SAT English ‘Skim’ กับ ‘Scan’ เคล็ดลับมาร ตัวช่วยเรื่องการอ่าน

สำหรับใครที่กำลังจะสอบ SAT ทุกคนก็น่าจะเคยได้ยินเสียงร่ำลือถึงความยากของข้อสอบ Sat กันมาแล้วในส่วนของ  SAT Verbal ซึ่งในการสอบ SAT Verbal จะถูกแบ่งออกเป็น 2 Parts นั่นคือ Reading Part และ  Writing Part ทุกคนคิดว่าระหว่างการอ่านและการเขียน แบบไหนยากกว่ากัน?

            เชื่อว่าหลายคนน่าจะมองว่า SAT reading จะยากกว่ามาก เนื่องจากการอ่านเป็นทักษะเฉพาะที่ไม่มีกฎตายตัวให้จำ ทำให้ต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ค่อนข้างมากถึงจะสามารถอ่านบทความได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากนี้ตัวบทความของข้อสอบ SAT เองก็ค่อนข้างโหด เพราะมักจะออกเนื้อหาเฉพาะทางที่ยากและไม่ได้พบเห็นในชีวิตประจำวันบ่อยนัก เช่น วิทยาศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ ข้อสอบ SAT ก็จะมีการใช้คำศัพท์ที่ยากอีกด้วย และต้องอาศัยทักษะการตีความค่อนข้างมาก ถึงจะอ่านบทความได้เข้าใจ

            แต่ยังไม่หมดเท่านั้น ความยากอีกอย่างหนึ่งของข้อสอบ SAT คือ เรื่องของเวลา เพราะผู้เข้าสอบทุกคนจะมีเวลาทำข้อสอบแค่ 65 นาที ในการอ่านบทความที่ค่อนข้างยาวถึง 5 เรื่อง เพื่อตอบคำถาม 52 ข้อ ย้ำอีกครั้ง 65 นาที นั่นแปลว่าหากเราลองหารเวลาเฉลี่ยแล้ว เราจะมีเวลาในการอ่านบทความแต่ละเรื่องเท่ากับ 13 นาที / 1 บทความ

            ฟังอย่างนี้แล้วหลายคนถึงกับขนลุกหรือก็อาจเริ่มท้อใจแล้ว แต่อย่าเพิ่งหมดหวังไป วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการสอบ SAT reading ว่าเราจะทำอย่างไรให้สามารถทำโจทย์ได้ทันเวลา โดยเทคนิคเหล่านี้เรียกว่า Skim (อ่านคร่าว ๆ) และ Scan (หารายละเอียด) ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูวิธีนำเทคนิคสองอย่างนี้ไปใช้ในการอ่านข้อสอบ SAT กัน

            Skim คือ การอ่านคร่าว ๆ เพื่อหาภาพรวม (Overview) หรือใจความสำคัญ (Main Idea) ของบทความ วิธีจำก็คือ Skim เหมือน Skip คือการอ่านแบบกระโดดข้าม/ไม่อ่านรายละเอียด ในการเริ่มอ่านบทความในข้อสอบ SAT เราควรที่จะ Skim หา Main Idea จากย่อหน้าแรกและย่อหน้าสุดท้าย เพราะผู้เขียนมักระบุใจความสำคัญของเรื่องเอาไว้ในสองส่วนนี้

            – ย่อหน้าแรกมักทำหน้าที่เป็นบทนำ หรือ Introduction
            – ย่อหนาสุดท้ายทำหน้าที่เป็นบทสรุป หรือ Conclusion

เคล็ดลับที่อยากจะบอก
Main Idea มักซ่อนอยู่หลังคำเชื่อมประเภทเชื่อมความขัดแย้ง เช่น but, yet, however และ nevertheless หากทุกคนเจอคำต่อไปนี้ ก็แนะนำให้วงกลมเอาไว้และวิเคราะห์ข้อมูลหลังคำเชื่อมดีๆ อีกครั้งเพราะมันมักจะเป็น Main Idea

 ในทางตรงกันข้าม Scan คือ การหารายละเอียดของเนื้อหา ดังนั้น การ Scan คือ ตรวจทานอย่างละเอียดเพื่อหา Specific Detail เอาไว้ใช้ในการตอบคำถาม แต่ใจเย็นๆ ก่อน…หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการ Scan คือ การที่เราจะต้องอ่านทุกย่อหน้าและทุกบรรทัด ซึ่งนั่นเป็นวิธีการที่ผิด เพราะมันทำให้เราต้องเสียเวลาอ่านข้อมูลที่ไม่ได้นำไปใช้อะไร

            วิธีการ Scan ที่ถูกต้อง ทุกคนจะต้องไปหา Keyword จากคำถามก่อน ถึงจะนำ Keyword เหล่านี้กลับไป Scan หาคำตอบในบทความ โดยคำตอบที่ถูกต้องหรือข้อมูลที่เราต้องการมักปรากฏอยู่บริเวณใกล้ๆ Keyword นั่นเอง

            สังเกตได้ชัดเลยว่าทุกคนจะไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอ่านทุกประโยคหรือทุกย่อหน้าในบทความเลย เพราะจะทำข้อสอบไม่ทัน แต่สิ่งที่ทุกคนควรทำคือการ Skim และ Scan เพื่อจับประเด็นเฉพาะที่โจทย์ถาม

อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นกว่าที่เคย แต่ยังคิดอยู่ว่าจะติว SAT ที่ไหนดี?
คลิก! ดูข้อมูลคอร์สติว SAT 80 ชั่วโมง ? https://bit.ly/3g2Ov96

 สิ่งที่จะได้รับ เมื่อลงคอร์สเรียนกับ The Planner Education! 

✅ พาน้องๆ ตะลุยโจทย์จนชำนาญ
✅ อัปเดทเนื้อหาให้ครอบคลุม
✅ เสริมให้แข็งแกร่งทุกพาร์ท
✅ ประเมินผลรายบุคคลด้วย Mock Test

เพิ่มเพื่อน
Tags:

Leave a Reply