เทคนิคสอบ SAT Literature คะแนนดี ฉบับคนไม่ใช่คอนิยาย

ปัจจุบัน กระแสการอ่านนิยาย เรื่องแต่ง รวมไปถึงนิทาน ตำนาน เรื่อยไปจนซีรีส์ ต่างก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในน้อง ๆ วัยเรียน แน่นอนว่า สำหรับน้อง ๆ ที่ชื่นชอบนิยาย และกำลังจะสอบ SAT เพื่อยื่นคะแนนเข้ามหาวิทยาลัยจะต้องใจฟูไปกับข้อสอบ Reading and Writing พาร์ท Literature แน่ ๆ  เพราะมีเรื่องราวให้น้อง ๆ ได้อ่าน และวิเคราะห์เนื้อหาสนุก ๆ มากมาย

แต่ถ้าหากน้อง ๆ ทีมติวสอบ SAT คนไหนไม่ใช่สายอ่านนิยายตัวตึง แบบนี้ก็แย่น่ะสิ พี่ The Planner สถาบันติวสอบ SAT บอกเลยว่าอย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะพี่ ๆ มีแนวทางลุย SAT Literature แบบฉบับคนไม่อินเลิฟนิยายมาฝากกัน อ่านจบบทความนี้ เตรียมไปสอบ SAT Reading and Writing พาร์ท Literature ได้เลย

Literature คืออะไร

Literature คือ วรรณกรรมหรือศิลปะทางการสื่อสารที่แต่งขึ้นจากความคิด ความสามารถ หรือจินตนาการของตัวผู้เขียน อาจจะเป็นในรูปแบบนิทาน นิยาย เรื่องสั้น บทร้อยแก้ว ร้อยกรอง หรือบทละคร เป็นต้น ก็ได้ทั้งสิ้น Literature ไม่เพียงแต่มอบความบันเทิงได้เพียงเท่านั้น ปัจจุบันยังถูกบรรจุอยู่ในหลากหลายบทเรียนและข้อสอบ เพื่อวัดทักษะการคิดวิเคราะห์เนื้อหาในตัวผู้เรียน

สำหรับข้อสอบ SAT หรือ Scholastic Aptitude Test ที่เป็นข้อสอบที่วัดทักษะภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ของนักเรียน ม.ปลาย เพื่อใช้คะแนนยื่นเข้ามหาวิทยาลัย ก็มีเนื้อหาในส่วนของ Literature บรรจุอยู่ในข้อสอบพาร์ท Reading and Writing อีกด้วย

ไม่เก่งอ่านนิยายก็มี SAT High Score ได้ ด้วยวิธีนี้

  1. เริ่มต้นจากการอ่านอะไรง่าย ๆ

การที่เราจะเข้าใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ สิ่งที่ควรทำคือการเริ่มที่จะคลุกคลีกับมันก่อน หากน้อง ๆ ที่ไม่ชอบอ่านเรื่องราวอะไรที่มีตัวหนังสือเยอะ ๆ เข้าใจยาก ๆ มีตัวละครคนโน้น คนนี้เต็มไปหมด พี่ The Planner แนะนำว่าให้เริ่มปรับเข้าหาโดยการอ่านหนังสือหรือดูละคร/แอนิเมชันที่ง่าย ๆ ก่อนดีกว่า เช่น หนังสือที่เป็นนิทานหรือเรื่องราวสำหรับเด็ก อ่านแล้วสามารถสรุปใจความได้ง่าย ๆ ถ้าหากมีภาพประกอบให้น้อง ๆ เห็นด้วยก็จะยิ่งทำให้เราสนใจกับสิ่งที่อ่านได้มากขึ้น แนะนำว่าควรเป็นเรื่องราวฮิต ๆ ผู้เขียนมีชื่อเสียง หรือเป็นเรื่องที่เราเคยรู้จักมาก่อน ก็จะทำให้เริ่มต้นกับ Literature ได้ไม่ยาก

