ส่อง 7 มหาวิทยาลัย ที่สามารถใช้คะแนน GED สมัครได้ กว่า 80 คณะ! ปังๆ!

หลังจากส่งน้องๆ ถึงเป้าหมายมาแล้วกว่า 1,000+ คน สำหรับคอร์ส GED ที่เราดูแลตั้งแต่เริ่มสมัครจนถึงวางแผนเข้ามหาวิทยาลัย น้องๆ หลายคนที่กำลังวางแผนสอบ GED หรือน้องๆ ที่กำลังสนใจ อาจมีข้อสงสัยว่าเราจะใช้คะแนนเข้าที่ไหนได้บ้าง? วันนี้จึงขอรวบรวมคณะที่สามารถใช้การเทียบวุฒิ GED สมัครเข้าเรียนได้ จาก 7 มหาวิทยาลัย ซึ่งนอกจากคณะและมหาวิทยาลัยเหล่านี้ยังมีอีกหลายมหาวิทยาลัยทั้งม.รัฐ และม.เอกชน ให้น้องๆ ลองศึกษาเพิ่มเติมถึง Requirement ต่างๆ เพื่อเริ่มวางแผนได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย   สมัครเรียนพร้อมช่วยวางแผนเข้ามหาวิทยาลัยที่ Line @theplanner  หรือคลิกเพื่อดูข้อมูลคอร์สและตารางเรียน https://bit.ly/30mWyFG #theplannereducation #คอร์สกวดวิชา #โรงเรียนกวดวิชา #สอบเทียบ #สอบเทียบชั้น #GED #เรียนGED #ติวGED   ดูคอร์สเรียนทั้งหมด ติดต่อสอบถามคอร์สการเรียน GED ได้ที่เบอร์ 02-253-2533 หรือ 095-726-2666หรือ LINE: @theplanner

Q&A เรื่อง GED Ready กับพี่ๆ The Planner Education

GED Ready คืออะไร? ทำไมต้องสอบ? น้องๆ ที่กำลังเรียน GED เตรียมสอบอาจจะเกิดความสงสัยเนื่องจากกฎใหม่จาก Official ที่บังคับให้ต้องสอบ GED Ready ก่อนสอบจริง วันนี้พี่ๆ The Planner Education รวบรวมคำถามที่น้องๆ สงสัยเกี่ยวกับ GED Ready มาตอบไว้ให้ในที่เดียวค่ะ 🙂 Q: GED Ready คืออะไรA:  GED Ready คือการฝึกทำข้อสอบ GED เสมือนจริงทั้ง 4 วิชา แนวข้อสอบใกล้เคียงของจริงมากที่สุด และมีคะแนนแจ้งเราด้วยว่าได้เท่าไหร่ เพื่อวัดความพร้อมของน้องๆ โดยผลการทดสอบ GED Ready จะเป็นตัวบ่งชี้ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ของน้องๆ ในการทดสอบ GED อย่างเป็นทางการได้แม่นยำมาก Q:กฏใหม่ของ GED ว่าด้วยเรื่องการสอบ GED ReadyA: ที่ผ่านมาไม่ได้มีกฎบังคับว่าผู้เข้าสอบ GED ทุกคนต้องผ่านการสอบ GED Ready ถึงจะสามารถเข้าสอบได้ แต่ล่าสุดได้มีกฏใหม่สำหรับน้องๆ[…]

SAT Passage-based Reading and Writing : Future Simple VS Future Perfect

            สวัสดีครับ วันนี้เรามาดูภาษาอังกฤษในบทเรียน SAT Passage-based Reading and Writing กันนะครับ หากเราต้องการที่จะบรรยายเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นหรือเล่าเหตุการณ์ในอนาคต เราสามารถใช้โครงสร้างประเภท Future Tense มาช่วยประกอบการบรรยายได้ แต่ทราบกันไหมครับว่าอันที่จริงอนาคตในภาษาอังกฤษมีวิธีเล่าทั้งหมดถึง 4 แบบด้วยกัน แต่วันนี้พี่จะมาสอนวิธีการใช้รวมทั้งเปรียบเทียบความแตกต่างของ Future Simple กับ Future Perfect ให้น้องฟัง เพราะข้อสอบและบทเรียน SAT พาร์ท English ชอบทดสอบว่าน้องสามารถแยกแยะและใช้งาน Tense คู่นี้ได้หรือเปล่า             ปกติแล้วเรามักจะใช้ Future Tense ในการบรรยายเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น เพียงแต่ผู้พูดวางแผนหรือคาดการณ์ว่าเหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งหัวใจสำคัญของ Tense นี้คือคำว่า “will” (จะ) และอย่าลืมนะหลัง will ต้องตามด้วย Infinitive Verb เสมอ ( Verb ไม่ผันและห้ามเติม -s/-es/-ed หรือ -ing ต่อท้ายเด็ดขาด!)[…]

