไปได้ ทั้งมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยภายในประเทศไทยที่เปิดสอนในหลักสูตรนานาชาติ ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐ และมหาวิทยาลัยเอกชน ผู้เรียน ged ต้องสอบทั้งหมด 5 วิชาคือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคม วิชาการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อทำคะแนนรวมให้ได้ไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน จากคะแนนเต็มทั้งหมด 4,000 คะแนน แต่ล่ะวิชาจึงมีคะแนนเต็มวิชาละ 800 คะแนน ซึ่งต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 410 คะแนนต่อวิชาด้วย จึงจะถือว่าสอบผ่าน แต่ถ้าหากสอบไม่ผ่าน ผู้เรียน ged สามารถเลือกสอบใหม่ในรายวิชาที่ยังสอบไม่ผ่าน หรือวิชาที่ตัวเองถนัดได้ โดยที่ไม่ต้องสอบใหม่ทั้งหมดทุกวิชา เนื่องจากการสอบจะใช้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษผู้เข้าสอบจึงต้องมีทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีพอสมควรด้วย การเรียน ged เพื่อสอบเทียบวุฒิผู้สอบต้องมีอายุตั้งแต่ 16 บริบูรณ์ปีขึ้นไป (ผู้เข้าสอบที่มีอายุ 16 ปีต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครองด้วย) จึงสามารถสมัครเข้าสอบเทียบได้ แต่หากจะไปสมัครสอบเลยก็เกรงว่าความรู้จะไม่แน่นพอ[…]

เรียน ged คือว่างไร มันดียังไง ทำไมถึงต้องเรียน

เชื่อว่าหลายคนคงพอจะรู้มาบ้างแล้วนะคะว่าเรียน ged คืออะไร แต่สำหรับหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้ เราขออธิบายคร่าวๆ ตรงนี้อีกครั้ง GED (General Education Development) คือระบบการเรียนในรูปแบบ กศน.ของสหรัฐอเมริกา หรือที่นิยมเรียกกันง่ายๆ ว่า Home School ค่ะ ซึ่งเป็นระบบการเรียนที่เหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางไปเรียนที่โรงเรียน หรือสำหรับคนที่ต้องการวุฒิการศึกษา เมื่อสอบผ่านแล้วก็จะได้วุฒิการศึกษาในระดับ High School นั่นเอง ซึ่งก็เทียบเท่าวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลาย (ม.6) ของเมืองไทย มีเด็กไทยจำนวนมากสนใจเรียน ged และไปสอบ เพื่อนำวุฒินี้ไปประกอบการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น แต่น้องๆ ที่สอบในเมืองไทย เมื่อสอบผ่านแล้วต้องนำวุฒิไปปรับเทียบเพื่อรับการรับรองวุฒิที่ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการก่อนนะคะ ถึงจะสามารถนำไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ การสอบ ged ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากจะว่ายากก็ไม่น่าจะยากเกินความสามารถของเราจริงหรือเปล่าคะ แล้วเราควรมีการเตรียมตัวก่อนสอบอย่างไร จึงจะมั่นใจได้ว่าเรามีความรู้ที่แน่นพอที่ทำข้อสอบได้ ดังนั้นหากเราคิดจะสอบก็ควรเริ่มมองหาที่เรียน ged เป็นอันดับแรกก่อนเลยค่ะ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้เวลาไปสอบจะได้มั่นใจ มีสถาบันที่รับสอนมากมายให้เราเลือก แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรคะ ว่าที่ไหนเป็นมืออาชีพในการสอนด้านนี้จริงๆ เพราะการเข้าสอบแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายก็แสนแพง น้องๆ ก็คงอยากจะสอบครั้งแรกแล้วผ่านกันเลยใช่ไหมคะ อับดับแรกเราควรมองหาสถานที่เรียนที่มีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับและเป็นมืออาชีพด้านนี้จริงๆ ก่อน[…]

เรียน ged กับสถาบันมืออาชีพ The planner education

น้องๆ คนไหนที่มีความฝันอยากจะเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาภาคอินเตอร์ทั้งในและต่างประเทศ ย่อมต้องศึกษาและทำความเข้าใจมาก่อนแล้วว่า น้องๆ จะต้องเตรียมตัวสอบอะไรบ้างเพื่อใช้เป็นใบเบิกทางประกอบการสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาให้ได้ดังหวัง ซึ่งก็มีน้องๆ จำนวนไม่น้อยที่ต้องการไปถึงฝั่งฝันให้เร็วกว่าปกติ เพราะบางคนอาจมีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อมจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยก่อนวัย Ged Certificate จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นทางลัดไปสู่รั้วมหาวิทยาลัยในภาคอินเตอร์ได้ เพราะถ้าน้องคนไหนสามารถสอบผ่าน Ged (General Education Development) ได้ ย่อมหมายถึงว่าน้องๆ สามารถย่นระเวลาในการเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาให้เร็วขึ้นได้ถึง 1-2 ปีเลยทีเดียว Ged เป็นหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อใช้สอบเทียบวุฒิในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (High school) ภายใต้มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา น้องที่สามารถสมัครสอบได้จะต้องมีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปและสามารถได้รับใบจบ หรือ Ged Certificate เมื่ออายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ นักเรียนที่ถือว่าสอบผ่านจะต้องได้คะแนนในแต่ละรายวิชาไม่น้อยกว่า 410 คะแนน โดยสอบทั้งหมด 5 วิชาและคะแนนรวมทั้ง 5 วิชาจะต้องไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน การจะสอบให้ผ่านด้วยตนเองจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก น้องๆ จึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยหรือผู้นำทางที่ดีในการพาน้องๆ ไปให้ถึงจุดหมาย ปัจจุบันจึงมีน้องๆ ที่ตั้งใจจะสอบ Ged Certificate นิยมมาเรียน ged[…]