  1. เพิ่มคลังศัพท์ในหัวให้มากขึ้น

ใครบอกว่าการท่องศัพท์ไปสอบ SAT ไม่สำคัญ จริง ๆ แล้วสำคัญมาก ๆ เลยนะคะ ยิ่งสำหรับน้อง ๆ ที่ไม่ถนัดสาย Literature อยู่แล้วด้วยยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะการที่เรามีคลังคำศัพท์ในหัวเยอะ เมื่อไปเจอข้อสอบจริง ที่งานเขียนหรือบทความค่อนข้างซับซ้อนและมีคำศัพท์เฉพาะค่อนข้างเยอะ น้อง ๆ ก็จะสามารถจับประเด็นสำคัญ หรือเดาเนื้อหา Main Idea จาก Keyword หรือคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องเหล่านั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในกับการอ่านเนื้อหาบทความแบบทุกบรรทัด เพราะอาจจะทำให้น้อง ๆ ตอบคำถามได้ไม่ทันเวลาอีกด้วย 

  1. รู้จักองค์ประกอบของเรื่อง

ปกติเรื่องเล่าหรือเรื่องราวอะไรก็ตาม เนื้อหามักจะมีองค์ประกอบของเรื่องที่คล้ายกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่น้อง ๆ ควรทำความเข้าใจเอาไว้ เพื่อให้เวลาอ่านบทความในข้อสอบ น้อง ๆ สามารถจับประเด็นในส่วนต่าง ๆ ได้ และหาคำตอบหรือสิ่งที่โจทย์ต้องการได้รวดเร็วมากขึ้น ดังนี้

  • โครงเรื่อง (Plot) คือ เหตุการณ์ที่จัดเรียงลำดับและเป็นเหตุเป็นผลกัน รวมไปถึงปมต่าง ๆ และเป็นผลให้เกิดเหตุการณ์อื่น ๆ ตามมา
  • แก่นเรื่อง (Theme) คือ ทัศนะ หรือสิ่งที่ผู้เขียน (Author, Narrator) ต้องการจะบอกต่อโลก ซึ่งจะยึดเรื่องทั้งหมดเอาไว้
  • ตัวละคร และการสร้างตัวละคร (Character and Characterization) คือ ผู้ทำให้คอยดำเนินเรื่องหรือทำให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเรื่อง
  • บทสนทนา (Dialogue) คือ การพูดคุยหรือการโต้ตอบกันของตัวละคร
  • ฉาก (Setting) คือ ช่วงเวลา สถานที่ และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ช่วยบอกให้ผู้อ่านรู้ว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ไหน และอย่างไร
  • มุมมอง หรือความคิดเห็นผู้แต่ง (Point of View) คือ มุมมอง หรือความคิดเห็นของผู้แต่งที่มีต่อเรื่องราว 
  1. ติวสอบอย่างมีกระบวนการ

เนื้อหา Literature ไม่ใช่แค่การอ่านเรื่องราวแล้วไปหาคำตอบในตัวเลือกที่โจทย์กำหนดให้ แต่เป็นการวิเคราะห์ตัวเนื้อหาที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น ดังนั้นเมื่อเตรียมสอบ น้อง ๆ ที่ไม่ถนัดวิเคราะห์เนื้อหา จึงควรที่จะใส่ใจกับการฝึกฝนข้อสอบเก่ามากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากการศึกษาตัวเนื้อหาทั้งหมด และที่สำคัญ น้อง ๆ ควรมีที่ปรึกษาหรือผู้ช่วยคอยแนะนำในการสอบและวิเคราะห์เรื่องราว เพื่อให้น้อง ๆ เข้าใจแนวทางของข้อสอบจริง โดยเฉพาะในพาร์ท Literature ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด

อ่านบทความ เปิดลายแทงเตรียมสอบ SAT ครบตั้งแต่ต้น จนจบ Test คลิกที่นี่

The Planner Education สถาบันติวสอบ SAT มีคอร์สติว SAT เสริมทักษะการสอบให้น้อง ๆ ในทุก ๆ เดือน น้อง ๆ สามารถเลือกเรียนได้ทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่และแบบกลุ่ม สอนสดโดยคุณครูประสบการณ์สอน SAT โดยตรงมากกว่าสามปี พร้อมรีวิวความประทับใจจากน้อง ๆ นักเรียนและผู้ปกครองมากมาย การันตีนักเรียนประสบความสำเร็จกับสถาบันแล้วมากกว่า 2,000 คน ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี กำลังมองหาที่ติวสอบ SAT ได้คะแนนสูง ต้องที่ The Planner Education เท่านั้นนะคะ

สนใจติว IELTS | IGCSE | GED | SAT/GSAT | ACT | A-LEVEL | IB | AP | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Line: @theplanner หรือ Phone: 095-726-2666

เพิ่มเพื่อน
Tags:

Leave a Reply