SAT Chemistry : Energy change

วันนี้มาเรียน SAT Chemistry กับเรื่อง Energy Change กันครับ การเปลี่ยนแปลงทางเคมีเสมอ เกิดจากมุมมองอันประกอบไปด้วย ระบบ (System) คือ สิ่งที่เราให้ความสนใจ และ สิ่งแวดล้อม (Surroundings) คือ สิ่งที่อยู่นอกเหนือขอบเขตที่เราสนใจ ตัวอย่าง ในบทเรียน SAT Chemistry จะมีเรื่องการละลายของน้ำแข็ง (ระบบ คือ น้ำแข็ง และ สิ่งแวดล้อม คือ อากาศภายนอกหรือสิ่งอื่นที่ไม่ใช่น้ำแข็ง) ในวิชา SAT Chemistry เคมี ความรู้แขนงนี้ถูกต่อยอด ด้วยการนำหลักการทางความร้อนมาใช้พบว่า การเปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยส่วนมากแล้ว จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานตามมาเสมอ   เมื่อติว SAT Chemistry เราจะต้องเรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงพลังงาน ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ การคายพลังงาน (ภาพด้านซ้ายมือ) เกิดขึ้นเมื่อระบบปล่อยพลังงานออกมาสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้พลังงานภายในระบบลดลง ส่งผลให้พลังงานของระบบ ณ จุดสุดท้าย[…]

GED Social : Brown V. Board of Education

            ในเนื้อหาการเรียน GED Social Studies หลังจากสงครามกลางเมืองของอเมริกา (Civil War) จบลงทำให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 13 (Thirteenth Amendment) ซึ่งประกาศให้มีการเลิกทาสทั่วประเทศอเมริกา เหตุการณ์ความขัดแย้งนี้ดูเหมือนจะจบลงอย่างงดงาม ทว่าแม้ระบบทาสจะสิ้นสุดบุคคลที่เคยเป็นทาสมาก่อน (Former Slaves) ก็ยังต้องทนทุกข์ทรมานกับการถูกชาวอเมริกาผิวขาวกดขี่และปฏิบัติต่อแบบเหยียดสีผิว (Racism)              เราต้องรู้เรื่องราวนี้ในเนื้อหาเรียน GED Social Studies เพื่อทำคะแนนสอบด้วยนะครับ สังคมอเมริกาหลังจบสงครามกลางเมืองเต็มไปด้วยการแบ่งแยกเชื้อชาติระหว่างคนผิดขาวกับคนผิวดำ (Segregation) โดยที่คนผิดขาวมักจะมองว่าตนเหนือกว่าและมีสิทธิมากกว่า กฎหมายในสังคมตอนนั้นก็สนับสนุนให้เกิดการแบ่งแยกและกดขี่พร้อมทั้งลิดรอนสิทธิของอดีตทาส เช่น กฎหมาย Jim Crow ที่ระบุว่าคนขาวกับคนดำห้ามใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะร่วมกัน อาทิม้านั่งและน้ำดื่มสาธารณะ, คนผิดขาวและคนผิวดำห้ามแต่งงานกัน และห้ามเด็กผิวขาวกับเด็กผิวสีเรียนในโรงเรียนร่วมกัน             แต่การแบ่งแยกเชื้อชาติและการเหยียดสีผิวก็เริ่มลดลงเนื่องจากคำตัดสินของศาลฎีกาสูงสุดของอเมริกา (US Supreme Court) ในคดีครั้งสำคัญที่ชื่อว่า Brown V. Board of Education (คดีนี้ชอบออกข้อสอบ Social ฉะนั้นเรียน GED Social Studies ต้องมีเรื่องนี้นะครับ)[…]

