How To สอบ SAT Verbal อย่างไรให้ได้คะแนนสูงและทันเวลา

ในการสอบ SAT หรือ Scholastic Aptitude Test เพื่อใช้คะแนนเข้ามหาวิทยาลัยในคณะหลักสูตรอินเตอร์ น้อง ๆ หลายคนคงทราบกันมาบ้างแล้วว่าในการสอบนี้ จะต้องเจอเนื้อหาในพาร์ท Math และ Verbal  โดยเฉพาะในการสอบ SAT Verbal หรือ SAT Reading Test และ Writing and Language Test ที่สร้างความกดดันและความกังวลใจให้น้อง ๆ ไม่น้อย เกี่ยวกับการจะสอบอย่างไรให้ทันในระยะเวลาที่กำหนด จากเนื้อหาบทความต่าง ๆ ที่มีให้น้อง ๆ วิเคราะห์มากมาย

วันนี้ พี่ The Planner สถาบันติวสอบ SAT เข้าอินเตอร์ย่านชิดลม จะขอแนะเคล็ดลับบริหารเวลาทำข้อสอบ SAT Verbal อย่างไร ให้ได้คะแนนดีและเป็นการสอบ SAT Verbal ที่ทันเวลา ถ้าอยากรู้คำตอบ ไปอ่านทั้ง 5 วิธีต่อไปนี้พร้อมกันได้เลย

  1. ประเมินเวลาสอบในแต่ละ Section
    ในการสอบ SAT Verbal จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 Section คือ
  • Reading มีคำถามทั้งหมด 52 ข้อ เวลาทำข้อสอบ 1 ชั่วโมง 5 นาที คะแนนเต็ม 400 คะแนน
  • Writing & Language มีคำถามทั้งหมด 44 ข้อ เวลาทำข้อสอบ 35 นาที คะแนนเต็ม 400 คะแนน

เท่ากับว่า น้อง ๆ จะมีเวลาในการทำข้อสอบ SAT Reading 1 นาที 25 วินาที ต่อข้อ และ SAT Writing & Language ใช้เวลาในการทำข้อสอบประมาณ 48 วินาทีต่อข้อนั่นเอง และทั้งนี้ เวลาในการทำข้อสอบของน้อง ๆ ควรต้องหักลบเวลาในการตรวจทานคำตอบของน้อง ๆ เข้าไปด้วย เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

  1. อ่านบทความอย่างเป็นระบบ
    น้อง ๆ รู้จักเทคนิคการอ่านแบบ Skimming และ Scanning หรือไม่?
  • Skimming คือ การอ่านแบบกวาดสายตาทุกพารากราฟ เพื่อเข้าใจภาพรวมของเนื้อหาและเข้าใจ Main idea ของเรื่อง
  • Scanning คือ การอ่านเพื่อค้นหาข้อมูลเฉพาะที่ต้องการ ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อจากที่เราเข้าใจ Main Idea ของเรื่องมาอยู่แล้ว ช่วยให้ตัดข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปได้

ทักษะเหล่านี้ จะช่วยให้น้อง ๆ สามารถค้นพบคำตอบที่โจทย์ต้องการได้เร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาวนอ่านทั้งหมดซ้ำ ๆ เพื่อหาคำตอบเลย

  1. ง่ายข้อไหน ให้ทำข้อนั้นก่อน
    การรู้จัก Move on ไม่ได้เป็นผลดีแค่เรื่องของความรัก เรื่องสอบก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน หากน้อง ๆ เจอโจทย์ยาก หรือต้องใช้เวลานานในการหาคำตอบ น้อง ๆ ก็ควรที่จะไปทำข้อถัดไปที่มีความง่ายกว่า หรือมีโอกาสในการทำได้มากกว่าจะดีกว่า เพราะถ้าเราใช้เวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปกับข้อที่เรายังทำไม่ไหว อาจทำให้ตอนท้าย เราไม่เหลือเวลาในการทำข้อสอบทั้งหมดที่เราอาจมีโอกาสทำได้ได้ทันเวลานั่นเอง
    แต่ทั้งนี้ อย่าลืมว่าถ้าเราข้ามข้อยากข้อไหนไป ให้กลับไปทำในข้อนั้นในตอนท้ายให้ครบด้วย เพราะการได้ตอบ อย่างน้อยก็ยังมีโอกาสได้คะแนนมากกว่าการไม่ได้ตอบอะไรเลย จริงไหม?
  1. ค้นหา Keyword ให้เจอ
    Keyword หรือ คำสำคัญ จะช่วยให้น้อง ๆ จับประเด็นหลัก หรือ Main Idea ของเรื่องได้ถนัดมากขึ้น ซึ่ง Keyword ของเรื่อง สังเกตได้ง่าย ๆ คือ มักจะถูกพูดถึงหรือพบเห็นทั้งในโจทย์และตัวเลือกอยู่ “บ่อย ๆ ” ซึ่งจะช่วยให้น้อง ๆ เห็นคำตอบที่โจทย์ต้องการชัดขึ้น และตัดตัวเลือกหรือข้อที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปได้ง่ายมากขึ้น
    แต่ต้องระวัง บางครั้งอาจมีตัวเลือกลวงคอยมาทำให้ไขว้เขวได้ น้อง ๆ จึงจำเป็นต้องยึดตัว Keyword และ  Main Idea ที่น้อง ๆ จับทางได้แล้วเป็นหลัก พยายามอย่าหลุดประเด็น อะไรที่ Main Idea ไม่ได้โฟกัสหรือกล่าวถึง มันมีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่คำตอบนั้น จะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
  1. ฝึกทำ SAT Past Paper เป็นประจำ
    สิ่งสำคัญในการสอบที่น้อง ๆ มองข้ามไม่ได้ คือการฝึกทำโจทย์ข้อสอบเก่า หรือ SAT Past Paper เป็นประจำจนคุ้นเคย สิ่งนี้ จะช่วยให้น้อง ๆ จับทางข้อสอบในภาพรวมได้ถูกต้องและแม่นยำขึ้น เกิดความคล่องแคล่วในการอ่านและวิเคราะห์โจทย์ โดยเฉพาะหากน้อง ๆ ได้มีการฝึกตะลุยโจทย์ SAT Past Paper กับ พี่ ๆ The Planner ก็จะทำให้น้อง ๆ ได้เทคนิคลัดในการทำข้อสอบจริง รวมถึงได้อัปเดตคลังศัพท์และแนวข้อสอบใหม่ ๆ ให้กับน้อง ๆ ได้มากถึง 24 ชุดเลยทีเดียว
    มั่นใจได้เลยว่าเมื่อน้อง ๆ เรียนจบจากคอร์สติว SAT และคอร์สติว SAT Past Paper ที่ The Planner Education แล้ว จะมีเทคนิคและความรู้ดี ๆ พร้อมต่อการสอบ SAT Verbal และ SAT Math ที่สนามสอบจริงอย่างแน่นอน อีกทั้งยังสามารถปลดล็อกการบริหารเวลาในการสอบให้มีความคล่องแคล่วและรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย หมดกังวลในปัญหาเรื่องการไม่รู้คำตอบหรือสอบ SAT ไม่ทันเวลาไปได้เลย 

สนใจติว A-LEVEL | IGCSE | GED | SAT/GSAT | ACT | IELTS | IB | AP | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 095-726-2666
หรือ LINE: @theplanner

เพิ่มเพื่อน
Tags:

Leave a Reply