How to ทำยังไง ให้มีกำลังใจอ่านหนังสือสอบ?

ในชีวิตวัยรุ่น ช่วงเวลาแห่งการศึกษาและการเตรียมสอบ ถือเป็นช่วงหนึ่งที่สร้างความกดดันให้กับน้อง ๆ นักเรียนมากเป็นอันดับต้น ๆ ไม่ว่าจะด้วยเนื้อหาสอบที่เยอะแทบจำไม่หมด ความคาดหวังจากคนรอบข้าง หรือแม้แต่ตัวของเราเอง ที่จะต้องเรียนหนังสือให้จบ หรือสอบเข้าในคณะและมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันได้

แน่นอนว่าจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ต้องพบเจอ บางครั้งก็อาจจะทำให้น้อง ๆ รู้สึกท้อถอย หรือหมดกำลังใจในการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบกันไปบ้าง ในวันนี้ พี่ The Planner ขอนำเสนอบล็อกดี ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างพลังแรงใจให้กับน้อง ๆ นักเรียนทุกคน ให้ได้สู้ต่อไป กับ 8 วิธี Heal ใจ ช่วยเติมไฟอ่านหนังสือสอบ จะมีรายละเอียดอะไรกันบ้าง มาอ่านกัน

1. มองเป้าหมายเป็นเส้นชัย ไม่ใช่กำแพง

บ่อยครั้ง หลาย ๆ คนเลือกที่จะนำความฝันของตัวเองมาตั้งเป็นกำแพง เพื่อหวังให้วันหนึ่งตัวเราจะสามารถทลายกำแพงนี้และข้ามผ่านมันไปได้ แต่วิธีนี้ก็อาจจะใช้ไม่ได้กับน้อง ๆ ทุกคนนะคะ แนะนำให้น้อง ๆ ที่กำลังจะหมดกำลังใจเตรียมสอบ ลองเปลี่ยนแนวคิดมากำหนดเส้นชัยให้กับตัวเองเป็นระยะ เพื่อให้เรามีเวลาหยุดพักและให้ของขวัญกับตัวเองได้บ่อย ๆ จะดีกว่า เช่น สมมติว่าเราต้องอ่านหนังสือสอบ GED 4 วิชา เมื่ออ่านจบวิชาที่ 1 แล้ว จะได้ทานไอศกรีมร้านที่ชอบ หากอ่านจบวิชาที่ 2 ด้วย ก็จะได้ไปดูหนังเรื่องที่ชอบได้ แบบนี้จะทำให้เราเติมกำลังให้ตัวเองเรื่อย ๆ ไม่หมดไฟไปเสียก่อนที่จะถึงปลายทางนั่นเองค่ะ

2. ไม่มีสิ่งใดง่ายทั้งหมด หรือยากทั้งหมด

ไม่ว่าจะการเรียน การสอบ หรือการทำสิ่งใด ๆ ก็ตาม มันมักจะมีจุดที่ยาก และจุดที่เราไปไหวได้อยู่เสมอ หากเราไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์ อ่านหนังสือสอบทีไรแล้วปวดหัวทุกที มันก็ไม่ได้แปลว่าเราจะทำมันไม่ได้หรือเกลียดมันในระดับเท่ากันแบบ 100% ทุกหัวข้อนี่นา ลองค้นหาจุดที่ตัวเองพอไปไหว พอที่จะทำได้ง่ายกว่าดู ผ่านการฝึกทำโจทย์ง่าย ๆ หรือเน้นอ่านเฉพาะ Point สำคัญ ๆ ก่อน แล้วค่อยไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ในหัวข้ออื่น ๆ จนครบ จะทำให้สุดท้ายแล้ว ถึงแม้น้อง ๆ จะไม่ได้เชี่ยวชาญหรือโปรกับเรื่องนี้ทั้งหมด แต่น้อง ๆ ก็จะพอมีทักษะให้ตัวเองเอาชีวิตรอดไปจนถึงเป้าหมายได้อย่างไม่ยากเย็นนักแน่นอน 