ทำไมถึงต้องสอบและติวIGCSE

ปัจจุบันการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาล โรงเรียน หรือ ผู้ปกครองเองต่างก็ลงทุนเพื่อการศึกษาเพื่อตัวนักเรียน ด้วยหวังว่านักเรียนจะสามารถมีความพร้อมที่จะเข้ารับการศึกษาที่สูงขึ้นไป โดยเฉพาะการศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อใครหลายคน เนื่องจากการที่จะไปศึกษาในต่างประเทศนั้น นักเรียนจะต้องผ่านการทดสอบจึงจะสามารถเข้าศึกษาได้ซึ่งการสอบIGCSEเองก็เป็นหนึ่งในการทดสอบที่สามารถรับรองความสามารถของนักเรียนได้ หลายคนจึงสมัครติวIGCSEเพื่อให้ได้คะแนนที่สูง ทั้งนี้นักเรียนหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับการสอบIGCSEกันนะคะ ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับการสอบนี้กันดีกว่า International General Certificate of Secondary Education หรือIGCSEคือ การสอบเทียบวุฒิมัธยมปลายระบบอังกฤษ ในประเทศไทย อังกฤษ หรือ ประเทศต่างๆ ในโลก การติวIGCSEจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเหมาะสำหรับ ผู้ที่มีแผนจะไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ หรือที่อื่นๆที่ต้องการผลสอบIGCSEซึ่งการสอบIGCSEเป็นอีกหนึ่งประตูที่จะนำทางนักเรียนไปสู่ระดับอุดมศึกษา เพื่อให้ได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งภายในและนอกประเทศ รวมถึงช่วยในการสร้างโอกาสในอาชีพการงานอีกด้วย IGCSEไม่ได้จำกัดการทดสอบผู้เข้าสอบแค่สิ่งที่ตัวผู้สอบนั้นเรียนในปีๆหนึ่ง แต่มันเป็นการเปิดกว้างและขยายขอบเขตการเรียนรู้และความรู้ที่ผู้เข้าสอบได้เรียนมาผ่านความเข้าใจมากกว่าทักษะการท่องจำ รวมถึงการตอบปัญหาที่หลากหลายโดยใช้ทักษะในการวิเคราะห์ โดยปกตินั้นในการสอบIGCSE นักเรียนจะได้รับข้อสอบในวันและเวลาตรงกันทุกคนในทุกๆที่ ซึ่งการสอบจะมีระดับความยาก เนื่องจากมีการเน้นเนื้อหาแน่นในหลักสูตรระดับมัธยมปลาย การสอบเทียบม.ปลายของIGCSE นั้น จะสอบเมื่อนักเรียนมีอายุ 14-16 ปี โดยเลือกสอบประมาณ 5 ถึง 12 วิชา เช่น วิชาคณิตศาสตร์(Mathematics) วิชาชีววิทยา(Biology) วิชาเคมี(Chemistry) วิชาเศรษฐศาสตร์(Economics) วิชาภาษาอังกฤษ[…]

ติวIGCSE…เพื่ออะไรที่แตกต่างและดีขึ้นกว่าอย่างแน่นอน

       IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) เป็นระบบการสอบของประเทศอังกฤษ ที่สามารถเทียบวุฒิการศึกษาได้เท่ากับการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย(ม.6) ของไทยหรือเทียบเท่า ซึ่งได้รับการรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ และโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยหลายแห่งก็ใช้ระบบการศึกษา IGCSE ตามหลักสูตรของอังกฤษด้วย นอกจากเป็นการสอบเทียบการศึกษาในระดับมัธยมปลาย เพื่อเข้าศึกษาต่อในประเทศแล้ว ยังเป็นการเตรียมผู้เข้าสอบ เพื่อที่จะสอบในระดับ As A-Level Cambridge Pre-U และ IB (International Baccalaureate Diploma Program) ก่อนจะเข้าเรียนต่อในต่างประเทศหรือเข้าเรียนในประเทศอังกฤษเองด้วย การติวIGCSE เสริมจึงได้รับความสนใจจากผู้ที่จะเข้ารับการสอบเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ผู้เข้าสอบยังสามารถเลือกได้ว่าจะสอบกับสถาบันไหนได้อีกด้วย ซึ่งมี 2 สถาบันทดสอบให้เลือกทั้ง CIE(Cambridge International Examination) EDEXCEL หรือ AQA มีระดับเกรด A* ถึง U [A*,A,B,C,D,E,F,G และ U(Ungraded)] ผู้เข้าสอบต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 5 รายวิชา จากใน 5 กลุ่มวิชาหลักๆ[…]

