10 แกรมม่าที่หลายคนอาจมองข้ามไปเวลากำลังเตรียมสอบ IELTS ทบทวนแกรมม่าซ้ำจะทำให้แม่นมากขึ้นในการเขียนคำตอบ IELTS พาร์ท Writing และจะสามารถเพิ่มโอกาสในการได้แบนด์สูงตามที่ตั้งใจไว้
- Relative Clause
คือ ประโยคซ้อนที่ทำหน้าที่เป็น Adjective โดยตามหลัง Relative Pronoun อย่างเช่น who, which, that, whom, whose, where, why ซึ่งคนส่วนใหญ่จะพลาดตรงที่เลือกใช้ Relative Pronoun ผิดนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
Wrong: The person which stays at that hotel is a Thai model.
Correct: The person who stays at that hotel is a Thai model.
- Conditional Clause
คือ ประโยคที่แสดงความเป็นเงื่อนไข จะใช้ “If” เป็นหลัก ซึ่งจะต้องมีประโยคตามหลังที่เป็นคำอธิบายของผลลัพท์ของเงื่อนไขนั้นด้วยเสมอ ประโยคที่แสดงความเป็นเงื่อนไขมีอยู่ 4 รูปแบบ แต่ละรูปแบบจะใช้ Tense ต่างกัน ผู้สอบ IELTS ส่วนใหญ่อาจจะพลาดตรงใช้ Tense ผิดในประโยค
ตัวอย่างเช่น
Wrong: If you hadn’t played the game all day, you wouldn’t fail the IELTS test.
Correct: If you hadn’t played the game all day, you wouldn’t have failed the IELTS test.
- Present Perfect / Past Simple
ทั้ง 2 Tenses นี้ มีความหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าใช้ Tense ผิดหรือสลับกัน ความหมายก็จะเพี้ยนไปด้วย ดังนี้
Present Perfect – ใช้กับเหตุกาณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต และยังดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
Past Simple – ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต และได้สิ้นสุดลงไปแล้ว โดยเจาะจงช่วงเวลาที่แน่นอน
ตัวอย่างเปรียบเทียบทั้ง 2 Tenses:
Present Perfect
She has studied IELTS at The Planner Education since last year.
(กำลังเรียน IELTS ที่ The Planner และตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่)
Past Simple
She studied IELTS at The Planner Education last month, and took the exam yesterday.
(เคยเรียน IELTS ที่ The Planner เรียนจบและสอบผ่านแล้ว)
- Passive Voice
เมื่อตั้งใจจะเขียนให้ประโยคอยู่ในรูป Passive form กริยาต้องเป็น Verb.3 หรือ Past Participle เท่านั้น และต้องมาคู่กับ Verb to be ด้วยเสมอ
ตัวอย่างเช่น
Wrong: I bit by a mosquito.
Correct: I was bitten by a mosquito.
- Gerunds
Gerund เป็นแกรมม่าที่คนมักจะสับสนบ่อย ๆ เช่นกัน ส่วนใหญ่ที่ผิดเพราะไม่แน่ใจว่า Verb ตัวไหนต้องตามด้วย Gerund หรือตามด้วย To infinitive
ตัวอย่างเช่น
Wrong: She decided studying IELTS with The Planner Education.
Correct: She decided to study IELTS with The Planner Education.
Wrong: I will keep to study for the IELTS until I am confident enough to take the real test next month.
Correct: I will keep studying for the IELTS until I am confident enough to take the real test next month.
- Uncountable Nouns
คำนามที่เป็นเอกพจน์บางคำไม่จำเป็นต้องใส่ Articles เพราะว่าเป็นคำนามที่นับไม่ได้ อย่างเช่นคำว่า coffee หรือ tea หรือถ้าต้องการจะนับเป็นจำนวน จะต้องทำให้เป็นนามนับได้โดยการเติมหน่วยบอกปริมาณ เช่น a cup of หรือ a glass of
ตัวอย่างเช่น
Wrong: Would you like a coffee?
Correct: Would you like a cup of coffee?