GED Math : Order of operations

ติว GED Math วันนี้เราจะมาดูเรื่องการคำนวณทางคณิตศาสตร์เบื้องต้น ประกอบไปด้วย การบวก, การลบ, การคูณ และ การหาร เพียงแค่สี่การก็สามารถนำมาประกอบรวมกันกลายเป็นการคำนวณที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การคำนวณร้อยละ, การยกกำลัง และ การหาค่าเฉลี่ย แต่ก่อนที่จะมาคำนวณ เราจะต้องเข้าใจพื้นฐานของลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ (Order of operations) เสียก่อน เพราะเป็นเนื้อหาสำคัญในการคำนวณโจทย์คณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อน หากไม่เข้าใจลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ จะส่งผลกระทบต่อการคำนวณผิดพลาดอย่างรุนแรง แม้ว่าในข้อสอบ GED Mathematical Reasoning จะไม่ได้ออกเนื้อหานี้โดยตรง แต่ก็ถูกนำไปประยุกต์รวมกับเนื้อหากว่าครึ่งหนึ่งของข้อสอบทั้งหมด ดังนั้นเมื่อเราเรียน GED Math เรื่องนี้ เนื้อหาที่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการคำนวณทางคณิตศาสตร์ มีดังต่อไปนี้ พหุนาม (Polynomial) เลขยกกำลัง (Exponential) เศษส่วน, อัตราส่วน และ ร้อยละ (Fraction, Ratio and Percent) การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว (Linear Equation) การแก้ระบบสมการ (System of[…]

SAT Math : Conversion factor

ในการเรียน SAT Math เนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ ปัญหาที่ทำให้เด็กตอบคำถามผิด มาจากคำนวณหน่วยผิดซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่เด็กทุกคนเรียนกันมาตั้งแต่สมัยประถม เนื้อหานี้เป็นหนึ่งในเนื้อหาที่สำคัญมากที่สุด เพราะอยู่ในข้อสอบทุกประเภท โดยเฉพาะใน SAT Mathematics นอกจากนี้ยังออกในข้อสอบ SAT Chemistry และ SAT Physics อีกด้วย จะเห็นได้ว่าเนื้อหาบทนี้สำคัญมากเพียงใด ตัวอย่าง  มีลูกอม 20 เม็ด แบ่งให้เพื่อนไป 1 โหล จะเหลือลูกอมกี่เม็ด สังเกตว่าเราไม่สามารถคำนวณ “20 เม็ด – 1 โหล” ได้ เพราะการบวกลบหน่วยต้องตรงกันเสมอ การบวกลบ หน่วยต้องเหมือนกัน                                 เช่น 2 เมตร + 5 เมตร = 7 เมตร หรือ 12 นาที – 4 นาที =[…]

GED Science : Atom particles

ในการเรียน GED Science วิชาเคมี ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า ในธาตุจะประกอบไปด้วยหน่วยที่เล็กที่สุด เรียกว่า (Atom) ซึ่งในอะตอมก็ประกอบไปด้วยอนุภาคทั้งหมด 3 อย่างได้แก่ โปรตอน (Proton, p+) มีประจุเป็นบวกทางไฟฟ้า ธาตุเดียวกันจะต้องมีจำนวนโปรตอนเท่ากันเสมอ ดังนั้นโปรตอนจึงเป็นอนุภาคที่ใช้กำหนดเอกลักษณ์ของธาตุ นักวิทยาศาสตร์คนใดที่อยากคิดค้นธาตุใหม่จำเป็นต้องทำให้จำนวนโปรตอนในธาตุมีปริมาณที่ไม่ซ้ำกับธาตุดั้งเดิม ซึ่งพบว่าในปัจจุบันธาตุใหม่อาจต้องใส่โปรตอนเข้าไปในอะตอม ไม่ต่ำกว่า 120 ตัว ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในวงการวิทยาศาสตร์ นิวตรอน (Neutron, n0) มีสมบัติเป็นกลางทางไฟฟ้า 3. อิเล็กตรอน (Electron, e–) มีประจุเป็นลบทางไฟฟ้า ก่อนสอบเมื่อเราเรียน GED Science เราต้องรู้เรื่องนี้กันด้วยนะครับ ทั้งโปรตอนและนิวตรอนจะรวมตัวกันอยู่บริเวณตรงกลางอะตอม เรียกว่า นิวเคลียส (Nucleus) ซึ่งมีมวลมาก และทั้งสองอนุภาคมีมวลใกล้เคียงกัน โดยนิวตรอนและโปรตอนไม่เคลื่อนที่แต่จะสั่นเพราะมีแรงทางนิวเคลียร์ดึงดูดให้โปรตอนกับนิวตรอนอยู่ติดกัน ในขณะที่อิเล็กตรอนจะมีมวลน้อยกว่าโปรตอนและนิวตรอนกว่ามาก ในการติว GED Science ผู้เข้าสอบจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาจำนวนอนุภาคพื้นฐานเหล่านี้ให้ได้ โดยใช้เครื่องมือชนิดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า ตารางธาตุ (Periodic Table) เพราะตารางธาตุเป็นหัวใจสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้ม สมบัติทางกายภาพและสมบัติทางเคมีของธาตุได้[…]