ติวIGCSE ที่ไหนดี ให้ได้เกรดดีๆ เรียนIGCSE ที่ The Planner Education เห็นผลแน่

น้องๆ ที่อยากเข้าศึกษาต่อหลักสูตรระดับนานาชาติในมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ การติวIGCSE (International General Certificate for Secondary Education ) ให้ได้คะแนนดี ถือเป็นด่านแรกของความสำเร็จที่จะก้าวต่อไปในสถาบันการศึกษาระดับนานาชาติอย่างมั่นใจ หากอ่านหนังสือด้วยตัวเองแล้วไม่แน่ใจว่าจะได้เกรดดีพอไหม จะสอบผ่านไหม ลองมาติวIGCSE หลักสูตรเข้มข้นที่ The Planner Education กันดีกว่า หากน้องๆ ตั้งใจเรียนตั้งใจติวIGCSE รับรองว่าจะต้องสอบผ่านได้คะแนนดีแน่ๆ การสอบ IGCSE จัดทำขึ้นโดย Cambridge International Examinations (CIE) เพื่อวัดความสามารถของนักเรียนก่อนเข้าเรียนต่อหลักสูตรนานาชาติ และนักเรียนสามารถเลือกสอบวิชาที่เหมาะสมกับตนเองได้ การสอบ IGCSE ถือเป็นด่านแรกที่สำคัญ ดั้งนั้นการติวIGCSE จึงสำคัญเช่นกัน เพราะน้องๆ จะต้องสอบวิชาพื้นฐานที่จะใช้ในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย 5 กลุ่มวิชาให้ได้ ได้แก่ กลุ่มวิชาภาษา กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ โดยสามารถเลือกสอบทั้งแบบ Core และแบบ Extended ได้ในเกือบทุกวิชา การสอบแบบ Core จะเป็นแบบทดสอบที่วัดความสามารถของนักเรียนในเนื้อหาแบบกว้างๆ[…]

ติว IGCSE ช่วยได้

ในปัจจุบันนั้น การสอบ IGCSE นั้นเป็นที่นิยมมาขึ้นสำหรับผู้ที่อยากศึกษาต่อต่างประเทศในระดับการศึกษาที่สูงขึ้นไป เพื่อให้ได้มาซึ่งเกรดที่ดี การติวสอบอย่างหนึ่งที่ทุกคนคงเคยได้ยินนั้นคือการติวIGCSE เพราะการสอบIGCSE นั้นสำคัญ การติวIGCSE นั้นก็เปรียบเสมือนสะพานที่ทำให้หนทางของคุณง่ายขึ้น International General Certificate Of Secondary Educational หรือ IGCSE ถูกจัดทำขึ้นสำหรับนักเรียน ที่มีอายุระหว่าง 14 – 16 ปี ให้ได้รับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการศึกษาในระดับสูงขึ้นไป เช่นการนำผลสอบไปใช้ศึกษาต่อในหลักสูตร International Baccalaureate (IB) , AS, A Level หรือเพื่อศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา สำหรับประเทศไทยการสอบผ่านหลักสูตรIGCSE และ GCE O Level ผู้สอบสามารถนำผลที่สอบได้ใน 5 รายวิชาที่ได้ไม่ต่ำกว่าเกรด C ไปขอเทียบวุฒิการศึกษาและนำเอกสารการเทียบวุฒิยื่นสมัครศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยได้ การสอบIGCSE นั้นมีผลต่อนักเรียนอย่างมากในการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น การได้เกรด C ในวิชาภาษาอังกฤษก็อาจเพียงพอแล้วที่มหาวิทยาลัย(ที่ใช้ภาษาแม่เป็นภาษาอังกฤษ)ต้องการในการรับเข้าศึกษาต่อ เพราะฉะนั้นการได้คะแนนIGCSE ที่สูงนั้นเป็นความฝันของหลายๆคน ซึ่งหลายๆคนก็พยายามเป็นอย่างมากในการหาที่ติวIGCSE ตามสถาบันต่างๆ[…]

คิดจะเรียน GED เรียนกับ The planner Education สิคะ

GED หรือ General Educational Development คือ การสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลาย ในระบบหลักสูตรการเรียนการสอนของสหรัฐอเมริกา ของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้สมัครสอบจะต้องอยู่ในช่วงอายุ 16-17 ปีเท่านั้น และต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ข้อสอบ GED ประกอบด้วย 5 วิชา คือ Mathematics, Science , Social Studies Language Art: Reading และ Language Arts: Writing ข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นปรนัยหรือ Multiple choices ค่ะ แต่มีข้อสอบเขียนอยู่บ้างในหมวดการเขียนเรียงความและการตอบคำถามสั้นๆ โดยผู้สอบจะต้องทำคะแนนขั้นต่ำของแต่ละวิชาให้ได้ 410 คะแนน จากคะแนนเต็ม 800 คะแนน และผู้สอบต้องได้คะแนนรวมทั้ง 5 วิชาไม่ต่ำกว่า 2,250 คะแนน เมื่อคะแนนผ่านเกณฑ์ครบทั้ง 5 วิชาแล้ว ผู้สอบจะได้รับวุฒิการศึกษาที่รับรองจากกระทรวงศึกษาธิการค่ะ สำหรับผู้ที่สอบ GED ไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด หรือผู้ที่ต้องการลงสอบใหม่[…]

อยากเรียนต่อระดับนานาชาติ ต้องติวIGCSE

น้องๆ ที่เรียนระดับมัธยมที่ต้องการเรียนต่อระดับนานาชาติ คงรู้จักหลักสูตร IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) เป็นอย่างดี IGCSE เป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ มีนักเรียนกว่า 100 ประเทศทั่วโลกเรียนหลักสูตร IGCSE สูงถึงกว่า 3 แสนคนต่อปี หลักสูตรนี้เหมาะกับใคร? หลักสูตร IGCSE เป็นหลักสูตรพื้นฐานใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำคัญสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับนานาชาติทั้งมหาวิทยาลัยในประเทศและมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ดังนั้นทางที่ดีน้องๆ ควรหาสถาบันติวIGCSE เพื่อสอบผ่านให้ได้ การติวIGCSE มีรายวิชาให้เลือกติว 5 กลุ่มวิชาด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มวิชาภาษา (Language) กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science) กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science) กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics) กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational) ตอนเลือกสอบจะสามารถเลือกสอบวัดความรู้ในเนื้อหาวิชาแบบ Core หรือที่เรียกว่าวิชาพื้นฐาน หรือจะเลือกสอบแบบ Extended หรือวิชาขั้นสูงก็ได้ ทั้งนี้สามารถเลือกสอบให้สอดคล้องกับความรู้ของตัวเอง[…]

