“ถ้าสมมุติฉันถูกหวย ฉันจะบินไปกลับกรุงเทพ-ลอนดอนสัก 50 รอบ” น้อง ๆ เคยมีจิตนาการหรือเคยสมมุติเรื่องอะไรแปลก ๆ ในหัวบ้างไหมครับ อย่างเช่น ถ้าฉันมีกระเป๋าโดราเอมอน ฉันจะใช้ไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต พี่เองก็เคยจินตนาการแบบนี้มาก่อน คนเราทุกคนต่างมีความฝัน ต่างมีจินตนาการ และเรามักจะตั้งเงื่อนไขบางอย่างให้ตัวเองอยู่เสมอ ว่าแต่น้อง ๆ รู้วิธีถ่ายทอดเงื่อนไขเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษไหมครับ ถ้าไม่รู้วันนี้พี่จะมาติว GED RLA ด้าน Structure เรื่องการใช้ If Clause หรือประโยคแสดงเงื่อนไข เนื่องจากว่าในภาษาอังกฤษมีการกำหนดเงื่อนไข (Condition)โดยการใช้คำว่า if ซึ่งแปลว่า “ถ้า”อยู่หลายรูปแบบ เราเลยจะมาเรียนรู้โครงสร้างของการกำหนดเงื่อนไขแบบต่าง ๆ เพื่อเอาไปใช้ในห้องสอบและชีวิตประจำวันหรือเรียน GED RLA ครับ โดยเราสามารถแบ่งประเภทของ If Clause ออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
เรียน GED RLA: รูปแบบที่ 1 ใช้กับเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้น
โครงสร้าง If + present simple, S + will + V Infinitive.
If I do not study today, my mom will not let me go to the party. (ถ้าวันนี้ฉันไม่อ่านหนังสือ แม่จะไม่ให้ฉันไปงานปาร์ตี้)
*We will miss the bus if we do not leave soon. (พวกเราจะตกรถบัสถ้าไม่ออกจากบ้านตอนนี้ – เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้นแต่มีโอกาสจะเกิด)
*สังเกตว่าประโยค if ทุกรูปแบบเราสามารถสลับตำแหน่ง if ได้ จะนำคำเชื่อม if ไปไว้ขึ้นต้นประโยค หรือตรงกลางระหว่างสองประโยคก็ได้ แต่น้องแค่ต้องย้ายส่วนที่อยู่หลังคำเชื่อมไปด้วยให้หมด สรุปง่ายคือ เราสามารถเขียนโครงสร้างแบบนี้ก็ได้ครับ S + will + V. Infinitive + if + present simple. (กรณีนี้ห้ามใส่ comma หน้า if เด็ดขาด!) สุดท้ายแล้วโครงสร้างอาจเปลี่ยนไปก็จริงแต่ความหมายยังเหมือนเดิมครับ
เรียน GED RLA: รูปแบบที่ 2 ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงในปัจจุบัน (ใช้เล่าเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้เลยในปัจจุบัน)
โครงสร้าง If + past simple, S + would + V. Infinitive.
If she got his number, she would call him. (ถ้ารู้เบอร์เธอจะโทรไปหาเขา – แต่ที่จริงไม่รู้)
I would travel all over the world if I won the lottery. (ถ้าถูกหวยฉันจะไปเที่ยวรอบโลก – แต่จริง ๆ ไม่ได้ถูกหวยเลยยังไม่ได้ไปเที่ยว)
เรียน GED RLA: รูปแบบที่3 ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงในอดีต (มักใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีตและกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้)
โครงสร้าง If + past perfect, S + would have + V3.
If my boyfriend had told me the truth, we would not have broken up. (ถ้าแฟนฉันบอกความจริงมาแต่แรก เราก็คงจะไม่เลิกกัน – จริง ๆ เลิกกันแล้วเพราะแฟนไม่ได้บอก)
He would have been on time for the interview if he had left the house earlier. (ถ้าออกจากบ้านไวกว่านี้เขาก็คงจะไปสัมภาษณ์ได้ทันเวลา – แต่จริง ๆ แล้วออกช้าเลยไปไม่ทัน )
** สำหรับเด็ก ๆ ที่จำโครงสร้างไม่ได้พี่มีเพลงช่วยจำโครงสร้าง If Clause นะครับ โดยเราจะใช้ทำนองเพลง Happy Birthday มาช่วย เชื่อว่าน้อง ๆ ร้องกันได้อยู่แล้ว
“If you leave me, I will die.
If you left me, I would die.
If you had left me, my sweet heart, I would have died and cried.”
ทีนี้เราลองมาฝึกทำโจทย์โดยการฝึกเปรียบเทียบโครงสร้างจากเพลงที่เราร้องกันดีกว่านะครับ
Tina would have solved the problem in time if she _________ too careless.
- were not 2. had not been 3. will not be 4. was not
เฉลยข้อนนี้ตอบ 2 นะครับ สังเกตให้ดีนะครับประโยคนี้ส่วนแรก ใช้ would have + V3 ซึ่งน่าจะเป็นโครงสร้าง If Clause แบบที่ 3 แน่นอน ดังนั้นหลัง if เราเลยต้องใช้ past perfect นั่นคือ had not been ส่วนด้านความหมายของประโยคผู้พูดเล่าเหตุการณ์ในอดีตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้วว่า ถ้าตอนนั้นตีน่าไม่ประมาทเธอก็คงจะแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ (แปลว่าเธอประมาทเลยไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้)
ต่อจากนี้ไปพี่เชื่อว่าน้อง ๆ จะสามารถถ่ายทอดประโยคของเราโดยใช้ If Clause ในการสมมุติเรื่องราวเป็นภาษาอังกฤษได้มากขึ้น และจะสามารถนำความรู้นี้ไปติว GED RLA กันให้ผ่านได้นะครับ แต่ก่อนจะลากันพี่อยากให้น้อง ๆ ช่วยกันแปลและตีความประโยคนี้ให้พี่หน่อยนะครับ If I had studied and prepared harder, I would have passed GED examination. (แรงไปไหมครับ ฮ่าฮ่า อย่างน้อยก็ถือเป็นคำเตือนจากพี่และพี่ไม่อยากให้น้องต้องพูดประโยคนี้ออกมา)
ติดต่อสอบถามคอร์สการเรียน GED ได้ที่เบอร์ 02-253-2533 หรือ 095-726-2666
หรือ LINE: @theplanner