GED RLA : Common Pronoun Errors

          เรียน GED RLA วันละนิด วันนี้เรามาดูว่าเวลาที่เราใช้คำสรรพนาม (Pronoun) แทนคำนามที่ถูกกล่าวถึงไปแล้วในประโยค นอกเหนือจากเราจะต้องคำนึงเรื่องการใช้รูปฟอร์มของสรรพนามให้สอดคล้องกับหน้าที่ เช่น การใช้รูปประธาน  (I, You, We, They) หรือรูปแสดงความเป็นเจ้าของ (his, its, their, my) ทุกคนควรจะระมัดประเด็นต่อไปนี้ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการใช้คำสรรพนามที่เราพบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน (Common Pronoun Errors) และในข้อสอบ GED RLA ด้วย 1 ต้องเปรียบเทียบ Pronoun กับสิ่งที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ – My hair is longer than yours. (My hair is longer than your hair) หากจะเปรียบเทียบความยาวของเส้นผม เราก็ต้องเปรียบเทียบกับความยาวเส้นผมของอีกคนหนึ่ง      ห้ามเปรียบเทียบของคนละประเภท เช่น My hair is longer[…]

SAT English – Confusing Words

            ติว SAT กัน วันละตอน วันนี้จะมาดูคำที่ต้องรู้ความแตกต่าง ในชีวิตนี้ทุกคนน่าจะเคยประสบปัญหาเวลาเจอคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีลักษณะคล้ายกัน (อย่างการออกเสียงคล้ายกันหรือการสะกดคำคล้ายกัน) มักจะทำให้เราสับสนและเผลอใช้คำศัพท์เหล่านั้นผิดบริบท เช่น two VS to VS to, than VS then และ advice VS advise             จะเห็นได้ชัดเลยว่าคำกลุ่มนี้มักสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้เสมอ พี่เจอบ่อยๆจากน้องๆที่เรียน SAT กัน คำกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า Confusing Words (ลักษณะคล้ายแต่มีความหมายและการใช้งานแตกต่าง) ข้อสอบ SAT เองก็มักจะทดสอบว่าพวกเรารู้คำศัพท์ รู้ความแตกต่างและการใช้งานคำศัพท์แต่ละคำมากเพียงพอที่จะไม่สับสนเวลาทำข้อสอบหรือเปล่า             วันนี้พี่ก็เลยจะมานำเสนอคำศัพท์ที่มีลักษณะคล้ายกันมากจนสร้างความสับสนให้กับน้องๆที่ติว SAT และผู้ใช้ภาษา เรื่องนี้มักจะออกข้อสอบ SAT กันครับ เราลองมาดูกันทีละคู่เลยดีกว่า Affect VS Effect             คำคู่แรกนี้เป็นคำคู่ที่ง่ายที่สุด แต่ก็ยังมีเด็กหลายคนที่ใช้งานผิดนะครับ สองคำนี้มีความหมายคล้ายกัน แปลว่า “(มี)ผลกระทบ” แตกต่างกันคือ affect =[…]

