ใครที่กำลังติว IELTS หรือหาที่ติว IELTS อาจจะกำลังเจอปัญญหาในข้อสอบพาร์ท Writing ด้วยความที่การเขียนบทความหรือ Essay ภาษาอังกฤษจะมีความเป็นทางการมากกว่าภาษาพูดค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นนอกจากเรื่องคำศัพท์ที่เป็นปัญหาแล้ว อาจจะเป็นเรื่องโครงสร้างของบทความที่ทำให้น้อง ๆ อาจจะสงสัยว่าบทความจะเขียนออกมาในรูปแบบไหนให้มันถูกต้องที่สุด
โครงสร้าง Essay โดยปกติจะมีดังนี้:
- Introduction
- Main Body (2-3 paragraph)
- Conclusion
ซึ่งถ้าน้อง ๆ สามารถเขียนแบ่งแต่ละย่อหน้า (paragraph) ตามโครงสร้างบทความด้านบนก็เริ่มมาถูกทางแล้ว โดยเนื้อหาในย่อหน้าของ Main Body จะแตกต่างกันไปตามประเภทของ Essay ที่น้อง ๆ เขียน หรือตามโจทย์ที่ได้มา
หลัก ๆ แล้วจะมี 5 ประเภทบทความในข้อสอบ IELTS:
- Opinion (Agree or Disagree)
- Discussion (Discuss both views)
- Problem and Solution
- Advantages and Disadvantages
- Direct Question (Two-part Question)
- Opinion Questions (Agree or Disagree)
โจทย์จะให้น้อง ๆ แสดงความคิดเห็นว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับประโยคที่โจทย์ให้มา ซึ่งจะต้องเขียนอธิบายเหตุผลที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยให้ชัดเจน สามารถยกตัวอย่างจากเหตุการณ์จริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แล้วก็ทำให้บทความที่เขียนมีเหตุมีผลมากขึ้น
ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Opinion Questions
- Introduction
- เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
- ทวนคำถาม (optional)
- เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
- Main Body Paragraph 1
- ประโยคหัวเรื่อง หรือแสดงใจความสำคัญของย่อหน้านี้
- อธิบายความคิดเห็นของตัวเอง
- ยกตัวอย่างเพื่อซัพพอร์ตเหตุผลที่เขียน
- Main Body Paragraph 2
- ประโยคหัวเรื่อง หรือแสดงใจความสำคัญของย่อหน้านี้
- อธิบายความคิดเห็นของตัวเอง
- ยกตัวอย่างเพื่อซัพพอร์ตเหตุผลที่เขียน
- Conclusion
- บทสรุปของทั้งหมด สรุปแล้วเราเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร
- Discussion (Discuss both views)
โจทย์จะกำหนด Statement มาให้ 1 หัวข้อ แล้วจะมี ความคิดเห็น 2 ฝั่งที่ขัดแย้งกัน อย่างเช่น ชุด Uniform โรงเรียนทำให้เกิดความเป็นระเบียบ คนบางส่วนเห็นด้วย แต่บางส่วนก็บอกว่าสิ้นเปลือง น้อง ๆ ก็ต้องแสดงความคิดเห็นว่าคิดเห็นอย่างไรกับ 2 ความขัดแย้งนี้ และเราเห็นด้วยกับความเห็นฝั่งไหน พร้อมอธิบายให้ชัดเจน
ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Discuss Both Views Question
- Introduction
- เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
- ทวนคำถาม (optional)
- เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
- Main Body Paragraph 1
- ความคิดเห็นที่ 1
- แสดงความคิดเห็นของตัวเองที่มีต่อความเห็นแรก
- เขียนเหตุผลว่าทำไมถึงเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย
- ยกตัวอย่างประกอบเหตุผลที่เขียน
- Main Body Paragraph 2
- ความคิดเห็นที่ 2
- แสดงความคิดเห็นของตัวเองที่มีต่อความเห็นแรก
- เขียนเหตุผลว่าทำไมถึงเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย
- ยกตัวอย่างประกอบเหตุผลที่เขียน
- Conclusion
- บทสรุปของทั้งหมด สรุปแล้วเราคิดว่าจาก 2 ความขัดแย้ง เราเห็นด้วยกับแบบไหนมากกว่า
- Problem and Solution
เป็นประเภทของ Essay ที่น้อง ๆ จะต้องให้ Solution หรือว่าหนทางแก้ปัญหาในเรื่องที่โจทย์ให้มา Statement ที่โจทย์ให้อาจจะเกี่ยวข้องกับปัญหาทางสังคมโดยรวม ๆ เช่นปัญหาของเด็กสมาธิสั้นลงเพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งน้อง ๆ อาจจะอธิบายเพิ่มเติมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับวิธีแก้ปัญหา หรือ สาเหตุของปัญหา กับวิธีการแก้ปัญหาก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Problem and Solution
