GED/SAT/IELTS 3 คะแนนสอบ ที่สายเทียบวุฒิควรมี ก่อนยื่นคณะอินเตอร์

คะแนนสอบเข้าคณะอินเตอร์และมหาวิทยาลัยชั้นนำที่เป็นที่ยอมรับในระดับทั่วโลก ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่นึกถึง คะแนนสอบ GED, SAT และ IELTS ที่เรียกได้ว่าเป็นผลสอบเพื่อนซี้ ไม่ว่าจะยื่นคณะอินเตอร์ที่ไหนเป็นต้องได้ใช้แน่นอน

ทั้ง 3 ข้อสอบนี้มีความสำคัญอย่างไร และทำไมเด็กสายเทียบวุฒิทุกคนถึงควรมีคะแนนเหล่านี้? ในบทความนี้ พี่ The Planner จะขอพาน้อง ๆ ไปไขข้อข้องใจและรู้จักคอร์ส GED, SAT และ IELTS ให้มากขึ้นกัน

การสอบ GED – SAT – IELTS คืออะไร

  1. GED หรือ General Educational Development คือ การสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายในระบบอเมริกัน (US High School Equivalency Diploma) สอบทั้งหมด 4 วิชา ได้แก่ Mathematical Reasoning, Science, Reasoning Through Language Arts และ Social Studies คะแนนเต็ม 800 เฉลี่ยวิชาละ 200 คะแนน และผ่านเกณฑ์อย่างน้อย 145 คะแนนต่อวิชา
  1. SAT หรือ Scholastic Assessment Test คือ การสอบวัดความรู้ด้าน Mathematics (คณิตศาสตร์) และ Evidence-based Reading and Writing (ภาษาอังกฤษ) และ Essay (การเขียนเรียงความ) ซึ่งสำหรับในประเทศไทยไม่ได้กำหนดบังคับให้มีการสอบ SAT พาร์ท Essay) โดยคะแนนสอบอยู่ที่พาร์ทละ 800 คะแนน รวม 2 พาร์ท SAT Math และ SAT Verbal จะได้คะแนนเต็ม 1600 คะแนน
  1. IELTS หรือ International English Language Testing System คือ การสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก มีทั้งหมด 4 เนื้อหาสอบ คือ Listening, Reading, Writing และ Speaking คะแนนเต็มในแต่ละพาร์ท คือ Band 9.0 และจะถูกคำนวณรวมทุกพาร์ทออกมาเป็นคะแนนเฉลี่ย เต็ม 9.0 เช่นกัน และสำหรับการยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย จะใช้รูปแบบข้อสอบที่เป็น IELTS Academic Test

อ่านบทความ 3 คอร์สเด็ด GED / SAT / IELTS พิชิตคณะอินเตอร์ เตรียมตัวอย่างไรให้ปัง คลิกที่นี่

ทำไมเด็กเทียบวุฒิ ควรมีคะแนนสอบ GED – SAT – IELTS ก่อนยื่นคณะอินเตอร์

  1. 90% ของคณะ/มหาวิทยาลัยอินเตอร์ “ต้องการ”

โดยทั่วไปแล้ว การรับเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเป็นนิสิตหรือนักศึกษา ไม่ว่าจะในภาคปกติหรือภาคอินเตอร์ จะประกอบการพิจารณาไปด้วยวุฒิการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และการสอบพื้นฐานหรือเพิ่มเติมอื่น ๆ ซึ่งปกติในการยื่นเข้าเป็นนักศึกษาหลักสูตรอินเตอร์ก็มักจะประกอบไปด้วย 3 ผลคะแนนสอบที่คณะ/มหาวิทยาลัยต้องการ คือ

  • วุฒิการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และวุฒิการศึกษาเทียบเท่า เช่น GED, A-Level, IB หรือวุฒิการศึกษาจากสถาบันนานาชาติอื่น ๆ
  • ผลคะแนนสอบ Aptitude Test เช่น SAT, ACT, CU-TEP, CU-AAT, CU-TAD หรือ TU-GET เป็นต้น
  • ผลคะแนนสอบ English Test เช่น IELTS, TOEFL หรือผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษเฉพาะของสถาบัน

และทุก ๆ ปี คะแนนยอดนิยมที่น้อง ๆ อินเตอร์และสายเทียบวุฒิเลือกใช้ยื่นเข้าศึกษามากที่สุด คือ GED, SAT และ IELTS ด้วยเหตุผลในเรื่องของมาตรฐานข้อสอบที่เป็นสากล ความสะดวก และความรวดเร็วทั้งในเรื่องการสอบและการยื่นคะแนนเข้าศึกษา

  1. GED การันตีวุฒิ ม.6

เหตุผลหลักที่ทางคณะ/มหาวิทยาลัยอินเตอร์รับน้อง ๆ ที่จบหลักสูตรเทียบวุฒิ GED เข้าศึกษา เนื่องจากเป็นหลักสูตรทางการศึกษาคุณภาพที่ทั่วโลกยอมรับ มีเนื้อหาการเรียนที่ครอบคลุม และในประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการได้รับรองวุฒิ ให้วุฒิ GED เทียบเท่ากับได้วุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของประเทศไทย อย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2558