GED RLA – Cause and Effect

ติว GED RLA วันละนิดวันนี้ การอ่านบทความประเภท non-fiction นอกเหนือจากเราจะต้องจับใจความสำคัญ หรือ Main Idea ของเรื่องแล้ว สิ่งที่ทุกคนควรจะต้องทำต่อมาคือการทำความเข้าใจของโครงสร้างงานเขียนและตีความหาความสัมพันธ์ระหว่างความคิดในเรื่อง (Inferring Relationships between Ideas) บ่อยครั้งที่ผู้เขียนมักจะเชื่อมโยงความคิดในเรื่องโดยการใช้ความสัมพันธ์ประเภทสาเหตุและผลลัพธ์ ( Cause and Effect) ความสัมพันธ์ประเภทนี้หมายความว่า “ความคิด” (หรืออาจเป็นเหตุการณ์) หนึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิด”ความคิด” (หรือเหตุการณ์)อีกเรื่อง สามารถพูดอีกอย่างได้ว่า “ความคิดที่สอง”เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจาก “ความคิดแรก” เช่น Siri forgot to take medicine, so her symptom got worse. (ลืมกินยา = cause, อาการแย่ลง = effect) สังเกตว่า เวลาเราพยายามแยกแยะความสัมพันธ์ระหว่างสองประโยคเราสามารถใช้คำเชื่อม (transition) เพื่อช่วยระบุความสัมพันธ์ระหว่างความคิดได้ ** จำไว้ว่า คำเชื่อมกลุ่ม “because” จะตามหลังด้วยสาเหตุ[…]

GED Math – Basic concept of functions

วันนี้มาเรียน GED Mathematics กันซักนิด ฟังก์ชัน (Function) คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรในคู่อันดับใด ๆ ของความสัมพันธ์นั้น คู่อันดับของฟังก์ชันจะประกอบไปด้วย input variable (ตัวแปรขาเข้า) อันเป็นสมาชิกตัวแรกในคู่อันดับ และ output variable (ตัวแปรขาออก) อันเป็นสมาชิกตัวหลังในคู่อันดับ โดยมีเงื่อนไขว่า ในแต่ละ input จะต้องมี output เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น มิเช่นนั้นความสัมพันธ์จะไม่เป็นฟังก์ชัน   ตัวอย่าง คู่อันดับของ (เมือง, ประเทศ) โดยที่เมือง คือ input variable และประเทศ คือ output variable f = {(กรุงเทพ, ประเทศไทย), (ลอนดอน, ประเทศอังกฤษ)} f เป็นฟังก์ชันเพราะ แต่ละ input จะต้องมี output เพียงแค่ตัวเดียว g =[…]

GED Science – Chromosome

ติว GED Science วันละนิดวันนี้เรื่อง Chromosome ครับ เคยสงสัยไหมว่า ทำไมมนุษย์แต่ละคนถึงมีหน้าตาไม่เหมือนกันเลย แต่ทำไมฝาแฝดถึงมีหน้าตาเหมือนกันทุกประการ เพื่อไขข้อข้องใจ พี่จึงจะมาให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครโมโซม เพราะโครโมโซมนี่แหละที่เป็นองค์ประกอบในเซลล์ที่ทำให้หน้าตาของมนุษย์แต่ละคนแตกต่างกันออกไป โครโมโซม (Chromosome) เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่พบในนิวเคลียส (Nucleus) ของเซลล์ และเป็นที่อยู่ของ ยีน (Gene) ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม โครโมโซมประกอบไปด้วย 1. ดีเอ็นเอ (DNA, Deoxyribonucleic acid) และ             2. โปรตีนฮิสโตน (Histone protein) ซึ่งประกอบไปด้วยกรดอะมิโน (Amino acid) ตั้งแต่ 100-200 โมเลกุล ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน เพื่อปรับสมดุลสภาวะความเป็นกรด-เบส ให้เหมาะสมแก่เซลล์ ดังนั้นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดได้ จะเกี่ยวข้องกับโปรตีนเสมอ เช่น เส้นผมของมนุษย์ เกิดจากการรวมตัวของโปรตีนที่เรียกว่า เคราติน (Keratin) สามารถถ่ายทอดลักษณะของเส้นผม ได้ 2 ลักษณะ เช่น เส้นผมตรง(Straight hair)[…]