3. คำว่าพรุ่งนี้ มันไม่เคยมาถึง

ใครที่กำลังบอกกับตัวเองว่า “พรุ่งนี้ค่อยอ่านละกัน” หรือ “ไว้ค่อยว่ากันใหม่วันอื่นก็ได้” ขอบอกเลยว่า “น้องต้องหยุดแล้วฟังพี่ก่อน…” เพราะการผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ จะทำให้เราติดนิสัยทำอะไรไม่เสร็จสักที และทำให้โอกาสในการที่จะบรรลุเป้าหมายต่อ ๆ ไปทำได้ยากมากขึ้น และถึงแม้ว่าเราอาจจะเหนื่อยจริง ๆ หรือติดธุระหนักจริง ๆ การผัดวันประกันพรุ่งกับการเตรียมสอบในน้อง ๆ นักเรียน ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่น้อง ๆ ควรทำอยู่ดี หากเป็นไปได้ แนะนำให้ฝืนใจตัวเองสักนิด แล้วเริ่มลงมือทำเลยเดี๋ยวนี้จะดีกว่า ถึงแม้มันจะทำได้ไม่เยอะ แต่อย่างน้อยสิ่งที่เราลงมือทำมันก็ได้เกิดการพัฒนาต่อ เพราะพรุ่งนี้มันไม่เคยมาถึงอยู่แล้ว ตื่นนอนในเช้าวันใหม่ยังไงมันก็ยังคงเป็นวันนี้ของน้อง ๆ อยู่ดีนะจ๊ะ

4. ดูคนที่ประสบความสำเร็จมาก่อนเป็นแนวทาง

การแสวงหากำลังใจ บางทีมันก็พบเจอได้ง่ายกว่าที่น้อง ๆ คิด ลองหา Idol ในดวงใจสักคน หรือทำความรู้จักกับคนที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนที่เราชื่นชอบดู อาจจะเป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ก็ได้ ไม่ว่าจะในเรื่องการเรียน การทำงาน หรือการใช้ชีวิตก็ตาม เพราะจะทำให้เรามองเห็นวิธีการและหนทางที่คนคนนั้นฝ่าฟันมันไปจนถึงเป้าหมายได้ และถ้าหากเราสามารถนำวิธีการหรือแนวทางของคนที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้นมาปรับใช้กับตัวเราเอง ก็จะทำให้น้อง ๆ สามารถดำเนินแนวทางในการอ่านหนังสือ การใช้ชีวิตหรือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยในฝันได้ง่ายมากขึ้น

5. โซเชียลมีเดีย เป็นได้มากกว่าแค่ความบันเทิง

ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียที่น้อง ๆ ใช้กันอยู่มีหลากหลายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Facebook, YouTube, Twitter หรือ TikTok และอื่น ๆ ที่จะเป็นกระแสตามมาในอนาคต ช่องทางเหล่านี้ หากเลือกใช้ให้เป็นประโยชน์ ก็จะเป็นช่องทางสำคัญที่จะช่วยพัฒนาทักษะความรู้และการอ่านของน้อง ๆ ได้ นอกจากนี้ น้อง ๆ ยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ในสิ่งที่สนใจหรือเรื่องที่กำลังเตรียมสอบนั้น ๆ กับกลุ่มเพื่อนหรือชุมชนต่าง ๆ และยังสามารถใช้ช่องทางเหล่านี้ศึกษาพัฒนาการความสำเร็จของคนอื่น ๆ ผ่านการแชร์คอนเทนต์ต่าง ๆ ที่กำลังเป็นเทรนด์ตอนนี้อยู่ได้อีกด้วย

6. พาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ที่เสริมความขยัน

การได้ไปอ่านหนังสือในพื้นที่หรือสถานที่ เช่น สวนสาธารณะ ห้องสมุด หรือแม้แต่บ้านของเราเองที่มีความสงบ ปราศจากการรบกวนจะช่วยให้น้อง ๆ หลายคน เกิดสมาธิ และมีการจดจ่อกับเนื้อหาในหนังสือสอบได้มากขึ้น และอีกวิธีหนึ่งก็คือการได้จับกลุ่มติวกับเพื่อน หรือการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในงาน Work Shop หรืองานแนะแนวการศึกษาต่าง ๆ ก็จะช่วยให้น้อง ๆ รู้สึกมุ่งมั่น และได้ความรู้มากขึ้นอีกด้วย และถ้าหากน้อง ๆ คนไหนที่มีเพื่อนสนิทหรือเพื่อนที่มีจุดหมายในการอ่านหนังสือติวสอบเหมือนกัน ก็ลองทำวิธีเหล่านี้ร่วมกันดู เชื่อว่าจะทำให้การติวหนังสือของน้อง ๆ เกิดประสิทธิภาพ และมีกำลังใจมากขึ้นแบบคูณสองกันไปเลย