- Introduction
- เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
- ทวนคำถาม (optional)
- เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
- Main Body Paragraph 1
- ปัญหาที่ 1
- อธิบายว่าปัญหาคืออะไร
- ปัญหาที่ 2
- อธิบายว่าปัญหาคืออะไร
- Main Body Paragraph 2
- หนทางแก้ปัญหาที่ 1
- อธิบายวิธีแก้ปัญหาเพิ่มเติม
- หนทางแก้ปัญหาที่ 2
- อธิบายวิธีแก้ปัญหาเพิ่มเติม
- Conclusion
- บทสรุปของทั้งหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร และวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคืออะไร
- Advantages and Disadvantages
โจทย์จะให้เราอธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของ Statement อย่างเช่นถ้าโจทย์บอกว่า Gap Year กำลังเป็น Trend ของวัยรุ่นสมัยนี้ นักเรียนเรียน GED มากขึ้น มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร น้อง ๆ ก็จะต้องอธิบายถึงข้อดี 1 พารากราฟ และข้อเสียอีก 1 พารากราฟพร้อมเหตุผลที่จะช่วยซัพพอร์ตความคิดเห็นของน้อง ๆ
ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Advantages and Disadvantages
- Introduction
- เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
- ทวนคำถาม (optional)
- เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
- Main Body Paragraph 1
- 2 ข้อดีของ Statement ที่โจทย์ให้
- อธิบายข้อดีที่ 1
- อธิบายข้อดีที่ 2
- ยกตัวอย่างประกอบเหตุผลที่เขียน
- Main Body Paragraph 2
- 2 ข้อเสียของ Statement ที่โจทย์ให้
- อธิบายข้อเสียที่ 1
- อธิบายข้อเสียที่ 2
- ยกตัวอย่างประกอบเหตุผลที่เขียน
- Conclusion
- บทสรุปของทั้งหมด ข้อดีและข้อเสียของ Statement ที่โจทย์ให้คืออะไร
- Direct Question (Two-part Question)
โจทย์ที่เป็น Direct Question หรือ Two-part Question จะให้ Statement มา 1 หัวข้อ แต่จะถามคำถาม 2 ข้อขึ้นไป ให้น้อง ๆ ตอบให้ครบบทุกข้อ ทีละคำถาม โดยที่คำถามอาจจะเชื่อมโยงกันหรือว่าไม่เชื่อมโยงกันก็ได้
ตัวอย่าง Essay Structure ของบทความแบบ Direct Question
- Introduction
- เปิดหัวเรื่องให้น่าสนใจ
- ทวนคำถาม (optional)
- เล่าถึงใจความสำคัญของบทความที่น้องจะเขียน
- Main Body Paragraph 1
- ตอบคำถามที่ 1
- อธิบายคำตอบที่เขียน
- อธิบายเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่าง
- Main Body Paragraph 2
- ตอบคำถามที่ 2
- อธิบายคำตอบที่เขียน
- อธิบายเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่าง
- Conclusion
- บทสรุปของทั้งหมด สรุปจากคำตอบที่เราเขียนในพรารากราฟที่ 2-3
ไม่ว่าน้อง ๆ จะได้เขียนบทความประเภทไหนก็ต้องคำนึงว่าตอบตรงประเด็นและมีเหตุผลซัพพอร์ตที่หนักแน่นมาอธิบายความคิดเห็นของตัวเอง อาจจะลิสต์เป็นข้อ ๆ ไว้ก่อนแล้วค่อยเขียนออกมาเป็นพารากราฟก็ได้ จะได้ตอบคำถามให้ครบทุกจุดที่โจทย์ถามโดยไม่หลงลืมประเด็นสำคัญ หากมีคลังคำศัพท์ในหัวเยอะก็จะช่วยเพิ่มคะแนนให้น้อง ๆ ได้ IELTS Writing แบนด์สูงได้ แต่เวลาเลือกคำศัพท์มาใช้ ควรมั่นใจกับความหมายของคำนั้น ๆ ด้วย
ที่ The Planner Education มีคอร์สเรียน IELTS ครอบคลุมทั้ง 4 สกิลในข้อสอบ IELTS ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ใครกำลังมองหาที่ติว IELTS เพื่อสอบเข้าคณะอินเตอร์หรือนำคะแนน IELTS ไปใช้เพื่อยื่นเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศ สามารถติดต่อ The Planner Education ได้ทางไลน์ หรือโทรฯ สอบถามได้โดยตรง
สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT/GSAT | ACT | IELTS | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | IB | AP | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!