GED Social Studies – Bill of Rights

ล่าสุดนี้สหรัฐอเมริกามีอัตราผู้ติดเชื้อไวรัส COVID -19 ถึง 1,237,633 คนซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อมากที่สุดในโลกและยังมีแนวโน้มว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ (ข้อมูลประจำวันที่ 6/5/2020) แม้ว่าจะมีอัตราผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงขนาดนี้ ประชาชนชาวอเมริกาส่วนหนึ่งก็ยังออกมารวมตัวกันประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการปิดเมือง/ประเทศ (Lockdown) เนื่องจากปัญญาด้านเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยลงทำให้ประชาชนเริ่มเผชิญสภาวะอดอยาก อีกทั้งประชาชนกลุ่มนี้มองว่ามาตรการ Lockdown เป็นการละเมิดสิทธิ อิสรภาพและเสรีภาพของประชาชน (ชาวอเมริกาให้ความสำคัญสิทธิดังกล่าวมาก)  จนถึงขั้นให้เหตุผลว่ารัฐบาลกำลังนำเสนอและเผยแพร่ข้อมูลความรุนแรงของไวรัสโควิดเกินจริงและใช้ไวรัสโควิดเป็นเครื่องมือในการควบคุมและละเมิดสิทธิประชาชน ว่าแต่ทุกคนสงสัยไหมว่ากลุ่มผู้ประท้วงไม่กลัวหรอครับว่าการออกมาเดินขบวนนี้อาจทำให้เขาถูกจับเข้าคุก ?  (ปล. สำหรับคนที่สงสัยว่าพวกเขาไม่กลัวอันตรายของไวรัสบ้างหรอ ถ้าเขาออกมาเดินขบวนได้ขนาดนี้พี่ก็อยากบอกว่าคงไม่ต้องสงสัยแล้วว่าพวกเขากลัวไวรัสหรือเปล่า 555) กลับมาที่ประเด็นของเราดีกว่า ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการเรียนGED Social Studies อย่างไร สาเหตุที่ผู้ประท้วงออกมาเดินขบวนท้าทายมาตรการของรัฐและเจ้าหน้าที่ได้ขนาดนี้ เพราะพวกเขาได้รับการปกป้องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ (Constitution) อยู่ครับ ในเนื้อหาติว GED Social Studies ย้อนกลับไปในสมัยที่อเมริกาเพิ่งก่อตั้งประเทศสำเร็จหลังจากสามารถเอาชนะเจ้าอาณานิคมอย่างจักรวรรดิอังกฤษ ได้เกิดความพยายามรวมอำนาจเข้าสู่รัฐบาลกลางและเกิดงานประชุมหารือเพื่อร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญของสหรัฐขึ้น (The Constitutional Convention) ในงานประชุมนี้กลุ่มผู้ต่อต้านการรวมอำนาจของรัฐบาลกลาง (Anti-Federalist) ได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมเนื่องจากพวกเขาเล็งเห็นว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาในตอนแรกยังไม่ได้ระบุและปกป้องสิทธิของประชาชนเอาไว้ ซึ่งจากการการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวได้มีการเพิ่มเติมร่างกฎหมายสิทธิพลเมือง (Bill of Rights)เข้าไปในปี 1791 เพื่อรับประกันสิทธิของประชาชน โดยบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมนี้มีจำนวนทั้งหมด 10 มาตราซึ่งในการเรียน[…]

GED RLA : Causative Verb

            สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาติว GED RLA กันหน่อยนะครับ น้อง ๆ เคยขอเงินคุณพ่อ คุณแม่ไปตัดผม ทำเล็บ หรือซ่อมรถบ้างไหมครับ ถ้าหากเคย น้อง ๆ บอกพวกท่านอย่างไรกันครับ ระวังดี ๆ นะครับ เพราะถ้าน้องบอกคุณแม่ว่าแม่เดี๋ยวไปตัดผมนะโดยพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า I will cut my hair น้องกำลังโกหกท่านอยู่นะครับ เพราะประโยคดังกล่าวแปลว่า “น้องจะตัดผมตัวเอง” (หมายถึง น้องหยิบเอากรรไกร หรือ ปัตตาเลี่ยนขึ้นมาจัดการเล็มผมตัวเอง) แต่ในความเป็นจริงน้องไปจ้าง หรือไปขอให้คนอื่นตัดผมให้ ดังนั้นถ้าไม่อยากสื่อสารแล้วทำให้คนอื่นเข้าใจผิดน้องจะต้องเรียนรู้เรื่อง Causative Verb หรือ คำกริยาที่เอาไว้ใช้บอกว่า “ประธานไม่ได้ทำกริยาเองแต่ขอให้คนอื่นทำให้” ซึ่งนี่ถือเป็นโครงสร้างพิเศษที่ไม่ปรากฏในภาษาไทย โดยเราจะใช้กริยาดังต่อไปนี้มาช่วยบรรยาย คือ have, make, let และ get ในการติว GED RLA เรื่องนี้ก็สำคัญมากเหมือนกันจะครับ วิธีการจำสูตรโครงสร้าง “have, make,[…]