The Planner Education มือหนึ่งด้านการติวIGCSE

The Planner Education สถาบันที่มีชื่อเป็นเลิศด้านการเตรียมความพร้อมน้อง ๆ เข้าสู่หลักสูตรนานาชาติ ถ้าจะพูดถึงหลักสูตรติวIGCSE น้อง ๆ คนไหนที่มีความสนใจจะไปศึกษาต่อต่างประเทศหรือศึกษาต่อหลักสูตรนานาชาติในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศก็คงจะพอคุ้นหูและเห็นสถาบันติวIGCSE ตามที่ต่าง ๆ กันมาบ้างแล้ว วันนี้ The Planner Education ได้รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต้องทราบเกี่ยวกับการสอบIGCSE มาไว้ให้แล้ว เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องชัดเจนอันจะนำไปประกอบกับการตัดสินใจเลือกสถาบันติวIGCSE ที่เหมาะสมและดีที่สุดแก่น้อง ๆ ค่ะ IGCSE คืออะไร ง่ายๆ เลยนะคะ IGCSE เป็นการสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายภายใต้ระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 14-16 ปี ผู้ที่สอบผ่านคือผู้ที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่า C ใน 5 รายวิชาขึ้นไปจึงจะสามารถนำผลสอบไปเทียบวุฒิระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อใช้สมัครเรียนระดับมหาวิทยาลัยในประเทศ หรือใช้สมัครเรียนต่อระดับ A Levels หรือ IB ในต่างประเทศได้ IGCSE มีกี่ระดับ สำหรับข้อสอบ IGCSE จะมีให้เลือก 2 ระดับ คือระดับพื้นฐาน (Core) ผลสอบที่ได้ในระดับนี้คือเกรด C,D,E,F,G อีกระดับคือขั้นสูง[…]

คำถามยอดฮิตที่นักเรียนSATอยากรู้

สำหรับน้องๆ นักเรียนที่เพิ่งจะจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นหรือนักเรียนที่กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีเป้าหมายชัดเจนที่จะสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย คงจะรู้จักการสอบ SAT ดีอยู่แล้วหรือสนใจเรียนติว SAT กันบ้างแล้ว สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่า SAT คืออะไรก็มาทำความรู้จักกันเลย SAT คืออะไร ตอบ การสอบ SAT เป็นการสอบวัดความรู้ความสามารถของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สำหรับการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ในระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา ใครควรเรียน SAT หรือ สอบ SAT ตอบ เหมาะสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาทั้งแบบภาคปกติและแบบสอบเทียบที่ต้องการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับนักเรียนส่วนใหญ่จะทดสอบประมาณ 1-2 ครั้งในช่วงมัธยมปลาย เพื่อให้คุ้นเคยการการทำข้อสอบSAT SAT สอบอะไรบ้าง ตอบ ข้อสอบ SAT มี 2 ประเภทคือ SAT Reasoning Test และ SAT Subject Test SAT Reasoning Test คือข้อสอบที่ใช้วัดทักษะนักเรียนที่จบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายควรมี ประกอบไปด้วยข้อสอบ 3 ส่วน มีคะแนนเต็ม 2400[…]