7. ลองยอมแพ้ แล้วพักสักหน่อยไม่เสียหาย

พออ่านมาถึงข้อนี้ หลาย ๆ คนอาจจะสะดุดเล็กน้อยกับคำว่า “ยอมแพ้” จริง ๆ แล้วการยอมแพ้ไม่ได้น่ากลัวเสมอไปนะคะ บางสถานการณ์มันดีเสียอีก เพราะจะทำให้เราได้กลับมาคิด ไตร่ตรองกับตัวเองว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นถูกต้องแล้วหรือยัง? หรือเดินมาในเส้นทางที่ใช่แล้วหรือไม่? เพราะในโลกใบนี้ไม่มีใครมองเห็นเป้าหมายชีวิตได้ชัดเท่ากับตัวของน้อง ๆ เองแล้ว ถ้าสิ่งที่ทำหรืออ่านอยู่มันใช่ เราเดินมาถูกทางแต่แค่รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ก็ลองพักผ่อนให้ใจสบายขึ้นกันสักนิดแล้วจะลุกมาสู้ต่อก็ยังได้ แต่ถ้าหากว่าหนทางนั้นมันไกลเกินไป ฝืนเดินต่อแล้วมีแต่เหนื่อยกับเหนื่อยจนหมดกำลังใจชีวิต ลองยอมแพ้แล้วกลับมาตั้งต้นใหม่ เร่งหาวิธีที่ดีกว่าในการไปให้ถึงเป้าหมายจะดีกว่าการดึงดันทำในสิ่งที่ไม่ชอบ หรือสิ่งที่น้อง ๆ รู้สึกอึดอัดนะคะ

8. ปรึกษาคนที่ไว้ใจ เพื่อแนวคิดใหม่ที่แตกต่าง

หากเมื่อใดที่ตัวน้อง ๆ หมดกำลังใจหรือหมดไฟในการอ่านหนังสือสอบหรือการทำอะไรสักอย่าง การได้มีใครสักคนที่ไว้ใจคอยรับฟังปัญหา หรือคอยให้คำแนะนำในประเด็นนั้น ๆ จะทำให้เราได้รู้สึกผ่อนคลายและได้ปลดปล่อยกับสิ่งที่ตัวเองรู้สึกกังวลออกมามากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็อาจจะต้องดูกันสักนิดว่า สิ่งที่เรากำลังปรึกษาเขานั้นจะเกิดผลกระทบต่อผู้ให้คำปรึกษาหรือไม่ หรือผู้ให้คำปรึกษานั้นมีความตั้งใจฟังเพราะอยากเข้าใจในเรื่องราวของเราอย่างแท้จริงหรือเปล่า ดังนั้น หากจะปรึกษาปัญหาการเรียน การอ่านหนังสือสอบ หรือแนวทางชีวิตกับใครสักคน แนะนำว่าควรเป็นผู้ปกครองของน้อง ๆ เอง หรือคุณครูผู้สอนในวิชานั้น ๆ จะดีที่สุดค่ะ

อ่านบทความ GED อ่านเอง หรือ ติวสอบดี คลิกที่นี่

เมื่อน้อง ๆ ทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจอย่างเต็มที่ เชื่อว่าหลังสอบเสร็จน้อง ๆ จะไม่รู้สึกเสียใจหรือเสียดายกับความทุ่มเทที่เราได้ลงแรงไปทั้งหมดเลย สำหรับใครที่กำลังท้อ หมดไฟ หรือหมดกำลังใจในการติวหนังสือ พี่ The Planner หวังว่าบทความที่พี่ ๆ ตั้งใจเขียนนี้ จะช่วยเป็นหนึ่งในแรงผลักดันดี ๆ ให้กับน้อง ๆ ได้นะคะ ทุกสิ่งที่เราได้ตั้งใจไว้ จะต้องสำเร็จได้แน่นอน Keep Going!!

 

สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT/GSAT | ACT | IELTS | IB | AP | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Line: @theplanner หรือ Phone: 095-726-2666

เพิ่มเพื่อน

Leave a Reply