SAT : Answer Choice

                เวลาที่น้อง ๆ ทำโจทย์หรือติว SAT Reading หลายคนน่าจะเคยลังเล เลือกคำตอบที่ถูกต้องไม่ได้ถึงแม้ว่าจะอ่านบทความเสร็จแล้วก็ตาม หรือแม้ว่าจะพยามยามตัดchoice แล้วสุดท้ายก็จะเหลือตัวเลือกไว้สองข้ออยู่ดี ซึ่งเราก็ต้องเสี่ยงดวง 50% ว่าเราจะตอบถูกไหม ดังนั้นวันนี้พี่ก็เลยจะมาแนะนำหลักการตัด choice ที่พี่ชอบใช้เวลาทำโจทย์ เพื่อเพิ่มโอกาสการทำโจทย์ SAT ให้ถูกต้องกับทุกคนนะครับ                 เราลองมาดูกันนะครับว่าลักษณะคำตอบที่ผิดและมักจะเป็นตัวหลอก (Distractor) ใน Reading ภาษาอังกฤษมีอะไรกันบ้าง ในการติว SAT เรื่องนี้สำคัญมากนะครับ Off-topic คือ choice ที่นอกเรื่องไปเลย อยู่ดี ๆ โจทย์ก็หยิบประเด็นหรือคำอะไรไม่รู้มาเติมทำให้ประโยคหลุดประเด็นไป เช่น ในบทความพูดถึงการทำอาหาร แต่ใน choice พูดเรื่องการทำอาหาร Too broad/narrow ลักษณะ choice นี้จะผิดเพราะกว้างเกินไป หรือแคบเกินไป เช่น ในบทความพูดถึงนักชีวะวิทยา (Biologist) แต่ใน choice ใช้คำว่า Scientists ซึ่งหมายถึงนักวิทยาศาสตร์ทั่วไป ก็จะทำให้[…]

SAT Math : COMPLEX NUMBER

วันนี้เราจะมาดูเนื้อหาการเรียน SAT Math เรื่อง complex number หลายคนเคยสงสัยว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเอาตัวเลขติดลบมาถอด square root ของตัวเลขติดลบ เช่น  คำตอบ ก็คือ เป็นไปไม่ได้ เพราะตัวเลขเหมือนกัน 2 ตัว คูณกันแล้วไม่มีทางที่จะได้จำนวนลบเลย เช่น 1 x 1 = 1 หรือ -1 x -1 = 1 อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดทางคณิตศาสตร์ถูกกำจัดทิ้งไปด้วยการสร้างทฤษฎีใหม่ขึ้นมาด้วยการคิดสัญลักษณ์ค่าหนึ่งออกมาเพื่อให้สามารถตอบข้อสงสัยดังกล่าวได้ ด้วยการกำหนดว่า  =   โดย  เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่เป็นองค์ประกอบในจำนวนเชิงซ้อน (complex number) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เขียนในรูป a + b โดย a และ b คือจำนวนจริง ติว SAT Math ก่อนสอบน้องๆอย่าลืมติวกันเรื่องนี้ด้วยนะครับ จำนวนเชิงซ้อนแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่[…]