ติว SAT เอง VS. เรียน SAT กับติวเตอร์ อย่างไหนดีกว่ากัน

มหาวิทยาลัยในต่างประเทศและมหาวิทยาลัยในไทยที่เป็นหลักสูตรอินเตอร์เนชั่นแนลส่วนใหญ่ต้องการผลการสอบ SAT นักเรียนที่อยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และปีที่ 5 และนักเรียนสอบเทียบ GED หรือ IGCSE จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวสอบ SAT เพื่อยื่นเป็นเอกสารประกอบการสมัครเข้าเรียน การเตรียมตัวสอบSAT สามารถอ่านหนังสือและฝึกทำข้อสอบเก่าด้วยตนเอง หรือจะไปเรียนSAT กับติวเตอร์ก็ได้ ซึ่งมีอยู่หลายสถาบันที่เปิดรับติวSATนี้ ไม่ว่าจะเรียนเองหรือเรียนกับติวเตอร์ต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ข้อดีของการอ่านหนังสือด้วยตัวเอง ประหยัด ไม่ต้องเดินทาง ซึ่งคุณอาจจะใช้เวลาที่ต้องเสียในการเดินทางไปฝึกทำข้อสอบได้ไม่น้อยเลยทีเดียว มีเวลาอ่านหนังสือได้ตลอดเวลา ข้อเสียของการอ่านหนังสือด้วยตัวเอง อาจจะพลาดเทคนิคในการทำโจทย์ที่ติวเตอร์หรือครูได้มีการรวบรวมมาสอนให้กับเด็กที่มานั่งเรียนSATที่สถาบัน และอาจจะไม่สามารถบังคับตนเองให้อ่านหนังสือได้ตามตารางที่กำหนดไว้ ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่บ้านอาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อการอ่านหนังสือ ข้อดีของการติว SAT กับติวเตอร์ การติวSAT ช่วยแบ่งเบาภาระในการเตรียมตัวสอบ นอกจากนี้ยังสร้างความมั่นใจในการสอบ เพราะติวเตอร์มักจะรวบรวมเทคนิคต่างๆ ในการทำข้อสอบโดยยึดแนวข้อสอบของปีที่ผ่านๆ มาให้นักเรียนฝึกทำ ทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับโจทย์และรู้แนวข้อสอบที่จะออกในครั้งต่อไป การเรียน SAT กับสถาบัน ติวเตอร์จะช่วยวางแผนตั้งแต่การเรียนจนสอบเสร็จและยื่นคะแนน ส่วนใหญ่ติวเตอร์จะช่วยเหลือนักเรียนตั้งแต่การสมัครไปจนจบกระบวนการเพื่อลดภาระให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง ช่วยทบทวนวิชาที่เรียนมาตลอดทั้งปีเพราะในการเรียนกวดวิชานั้น นอกจากนี้ยังได้เรียนบทเรียนใหม่ๆ ล่วงหน้าก่อนที่โรงเรียนจะสอน ทำให้เมื่อเวลาไปเรียนที่โรงเรียนจะได้เปรียบกว่าคนที่ไม่ได้เรียนล่วงหน้า ติวเตอร์ส่วนใหญ่จะมีความเป็นกันเองกับนักเรียน การเรียนSATไม่เคร่งเครียดเหมือนในห้องเรียนที่โรงเรียน ทำให้กล้าคุยกล้าซักถามปัญหาการเรียนได้ตลอด ซึ่งมีส่วนช่วยให้เด็กมีความเข้าใจเนื้อหามากขึ้น ติวเตอร์เชี่ยวชาญโจทย์ของSAT เพราะการสอนที่เน้นในเรื่องๆ เดียวทำให้สามารถเจาะลึกในประเด็นปัญหาต่างๆ ได้ดีกว่าเรียนที่โรงเรียนหรือฝึกด้วยตนเอง[…]

SAT คืออะไร มารู้จักการสอบ SAT กันดีกว่า

ในอดีตการเรียนหลักสูตรนานาชาติเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับนักเรียนไทย แต่สำหรับในช่วงไม่กี่ปีมานี้สถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติมีแทบทุกมหาวิทยาลัย และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเรียนนักศึกษารวมถึงผู้ปกครอง การที่จะเข้าเรียนได้นั้นนักเรียนต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับดี มีผลการสอบวัดความรู้ความสามารถจากหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล การสอบ SAT ก็เป็นหนึ่งในการวัดผลที่ได้รับการยอมรับในระดับต้นๆ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทยและต่างประเทศ การสอบ SAT คืออะไร การสอบ SAT เป็นการสอบวัดความรู้ความสามารถของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สำหรับการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ในระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้SATย่อมาจาก Scholastic Aptitude Test หรือ Scholastic Assessment Test จัดโดยหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาชื่อ College Board ข้อสอบนี้จัดสอบครั้งแรกในปี ค.ศ.1926 ในขณะนั้นดำเนินการโดย Educational Testing Service แต่ในปัจจุบันหน่วยงานนี้มีหน้าที่ในการจัดสอบเท่านั้น จากนั้นก็มีการพัฒนาข้อสอบและเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง จนกระทั่งในปัจจุบันก็คือ การสอบ SAT ถูกเรียกว่า SAT Reasoning Test หรือ SAT Subject Test ข้อสอบ SAT เป็นข้อสอบที่ได้รับมาตรฐานสากลได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยจึงนิยมคัดเลือกนักเรียนโดยพิจารณาจากผลสอบ SAT ซึ่งนักเรียนสามารถใช้ยื่นประกอบการสมัครเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ในต่างประเทศและในประเทศไทย[…]