น้อง ๆ ที่มีวุฒิการศึกษา GED จึงสามารถยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยได้ ทั้งหลักสูตรนานาชาติ และหลักสูตรภาคไทยได้ (สาขาที่รับหลักสูตรเทียบวุฒิ) ทั้งนี้ก็อาจจะต้องมีการเทียบเกรดให้เท่ากับหลักสูตร ม.6 สามัญต่อไป ขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัยนั้น ๆ กำหนด 

  1. SAT แสดงทักษะการวิเคราะห์และคำนวณ

การสอบ SAT จะเป็นการสอบที่ใช้วัดความถนัดในวิชาเลข (Mathematics) และภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) ซึ่งจะทำให้เห็นถึงความสามารถในการวิเคราะห์เหตุผล ตรรกะต่าง ๆ รวมถึงทฤษฎีทางการคำนวณที่เป็นระบบของนักเรียนหรือผู้สอบได้

ผลคะแนน SAT ที่ได้จึงเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณารับเข้าศึกษาของคณะอินเตอร์ ที่เป็นสายคำนวณและสายภาษา เช่น ISE CU, SIIT-TEP-TEPE TU, BBA CU หรือ BALAC CU เป็นต้น โดยทั่วไปประเทศไทยจะพิจารณาคะแนนทั้งในแบบรวม และแยกพาร์ท หากแยกพาร์ทจะเริ่มตั้งแต่ที่ SAT Verbal 450 คะแนนขึ้นไป SAT Math 500 ขึ้นไป หรือคะแนนรวม SAT ที่ 1100-1200 ขึ้นไป 

  1. IELTS แสดงความพร้อมด้านภาษาและการเรียนรู้

เนื่องจากภาษาอังกฤษ เป็นส่วนสำคัญมากในการศึกษาในหลักสูตรนานาชาติ หรือหลักสูตรไทยที่มีเนื้อหาการสอนเป็นภาษาอังกฤษ หากนักเรียนยังไม่มีความพร้อมทางด้านการใช้ภาษาอังกฤษ ก็อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาในระดับสูงต่อไปได้

และคะแนนสอบ IELTS สามารถแสดงผลลัพธ์ความรู้ทางภาษาอังกฤษของนักเรียนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากตัวข้อสอบ ครอบคลุมเนื้อหาภาษาอังกฤษเชิงวิชาการครบทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ Listening, Reading, Writing and Speaking โดยทั่วไปคะแนน IELTS ที่มหาวิทยาลัยไทยรับเข้าศึกษา จะเริ่มตั้งแต่ IELTS 5.5 – 6.0 ขึ้นไป 

เรียน 3 คอร์ส ที่ The Planner พร้อมต่อคณะอินเตอร์ได้เลย

สถาบันติวสอบอินเตอร์ The Planner Education เปิดสอนน้อง ๆ ครอบคลุมครบทั้งคอร์ส GED, คอร์ส SAT และ คอร์ส IELTS นอกจากนี้ยังเปิดสอนคอร์สติวสอบอื่น ๆ ที่ใช้ยื่นเข้าคณะอินเตอร์ครบทุกหลักสูตร ซึ่งจะเน้นสอนในเนื้อหาสอบที่ตรงประเด็น ครบถ้วน เพียงพอต่อการสอบอินเตอร์ให้ผ่านและได้คะแนนสูงตั้งแต่ครั้งแรก

หากน้อง ๆ เลือกเรียนครบ 3 คอร์สเข้าอินเตอร์ ที่สถาบัน The Planner Education น้อง ๆ จะใช้เวลาการเรียนและฝึกฝนข้อสอบ รวมอยู่ที่ “ไม่เกิน 1 ปี” น้อง ๆ ก็จะสามารถเรียนจบ และพร้อมสอบเพื่อนำคะแนนไปยื่นเข้าคณะที่สนใจได้แล้ว การันตีความสำเร็จและความประทับใจจากน้อง ๆ สอบผ่านกับทางสถาบันแล้วมากกว่า 2,000 คน

ประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลา ติวสนุก พร้อมรับการบริการที่ครบครันจากพี่ ๆ ทางสถาบัน มั่นใจเรียนที่ The Planner ครบจบทุกเรื่องการสอบในที่เดียว สนใจสอบถามโปรโมชันคอร์สและวางแผนการเรียนต่ออินเตอร์ ติดต่อสอบถามกับพี่แอดมินผ่านช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย

 สนใจติว A-LEVEL | IGCSE | GED | SAT/GSAT | ACT | IELTS | IB | AP | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | Academic Writing
ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 095-726-2666
หรือ LINE: @theplanner

เพิ่มเพื่อน
Tags:

Leave a Reply