GED Science : HYBRID CAR

ใน 20 ปีข้างหน้าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อันเนื่องมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ไม่เว้นแม้แต่วงการอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริดเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตกำลังพัฒนาอย่างแข็งขันในช่วง 5 ปีหลังมานี้ เมื่อติว GED Science เราจะได้เห็นเรื่อง technology ก้นด้วย วันนี้พี่เลยอยากยกตัวอย่างหัวข้อติว GED วิชา Science เรื่องนี้มาดูกัน รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Cars) เป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าในการเป็นแหล่งจ่ายพลังงานเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน โดยเครื่องยนต์จะสร้างพลังงานจากการเผาไหม้ของน้ำมัน และมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้พลังงานจากความร้อนที่สูญเสียไปกับการเผาไหม้ ซึ่งเกิดขึ้นได้ในกรณีที่เครื่องยนต์ทำงานโดยสูญเปล่า เช่น ขณะเบรกเพื่อชะลอความเร็ว ข้อดีของรถยนต์ไฮบริด คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของรถยนต์ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ร่วมกับพลังงานกลจากเครื่องยนต์ อีกทั้งประหยัดการใช้น้ำมันลงเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน ในขณะที่รถยนต์ยังหยุดนิ่ง ทำให้รถไฮบริดเหมาะกับผู้ที่ขับขี่ในตัวเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฮบริดจำเป็นต้องมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าแบตเตอรี่รถยนต์ธรรมดาเพื่อกักเก็บพลังงานไฟฟ้า และ มีระบบควบคุมที่ซับซ้อน ทำให้แบตเตอร์รี่มีราคาสูงและยังมีค่าซ่อมบำรุงที่สูงมากเช่นกัน แม้ว่าการใช้รถยนต์ไฮบริดจะช่วยลดการใช้น้ำมันลงก็ตาม นอกจากนี้การชาร์จแบตเตอร์รี่ยังต้องใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมันเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฮบริดยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ในปัจจุบันผู้พัฒนารถยนต์จึงให้ความสำคัญกับศักยภาพของแบตเตอร์รี่ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนการผลิตอย่างคุ้มค่า ในระยะยาว รถไฮบริดจะได้รับความนิยมมากขึ้นและเป็นรถยนต์กระแสหลัก เนื่องจากการรถยนต์ไฮบริดช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการใช้รถยนต์ทั่วไปที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเครื่องยนต์สู่ชั้นบรรยากาศ อีกทั้งยังช่วยลดการใช้น้ำมัน ซึ่งในอนาคตปริมาณน้ำมันจะมีใช้อย่างจำกัด ดังนั้นรถยนต์ไฮบริดจึงเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคในยุคที่เทคโนโลยีคือกระแสสำคัญ ในคลาสติว GED Science[…]

GED RLA : If Clause

                “ถ้าสมมุติฉันถูกหวย ฉันจะบินไปกลับกรุงเทพ-ลอนดอนสัก 50 รอบ” น้อง ๆ เคยมีจิตนาการหรือเคยสมมุติเรื่องอะไรแปลก ๆ ในหัวบ้างไหมครับ อย่างเช่น ถ้าฉันมีกระเป๋าโดราเอมอน ฉันจะใช้ไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต พี่เองก็เคยจินตนาการแบบนี้มาก่อน คนเราทุกคนต่างมีความฝัน ต่างมีจินตนาการ และเรามักจะตั้งเงื่อนไขบางอย่างให้ตัวเองอยู่เสมอ ว่าแต่น้อง ๆ รู้วิธีถ่ายทอดเงื่อนไขเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษไหมครับ ถ้าไม่รู้วันนี้พี่จะมาติว GED RLA ด้าน Structure เรื่องการใช้ If Clause หรือประโยคแสดงเงื่อนไข เนื่องจากว่าในภาษาอังกฤษมีการกำหนดเงื่อนไข (Condition)โดยการใช้คำว่า if ซึ่งแปลว่า “ถ้า”อยู่หลายรูปแบบ เราเลยจะมาเรียนรู้โครงสร้างของการกำหนดเงื่อนไขแบบต่าง ๆ เพื่อเอาไปใช้ในห้องสอบและชีวิตประจำวันหรือเรียน GED RLA ครับ โดยเราสามารถแบ่งประเภทของ If Clause ออกเป็น 3 ประเภทดังนี้                 เรียน GED RLA: รูปแบบที่ 1 ใช้กับเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้น                 โครงสร้าง[…]