ติว SAT อยู่นาน เตรียมสอบอยู่แต่บนหน้าข้อสอบเก่ากองพะเนินเทินทึก ลองเงยหน้าขึ้นมาหายใจหายคอกันสักหน่อยมั้ย มีอะไรตกหล่นหรือเปล่า ฝึกฝนความรู้เตรียมสอบ SAT Reading & Writing ให้ได้คะแนนมากขึ้นมานาน แต่ก็ยังเหมือนกับว่าจะหลงทางไม่เลิก ดูท่าทางต้องมาตรวจสอบเช็คลิสต์เคล็ด(ไม่)ลับที่จะทำให้การสอบ SAT Reading & Writing ที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นไปอย่างใจต้องการแล้วล่ะ
1. หาจุดอ่อนของตัวเองให้เจอ
ติว SAT อยู่เรื่อยๆ ฝึกทำข้อสอบ SAT อยู่บ่อยๆ แล้วเราเคยสังเกตและทำความเข้าใจตัวเองมั้ยว่า เรามีจุดอ่อนในด้านไหนบ้าง ถ้าเอาแต่ทำข้อสอบเก่าโดยไม่เคยสำรวจตัวเองเลยว่าไม่ถนัดหัวข้อไหนในข้อสอบ SAT ถึงเวลาที่จะต้องจดโน้ตในส่วนที่ไม่เข้าใจเพื่อที่จะได้นำมาฝึกฝนหนักขึ้นและหาความรู้ในส่วนนั้นเพิ่มเติมจนชำนาญ
2. ไวยากรณ์ต้องแน่น!
ภาษาดีเป็นเลิศ คำศัพท์เพื่อสอบ SAT ก็ท่องจำมาแล้วหลายตลบ แต่อย่ามองข้ามเรื่องสุดสำคัญอย่างไวยากรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูไม่น่าพลาดอย่าง punctuation และ spelling แต่เก่งมาจากไหนก็ตาม ถ้าไม่ตรวจทานให้รอบคอบล่ะก็… คะแนนหายไปไม่รู้ตัวนะขอบอก
3. เขียนอย่างสร้างสรรค์ ใส่ความเป็นตัวตน
ข้อสอบ SAT อาจจะไม่ได้เจาะจงวัดความคิดสร้างสรรค์ของผู้สอบ แต่อย่างน้อยก็คงดีกว่าแน่ ถ้าเราใส่ความเป็นตัวตนลงไปบ้าง ให้ข้อสอบของเราไม่เหมือนกับการท่องจำเข้ามา
4. เขียนให้ครบองค์ประกอบ
ไม่ว่าจะสอบ SAT writing หรือ essay การเรียบเรียงสิ่งที่เขียนถือเป็นเรื่องสำคัญมาก สิ่งที่ทำให้เราลำดับความคิด ทำให้ง่ายต่อการอ่านและเชื่อมโยงประโยคได้ง่ายนั้นก็คือ องค์ประกอบของการเกริ่นนำ เนื้อหาและบทสรุปนั่นเอง
5. อ่านให้ดี ทำตามทุกคำสั่ง
นอกห้องสอบ SAT เราจะแหวกแนวหรือสร้างสรรค์หลุดโลกยังไงก็ได้ แต่ถ้าได้อยู่ต่อหน้าข้อสอบ SAT แล้วล่ะก็ แนะนำให้อ่านคำสั่งให้ดี อะไรที่คำถามต้องการจากเรา หากไม่มีความรอบคอบในส่วนนี้ อาจนำพามาซึ่งการสูญเสียคะแนนอย่างน่าเสียดาย
6. ค่อยๆ ฝึกฝน
เคยได้ยินมั้ยว่าความสำเร็จบางครั้งก็ไม่ได้เกิดแค่ชั่วข้ามคืน การติว SAT เพื่อเตรียมตัวคว้าคะแนนที่คาดหวังก็เช่นกัน เราควรค่อยๆ ฝึกฝนทำข้อสอบ SAT ด้วยการจัดการและบริหารเวลา ฝึกฝนในระยะเวลาที่พอเหมาะในแต่ละวัน แต่ฝึกฝนทุกวันให้สมองของเราเกิดการเรียนรู้และค่อยๆ สะสมไปเรื่อย โดยไม่ทรมานร่างกายและสมองของเราจนเกินไป
7. ผ่อนคลาย อย่าเครียดเกินไป
หากเราไม่ติว SAT แบบค่อยเป็นค่อยไป สิ่งที่จะเกิดก็จะตามมาในรูปแบบของความเครียดนั่นเอง เมื่อเราเครียดก็จะไม่มีกำลังใจติว SAT พอไม่มีกำลังใจก็เริ่มเครียดถึงวันข้างหน้า แล้วพอถึงวันใกล้สอบ SAT เราก็จะสติหลุด เพราะฉะนั้นแล้วจงอย่าเครียดและผ่อนคลายให้มากๆ
8. ขอความช่วยเหลือจากคุณครู
เช็คลิสต์มาก็หลายข้อ แต่ยังมึนๆ งงๆ หลงทาง อาการแบบนี้คงต้องหาที่ปรึกษาแล้วล่ะ บางครั้งนั่งติว SAT คนเดียวก็ทำให้เกิดอาการสับสนและท้อแท้ได้ เข้ามาปรึกษากับ The Planner Education ได้แล้ววันนี้ เรียน SAT กับ The Planner อัดแน่นด้วยความรู้ ปูทางสู่ 1400+
ติว SAT ที่ไหนดี? คลิก! เพื่อดูข้อมูลคอร์สตารางเรียน SAT 80 ชั่วโมง ? https://bit.ly/3g2Ov96