เรียน SAT พร้อมสรุปเทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT

ปริญญาบัตรธรรมดาๆ อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตท่ามกลางการแข่งขันกันอย่างดุเดือดในยุคสมัยนี้ ทำให้นักเรียนนักศึกษาในปัจจุบันต้องขยันเพิ่มขึ้นให้มาก การได้เรียนในหลักสูตรนานาชาติก็เป็นโพรไฟล์ชั้นดีสำหรับตัวนักเรียนเองนอกจากนี้ยังนำมาซึ่งความภูมิใจของผู้ปกครองได้อีกด้วย การสอบ SAT เป็นใบเบิกทางสำคัญที่จะทำให้เข้าเรียนในหลักสูตรนานาชาติ เราจึงรวบรวบเทคนิคดีๆ เพื่อพิชิตข้อสอบ SAT มาฝากกัน ดังต่อไปนี้ จัดตารางเวลาในการเรียนSAT หรืออ่านหนังสือและแบ่งเวลาสำหรับทำกิจกรรมอื่นๆให้ดี และทำตามตารางที่จัดไว้ ประเมินตัวเองมองหาจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองในวิชาต่างๆ เพื่อจะได้ให้เน้นหนักในวิชาที่อ่อนและเสริมในส่วนที่เราทำได้ดีอยู่แล้วให้เหมาะสมกับเวลาที่มี เรียน SATพร้อมๆไปกับการตะลุยข้อสอบ SAT เก่าให้มาก ทำให้เราคุ้นเคยกับข้อสอบและรู้แนวทางในการคำตอบ ซ้อมทำโจทย์แบบจับเวลา เพื่อฝึกความเคยชินกับการทำข้อสอบในสภาวะที่กดดัน เพราะในสนามสอบจริงเมื่อเรามีเวลาที่จำกัดเราอาจจะตื่นเต้นลนลาน ไม่มีสมาธิจนทำให้เสียเวลากว่าจะปรับตัวได้ เพราะฉะนั้นการฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาช่วยสร้างความเคยชินและลดความตื่นเต้นได้ ดูแลสุขภาพพักผ่อนให้เพียงพอและกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สมองเราจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ไม่ควรหักโหมจนร่างกายเจ็บป่วยเมื่อถึงวันสอบจริง เวลาเรียน SAT หรือช่วงกำลังฝึกฝนทำข้อสอบ SAT อ่านโจทย์ให้เข้าใจครบถ้วนในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าเจอโจทย์ยาวเกินไป ให้ข้ามไปทำข้ออื่นก่อนเมื่อเวลาเหลือค่อยกลับมา ในส่วน Critical Reading ให้กวาดสายตาหาเรื่องที่เราถนัดหรือคุ้นเคยก่อน แล้วค่อยกลับมาทำส่วนที่ไม่คุ้นเคยภายหลัง ข้อสอบตัวเลือกถ้าไม่เข้าใจโจทย์และไม่สามารถตัดchoiceได้เลย ไม่ควรเดาเพราะถ้าตอบผิดจะถูกหักคะแนน 0.25 คะแนนต่อ 1 ข้อ เวลาในการสอบSAT นั้นแบ่งเป็นชุดคำถามหลายๆชุด การจัดสรรเวลาในการสอบที่ดีจะทำให้เราใช้เวลาได้คุ้มค่ามากที่สุด ในข้อสอบส่วนการเขียน Essay ไม่ควรใช้ศัพท์ยากเกินไป ถ้าเราไม่มั่นใจในคำนั้นจริงเพราะแทนที่จะช่วยให้ได้คะแนนอาจจะเป็นตัวฉุดคะแนนก็เป็นได้ ข้อสอบคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่เนื้อหาจะอยู่ในตอนม.ปลาย[…]

เรียน SAT ด้วยสุดยอดวิธีจำคำศัพท์แบบขั้นเทพ

การเรียน SAT หรือแม้แต่การสอบ SAT หรือสอบวัดระดับภาษาอังกฤษต่างๆ แน่นอนว่าข้อสอบทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นหัวใจสำคัญของการพิชิตข้อสอบอย่างSATนั้น จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แน่ถ้าไม่ใช่ คำศัพท์ เพราะถ้าไม่รู้คำศัพท์ก็ย่อมไม่เข้าใจความหมายของเนื้อหาข้อสอบ วิธีการจดจำคำศัพท์มากมายในเวลารวดเร็วนั้นสามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องเหนือความสามารถของผู้ที่มีความพยายามและมีความตั้งใจจริง เทคนิคการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ มีดังต่อไปนี้ Flash Card ท่องจำคำศัพท์ใหม่ๆ โดยใช้บัตรคำหรือ Flash Card เล็กๆ อาจจะร้อยเข้าในห่วงให้สามารถพกติดตัวไปในที่ต่างๆ ได้ เมื่อมีเวลาว่างหรือจำเป็นต้องรออะไรบางอย่างก็สามารถหยิบขึ้นมาท่องได้ตลอดเวลา Mind Map ผู้เชี่ยวชาญได้พยายามคิดค้นวิธีการที่จะทำให้คนมีความทรงจำที่ดีขึ้น สิ่งที่พวกเขาค้นพบก็คือ Mind Map นี่เอง ซึ่งมันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยให้มนุษย์จดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่าการท่องจำหลายเท่า โดยเขียนเป็นรูปภาพขึ้นมา เลือกคำศัพท์ที่มีความเชื่อมโยงกันเป็นกลุ่มเดียวกันจะช่วยให้จำได้ง่ายขึ้น ใช้คำศัพท์นั้นบ่อยๆ โดยอาจจะใช้การอ่านหนังสือหรือวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์ที่จำเป็นต้องท่อง เพื่อที่จะได้เห็นมันบ่อยๆ เมื่อจำไม่ได้ก็เปิดดู หรือใช้คำศัพท์นั้นในชีวิตประจำวัน การท่องศัพท์ครั้งแรกสมองจะจดจำในความทรงจำระยะสั้น(short memory) เมื่อเราใช้มันสมองจะจำในสมองส่วนลึกเพราะสมองจะคิดว่าข้อมูลนั้นสำคัญ หลักการก็คือ สมองจะจดจำสิ่งที่คิดว่าสำคัญเท่านั้น เพราะฉะนั้นจงใช้ ใช้ และใช้ แชร์คำศัพท์ คือการบอกต่อหรือช่วยสอนคนอื่น นักเรียนที่เก่งส่วนมากเป็นนักเรียนที่สอนคนอื่น ยิ่งสอนคนอื่นตัวเองยิ่งจำได้เพราะสมองจะยิ่งจดจำสิ่งเหล่านั้นมากขึ้นๆ เพราะสมองจะจดจำสิ่งที่มันคิดว่ามันสำคัญ เมื่อเราใช้บ่อยแชร์บ่อยแบ่งปันบ่อยสมองก็จะเข้าใจว่าสิ่งนี้สำคัญ การเรียน[…]

