กว่าจะเป็นการสอบ Digital SAT อย่างทุกวันนี้ได้ การสอบ SAT มีการเปลี่ยนแปลงปรับตัวข้อสอบมาเรื่อย ๆ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย สถานการณ์ปัจจุบัน และปี 2023 เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีแห่งการผันเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของ SAT เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือการปรับรูปแบบข้อสอบใหม่จากการสอบแบบใช้กระดาษมาเป็นการสอบแบบ Digital วันนี้พี่ The Planner จะพาน้อง ๆ ไปย้อนรอยการสอบ SAT ที่ผ่าน ๆ มา ตลอดจนถึง Digital SAT มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
SAT คืออะไร
SAT มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Scholastic Aptitude Test เป็นข้อสอบของสหรัฐอเมริกา จัดสอบโดย College Board ข้อสอบ SAT ใช้ในการยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของสหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศทั่วโลก
วิวัฒนาการของ SAT
SAT เกิดขึ้นในปี 1926 ดัดแปลงข้อสอบมาจาก Army Alpha ซึ่งเป็นการทดสอบ IQ ตรวจสอบความรู้ของทหารเกณฑ์ในกองทัพของสหรัฐอเมริกา ชื่อเดิมของ SAT เคยเรียกว่า Scholastic Assessment Test ต่อมาเรียกกันว่า SAT I Reasoning Test ต่อมาอีกเรียกว่า SAT Reasoning Test จนมาถึงชื่อ SAT ในปัจจุบัน เดิมทีข้อสอบ Sat มี 315 ข้อ เวลาทำข้อสอบทั้งหมด 97 นาที และข้อสอบพาร์ท Verbal กับ Math ไม่ได้แยกส่วนกันเหมือนปัจจุบัน ข้อสอบ SAT มักจะปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวข้อสอบเป็นมาตรฐานวัดเข้าเรียนต่อระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยได้อย่างดีที่สุด
ปี 1994 มีการนำคำถามคำตรงข้ามออก เพิ่มข้อความอ่านให้ยาวขึ้น และอนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขได้
ปี 2005 ให้ความสำคัญกับการเขียนมากขึ้น ไม่ใช่แค่ทักษะที่ใช้ในการเรียนระดับมหาวิทยาลัยเท่านั้นอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทักษะในข้อสอบเพื่อต่อยอดกับอาชีพที่หลากหลายในอนาคตได้
ปี 2009 เปลี่ยนกฎการส่งคะแนนให้สามารถเลือกส่งคะแนน SAT รอบที่ดีที่สุดได้
ปี 2015 College Board จับมือร่วมงานกับ Khan Academy เพื่อจัดสอบ SAT ฟรีในรอบต่าง ๆ
ปี 2016 ปรับเปลี่ยนโครงสร้างข้อสอบและเปลี่ยนวิธีการคิดคะแนน คือเปลี่ยนการคิดคะแนน SAT Verbal และ SAT Math จากเดิมเต็ม 2,400 คะแนน เปลี่ยนมาเป็นเต็ม 1,600 คะแนนแทน
ปี 2021 ยกเลิกการสอบ SAT Subject Test โดยจัดสอบครั้งสุดท้ายไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2021
ปี 2023 เปลี่ยนจากการสอบแบบใช้กระดาษมาสอบแบบ Digital
Digital SAT 2023 เปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง
- เครื่องมือที่ใช้ในการทำข้อสอบ : คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ต ต้องเป็นระบบการทำงาน Mac หรือ Window และสามารถยืมอุปกรณ์จากสถานที่สอบได้ แต่ต้องแจ้งเรื่องไว้ตั้งแต่ตอนลงสมัคร และควรเตรียมสายชาร์จไปเผื่อด้วย
- Blue Book : แอพที่ใช้ในการทำข้อสอบ Digital SAT ควรลงติดตั้งก่อนวันสอบจริง ในแอพ Blue Book สามารถมาร์คข้อสอบข้อที่เราต้องการข้ามไว้ก่อนได้แล้วค่อยกลับมาทำ และมีปุ่ม Break เพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่เวลาในการทำข้อสอบจะไม่หยุดเดิน
- การสอบแบบ Digital จะป้องกันการรั่วไหลของข้อสอบ เพราะผู้ที่เข้าสอบทุกคนจะได้ข้อสอบคนละชุดกัน จึงยากแก้การแชร์คำตอบกัน
- มีระบบชุดข้อสอบที่แตกต่างกัน : ทั้งพาร์ท Verbal และ Math ครึ่งแรกของข้อสอบจะเป็นการวัดความสามารถของผู้ทดสอบ ถ้าได้คะแนนในครึ่งแรกถึง 60% พาร์ทสองจะได้ทำข้อสอบยากขึ้น แต่ถ้าครึ่งแรกทำได้ไม่ถึง 60% พาร์ทสองจะข้อสอบง่ายขึ้น แต่คะแนนรวมจะได้ไม่ถึง 600 คะแนน
- ข้อสอบ SAT ทั้ง Math และ Verbal จะสั้นลงกว่าเดิม และเวลาการทำข้อสอบจะน้อยลงกว่าเดิม
- จะสามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ตลอด ไม่มีการแบ่งเป็นแบบใช้เครื่องคิดเลข และแบบไม่มีเครื่องคิดเลขอีกต่อไป เพราะเครื่องคิดเลขจะถูกติดตั้งมาให้ใน Application ที่ใช้สอบ แต่น้อง ๆ สามารถใช้เครื่องคิดเลขของตัวเองได้
- รู้ผลสอบเร็วขึ้น เพราะเดิมทีข้อสอบ SAT ผู้ทดสอบจะต้องใช้ดินสอ 2B ฝนระบายตัวเลือกที่ถูกต้อง ก่อนที่จะถูกนำไปตรวจด้วยเครื่องตรวจคาร์บอน ซึ่งทำให้ใช้เวลานานในการตรวจเมื่อเทียบกับการตรวจประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์
- ค่าสอบถูกลงกว่าเดิม 10 ดอลลาร์
หากน้อง ๆ เป็นมือใหม่หัดติว SAT สามารถตามไปอ่านบทความ SAT นี้ไม่มี SAD The Planner เปิดลายแทงเตรียมสอบ SAT ครบตั้งแต่ต้น จนจบ Test และ หลังสอบรอบรู้ มีคะแนนสอบ SAT แล้ว เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?
ถึงแม้ว่าการสอบ SAT ปีนี้จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หากลองมองอีกแง่มุมนึง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในครั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น และน่าจะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ อยู่นะคะ คะแนน SAT สำคัญต่อการยื่นเข้าคณะภาคอินเตอร์อย่างมาก เพราะฉะนั้นน้อง ๆ อย่าลืมติดตามข่าวเกี่ยวกับ SAT กันด้วยนะคะ แต่ไม่ว่า SAT จะเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหน The Planner Education ของเราก็ตามทันทุกข่าวสาร ปรับเปลี่ยนการสอน เนื้อหาการติว พร้อมรับมือ Digital SAT น้อง ๆ มาติว SAT ที่สถาบันของเราไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ
สนใจติว IELTS | IGCSE | GED | SAT/GSAT | ACT | A-LEVEL | IB | AP | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!