- Articles a / an / the
ด้วยความที่ภาษาไทยของเรานั้นไม่มีการใส่ Articles หรือคำนำหน้าคำนาม ทำให้บางทีผู้สอบ IELTS มักจะสับสนว่าควรใช้ Articles ตอนไหน หรือตัวไหนดี
วิธีใช้ a / an / the
- a / an ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่นับได้ และมีความหมายทั่วไป แบบไม่เจาะจง
- the ใช้นำหน้าคำนามที่เฉพาะเจาะจง หรือ มีสิ่งเดียวในโลก
ตัวอย่างเช่น
- A student needs to study regularly to get a good grade.
(พูดถึงเด็กนักเรียนโดยรวม ๆ)
- The student who is standing in front of the class wants to meet professor John.
(พูดถึงเฉพาะเด็กนักเรียนที่ยืนอยู่หน้าห้องเรียน)
- Subject/verb Agreement
คือการที่ประธานและคำกริยาสอดคล้องกันตามหลักแกรมม่า ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ เราจะต้องใช้คำกริยารูปเอกพจน์ ส่วนใหญ่ที่ผู้สอบ IELTS จะพลาด คือเข้าใจผิดว่าคำนามคำนั้นเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ ทำให้ใช้คำกริยาผิดไปด้วย
ตัวอย่างเช่น
Wrong: This is my GED scores.
Correct: These are my GED scores.
Wrong: Neither students nor their teacher are allowed to enter the museum.
Correct: Neither students nor their teacher is allowed to enter the museum.
(กริยาจะผันตามประธานที่อยู่ใกล้สุด)
- Prepositions
คือ คำบุพบท ที่ทำหน้าที่เชื่อมคำต่อคำ อย่างเช่น คำนาม คำสรรพนาม หรือคำกริยา เพื่อบอก เวลา สถานที่ ตำแหน่ง ทิศทาง วิธีการ ซึ่งคำแต่ละคำก็ใช้ Prepositions ไม่เหมือนกัน ถ้าผู้สอบยังไม่แม่นอาจจะต้องลองดูเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ Prepositions
ตัวอย่างคำบุพบท เช่น in on at ถ้าหากจะใช้ in on at ในการพูดถึงสถานที่ จะมีวิธีการใช้แตกต่างกัน ดังนี้
- In แปลว่า ข้างในของสถานที่ ตึก อาคาร หรือบริเวณสถานที่นั้น ๆ หรือพูดถึงสถานที่ใหญ่ ๆ หรือสถานที่ที่มีพื้นที่ขอบเขต เช่น หมู่บ้าน จังหวัด ประเทศ ทวีป
- On แปลว่า บนสิ่งของ บนถนน/ที่อยู่
- At แปลว่า ที่ ที่ใช้กับจุดใดจุดหนึ่งในสถานที่นั้น ๆ เป็นสถานที่เล็ก ๆ เช่น บ้าน หรือโรงเรียน
- Punctuation
Punctuation หรือเครื่องหมายวรรคตอนมีความสำคัญมาก เพราะมีหน้าที่เพื่อให้เวลาอ่านประโยคภาษาอังกฤษจะได้ไม่สับสน ซึ่งถ้าไม่ใส่เลย หรือใส่ผิดตำแหน่ง ผิดวัตถุประสงค์ จะทำให้ความหมายของประโยคผิดเพี้ยนไปจากเดิม
ตัวอย่างเช่น
Wrong: After studying IELTS at The Planner Education, she went to take the test last week.
Correct: After studying IELTS at The Planner Education she went to take the test last week.
สมัครติว IELTS ที่ The Planner Education เพื่อที่จะได้ไม่พลาดในทุก ๆ แกรมม่าที่สำคัญ ที่อาจจะทำให้เสียคะแนนไปฟรี ๆ ถ้าไม่ทบทวนก่อน The Planner คัดมาแต่เนื้อหาที่ออกสอบบ่อยในข้อสอบ IELTS พร้อมทำโจทย์เพื่อให้นักเรียนคุ้นชินกับข้อสอบมากที่สุด ติวเนื้อหาแน่นครบทั้ง 4 สกิล ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ครบจบพร้อมสอบภายใน 90 ชั่วโมง
สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT/GSAT | ACT | IELTS | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ATS | TU-GET | IB | AP | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!