เรียน GED เรียน IELTS Writing: เขียน Essay อย่างไรให้ได้คะแนนเยอะ

การเขียนเรียงความเป็นงานที่หลายคนไม่ชอบ เรียงความภาษาไทยก็นับว่ายากแล้วเรียงความภาษาอังกฤษความยากยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ การเรียนGED หรือ IELTS เป็นการเตรียมตัวสอบวัดความสามารถที่ยอมรับกันในระดับสากลในปัจจุบันนี้ เช่นการสอบ GED หรือการสอบ IELTS จะมีโจทย์ให้เขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษหรือที่เรียกว่า Essay สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวสอบและกังวลกับการเขียนเรียงความนี้ เรามีคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเพื่อทำข้อสอบในส่วนเขียนอย่างไรให้ได้คะแนนเยอะ ดังต่อไปนี้ อ่านให้มาก ควรเลือกอ่านบทความที่ดีมีคุณภาพในหนังสือพิมพ์ นิตยสารและเว็บไซต์ต่างๆ จะทำให้เราได้เห็นตัวอย่างที่ดี การเรียบเรียงความคิด คำศัพท์ใหม่ๆ รูปแบบการเขียน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ถ้าเราได้อ่านอย่างมากพอจะทำให้เราซึมซับได้อย่างอัตโนมัติโดยที่อาจจะไม่ต้องท่องจำไวยากรณ์อย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งอ่านมากคลังคำก็มากตามทำให้การเขียนของเราดีขึ้นตามไปด้วย อ่านโจทย์ให้เข้าใจ ว่าโจทย์ต้องการให้เราเขียนเกี่ยวกับอะไร ถึงแม้ว่านักเรียนจะเขียนได้ไพเราะถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ทุกอย่าง แต่เขียนตอบไม่ตรงคำถามก็คงไม่ได้คะแนนดีเท่าที่ควร เขียนให้ถูกวิธี บทความนั้นจะแบ่งได้เป็น 3ส่วนหลักๆ คือIntroduction, BodyและConclusionโดยแต่ละส่วนจะมีลักษณะดังนี้ Introductionหรือ บทนำจะเป็น Paragraph แรกของ Essay ส่วนนี้มีความสำคัญมากต้องเขียนดึงดูดใด้ผู้อ่านสนใจที่จะอ่านต่อไปในส่วนเนื้อหาให้ได้ Body เป็นส่วนใจความสำคัญ เป็นส่วนที่ยาวที่สุดที่จะบอกเล่าเนื้อหาต่างๆ ผู้เขียนควรวางโครงเรื่องให้ดี ให้มีความสอดคล้องกันตลอดเรื่อง ครบทุกประเด็นที่โจทย์ต้องการ Conclusionคือ บทสรุปของเนื้อหาทั้งหมดซึ่งจะขมวดใจความสำคัญของเรื่อง ตรงประเด็น ไม่ขัดแย้งกับเนื้อหาที่เขียน *อย่างไรก็ตาม เราจะต้องพิจารณาว่าหัวข้อที่เราได้มานั้นควรจะถูกเขียนเป็น 4 หรือ 5[…]

ติวIGCSE ไม่ยากอย่างที่คิด

ปัจจุบันทางเลือกด้านการศึกษาต่อของเด็กและเยาวชนไทยมีความหลากหลายและเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้น้อง ๆ สามารถพัฒนาศักยภาพของตนให้ก้าวสู่ระดับโลก (worldwide) ได้ การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นและมีความเป็นสากลมีหลากหลายแนวทางขึ้นอยู่กับเป้าหมายหรือความฝันของน้องๆ แต่ละคน แต่วันนี้เราจะมาแนะนำให้ รู้จักกับระบบการสอบแบบหนึ่งที่ทั่วโลกให้การยอมรับและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน IGCSE คือระบบการสอบเพื่อเทียบวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 14-16 ปี IGCSE ย่อมาจาก International General Certificate of Secondary Educational ในที่นี้จะเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า การสอบเทียบวุฒิม. ปลายโดยใช้มาตรฐานของระบบการศึกษาจากประเทศอังกฤษเป็นเกณฑ์วัดเพื่อใช้สำหรับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ผู้ที่ผ่านการสอบจากระบบ IGCSE สามารถนำผลไปยื่นศึกษาต่อในหลักสูตรเตรียมความพร้อมสู่ IB Diploma หรือ A-Level ในหรือต่างประเทศได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยอาจมีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขเฉพาะ ดังนั้นน้อง ๆ จึงควรศึกษารายละเอียดของแต่ละสาขาวิชาให้ชัดเจน นอกจากการใช้ยื่นศึกษาต่อในต่างประเทศ น้อง ๆ ยังสามารถนำไปใช้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทยได้ อาทิเช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น เพราะ IGCSE ได้รับการยอมรับจากกระทรวงศึกษาธิการในประเทศไทยแล้ว สำหรับการสอบ IGCSE มีให้เลือกอยู่[…]

ติวIGCSE Combined Science กันดีกว่า

การติวIGCSE Combined Science เป็นการเรียนการสอนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แบบองค์รวมครับ มันคือวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ 3 แขนง คือ ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา ซึ่งในการติวIGCSE Combined Science นั้นจะได้มุ่งเน้นให้เข้าใจหลักการพื้นฐานของวิทยาศาสตร์เหล่านี้ เพื่อให้น้องๆจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในสาขาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ต่อไปในอนาคตหากมีความสนใจในด้านนี้ ก่อนจะตัดสินใจติวIGCSE Combined Science นั้น เราต้องเข้าใจคำว่าวิทยาศาสตร์กันก่อนครับ คำว่าวิทยาศาสตร์หมายถึง วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติรอบๆตัว ทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต…แต่ไม่ใช่ว่าน้องๆที่ไม่เก่งวิทยาศาสตร์เนี่ยจะเป็นคนที่อยู่นอกเหนือกฎธรรมชาตินะครับ…จริงๆแล้วก็แค่ไม่เข้าใจพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ในแต่ละเรื่องมากกว่า การติวIGCSE Combined Science ก็จะช่วยในเรื่องนี้ได้ครับ แรกเริ่มเดิมทีนะครับนักปรัชญาทั้งหลายถือเป็นที่สุดของผู้รู้นะครับ ส่วนมากจะสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาเกี่ยวกับหลักการดำเนินชีวิต หลักการบริหารดังนั้นในสมัยนั้นนักปราชญ์ถือเป็นสถานะขั้นสุดครับ แม้แต่กษัตริย์ยังต้องมาร่ำเรียนด้วยเลย…แต่เมื่อมีผู้รู้มากขึ้นเรื่อยๆ นักปรัชญาที่ต้องการสร้างความแตกต่างก็จะใช้วิธีการสังเกตุจากสิ่งต่างๆรอบๆตัว ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้า สิ่งแวดล้อม พืช สัตว์ ฯ จึงได้เกิดศาสตร์ที่เรียกว่า วิทยาศาสตร์ขึ้นมา แรกสุดก็เป็นดาราศาสตร์จนมาตอนหลังจึงได้แยกศาสตร์เหล่านั้นเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์คือ ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา ยังไงล่ะครับ โดยที่ดาราศาสตร์ก็เอาไปผนวกเข้ากับฟิสิกส์เพราะอธิบายเกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิตไงครับ…ซึ่งการติวIGCSE Combined Science จะชี้ให้เห็นจุดสังเกตุว่าในวิทยาศาสตร์แต่ละเรื่องนั้นมีอะไรที่เราควรสงสัยอยากรู้บ้าง และเพราะอะไรเราจึงอยากรู้มัน ยกตัวอย่างนะครับ เราเรียนเรื่องระบบการย่อยอาหารกันไปทำไม? สาเหตุก็คือมีคนสงสัยครับว่าทำไมอาหารที่เราทานเข้าไปเช่นผัก เนื้อ มันมีสีเขียว[…]

ติว IGCSE ที่ไหนดี Physics

IGCSE(International General Certificate of Secondary Education) เป็นหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการให้เทียบเท่ากับวุฒิ ม.6 และใช้ผลสอบสมัครเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยได้โดยต้องสอบผ่านใน 5 วิชาโดยเลือกจาก 5สาขาวิชาหลัก คือ กลุ่มสาขาคณิตศาสตร์ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาขาภาษา กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และกลุ่มสาขาทักษะวิชาชีพ ในการติวIGCSE นั้นน้องๆหลายคนคงมีคำถามว่า จะเลือกติวIGCSEที่ไหนดี เพราะในกรุงเทพ หรือประเทศไทยนั้นก็มีสถาบันติวIGCSE อยู่มากมาย วันนี้เราจึงขอแนะนำให้ติวIGCSE ที่ The Planner Education เพราะครูที่สอนล้วนผ่านการสอบIGCSEโดยตรงและมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า5ปี และมีสาขาวิชาต่างๆให้เลือกมากมายกว่า15วิชาเลยทีเดียว สำหรับนักเรียนที่ต้องการเข้าทำการศึกษาในสาขาแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ หรือสาขาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ วิชาที่มักพบว่ามีปัญหาค่อนข้างมากก็คือ ฟิสิกส์ ในการติวIGCSE นั้นเราก็มีคอร์สวิชาฟิสิกส์ให้ได้เรียนกัน น้องๆหลายคนที่ได้เรียนฟิสิกส์แล้วจะบ่นกันเป็นอย่างมากเลยว่า “ทำไม..ยากกกกอย่างนี้” “ทำไม…คำนวณยากจัง…” ปัญหาหลักในการเรียนวิชาฟิสิกส์นั้นหาใช่การคำนวณที่ยากไม่ แต่เป็นวิธีการวิเคราะห์เพื่อเริ่มทำโจทย์แบบฝึกหัดแต่ละข้อมากกว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบฝึกหัดในบทเดียวกันแต่วิธีการอาจจะไม่เหมือนกันในแต่ละข้อ ดังนั้นเมื่อติวIGCSE Physics แล้วน้องๆสามารถที่จะวิเคราะห์โจทย์แต่ละข้อได้ว่าควรมีวิธีการเริ่มต้นในการทำอย่างไร เพราะหัวใจของวิชาฟิสิกส์ไม่ได้อยู่ที่การคำนวณแต่อยู่ที่ความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีเงื่อนไขต่างๆมาให้ต่างหาก เมื่อติวIGCSEวิชาฟิสิกส์แล้วน้องๆจะมองเห็นได้ว่าในแต่ละข้อของโจทย์นั้นมีเงื่อนไขอะไรมาให้บ้าง หรือมีเงื่อนไขอะไรที่ซ่อนอยู่บ้าง ความกังวลต่อมาก็คือศัพท์ทางฟิสิกส์ซึ่งค่อนข้างเข้าใจยาก เป็นศัพท์เฉพาะ แต่หลังจากติวIGCSEในรายวิชานี้แล้วจะพบว่าศัพท์เทคนิคเหล่านั้นจริงๆแล้วมันเป็นแค่กลุ่มของคำศัพท์ที่ใช้ซ้ำๆกันเมื่อเราได้เห็นคำศัพท์พวกนี้บ่อยๆมันก็จะเกิดความคุ้นเคย จากเดาก็กลายเป็นเข้าใจ แล้วน้องๆจะพบว่าการติวIGCSEนั้นมันช่วยน้องๆได้มากมายทีเดียว[…]