เป็นซีรีส์เกาหลีที่ฮิตสุดๆ ในช่วงนี้สำหรับ Start-Up (สตาร์ทอัพ) Original Series จาก Netflix ซึ่งนอกจากจะชวนติดตามด้วยนักแสดงนำซึ่งเป็นที่นิยม ซีรีส์เรื่องนี้ยังมีเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจ Start-Up ซึ่งกลุ่มพระนางของเรื่องมีความโดดเด่นเรื่องการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ประกอบธุรกิจ นำเทคโนโลยีมาใช้เป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้การดำเนินชีวิตประจำวันง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น
ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์โลกในยุคปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่ามีการนำเทคโนโลยี AI และ Automation เข้ามาปรับใช้ในวงการธุรกิจเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกับวิถีชีวิตประจำวัน แต่ยังเกี่ยวเนื่องและส่งผลในด้านการงาน อาชีพ การศึกษา มีงานวิจัยระดับโลกที่บอกว่า Automation จะมาแทนที่งานถึง 40% ของคนในช่วงวัย 18-34 ปี ซึ่งส่งผลโดยตรงกับเด็กจบใหม่ ด้วยสกิลของหุ่นยนต์ที่มีความแม่นยำ ทำงานอึด ถึก ทน จะแย่งงานคนในสายงานต่างๆ ทั้งงานในภาคอุตสาหกรรม, งานบริการ, งาน Data, HR,Finance ฯลฯ ซึ่งไทยมีแนวโน้มที่งานจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์อยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก รองจากอับดับ 1 เอธิโอเปีย และอันดับ 2 จีน
แต่กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราสามารถเอาชนะหุ่นยนต์, AI, Automation ได้ นั่นก็คือ Human Skills หรือ Soft Skills ซึ่งเป็น “ทักษะทางด้านอารมณ์” ที่ต้องมาควบคู่กับการมี Hard Skills ของน้องๆ เพราะ Soft Skills จะช่วยให้น้องๆ รู้จักการทำงานให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาตนเอง และเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น ถ้าใครได้ดูซีรีส์ “Start-Up” จะเห็นได้ชัดว่าการมี Hard Skills อย่างเดียวคงไม่พอ ดังนั้นเรามา “แกะรอย Soft Skills ทักษะที่จะเอาชนะโลกอนาคต” ไปพร้อมๆ กันเลย
- Creative and Innovation สร้างสรรค์พร้อมสร้างสิ่งใหม่ๆ
เพราะแค่สกิลนักประดิษฐ์จากสามหนุ่ม Samsan Tech คงยังไม่พอที่จะสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงได้ เราจึงเห็นได้ว่าในซีรีส์มักจะมีการ brainstorm ระดมความคิดว่าสิ่งประดิษฐ์ใดที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงทำเงินให้บริษัทได้ ความคิดสร้างสรรค์และการกล้าคิดนอกกรอบจึงเป็นสกิลสำคัญที่เราควรมี เพราะแรงบันดาลใจมักจะอยู่รอบๆ ตัว อยู่ที่ว่าเราจะหยิบมันมาใช้อย่างไร และสร้างประโยชน์จากมันอย่างไร ใครที่เริ่มคิดได้ก่อนย่อมได้เปรียบอย่างแน่นอน
- Communication Skills การสื่อสารอย่างมีคุณภาพ
การสื่อสารคือทักษะที่สำคัญอย่างมากในการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพใดก็ตาม ทั้งการสื่อสารภายในองค์กรที่ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น และการนำสารขององค์กรออกไปสื่อสารสู่โลกภายนอก ดังที่เราเห็นจากในซีรีส์การสื่อสารภายในที่สำคัญยังมาพร้อมกับการสื่อสารขององค์กร เช่นสกิลการพรีเซนต์ผลงานของประธานดัลมี หรือประธานอินแจ ที่สร้างความประทับใจให้คนทั้งงาน หรือการติดต่อเพื่อนำเสนอแอปพลิเคชัน ‘นุนกิล’ ให้กับบริษัทที่สนใจทำโครงการเพื่อสังคมก็เป็นส่วนสำคัญในการนำพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จ
- Language Skills ภาษาเปิดกว้างการเรียนรู้
ประธานวอนอินแจมีความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเนื่องจากได้ไปเรียนที่อเมริกาตั้งแต่เด็ก เมื่อเทียบกับประธานซอดัลมีที่เลือกอยู่เกาหลีกับพ่อ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าอินแจมีภาษีที่ดีกว่า มีเพื่อนและคอนเนคชั่นที่เป็นคนต่างชาติที่ทำให้เข้าใกล้ความสำเร็จได้มากกว่าดัลมีอย่างน้อย 1 สเต็ป ทักษะในด้านภาษาจึงจำเป็นอย่างมากในยุคนี้และจะยิ่งมากขึ้นในอนาคตที่การติดต่อสื่อสารเกิดขึ้นอย่างไม่มีข้อจำกัด และการมีสกิลภาษายังเป็นโอกาสให้เราเข้าถึงองค์ความรู้ที่เป็นภาษาต่างประเทศได้อย่างเปิดกว้าง
- Leaderships and Management ภาวะผู้นำและการจัดการ
ประเด็นนี้ถูกหยิบมาเป็นเหตุการณ์สำคัญหลายๆ ครั้งในเรื่อง ด้วยตัวประธานซอดัลมีที่ต้องรับหน้าที่พา Samsan Tech ไปสู่ความสำเร็จ ระหว่างนั้นต้องเจอกับอุปสรรคอยู่หลายอย่าง ทั้งเพื่อนร่วมงาน บริษัทคู่แข่ง การหาเงินทุน การแบ่งหุ้น ฯลฯ แต่ประธานซอดัลมีมักจะก้าวผ่านทุกเหตุการณ์ไปด้วยการตัดสินใจที่เฉียบขาด ซึ่งมาพร้อมกับการรับฟังคนในทีมและการเปิดใจพร้อมเรียนรู้อยู่เสมอ ทักษะนี้รวมถึงทักษะอื่นที่กล่าวไปข้างต้นเป็นสกิลที่ทำให้เราอยู่เหนือกว่า AI, Automation จึงเป็นทักษะที่จะพาเราเอาตัวรอดในอนาคตนั่นเอง ?
อนาคตที่เราพูดถึงอาจอยู่ไม่ไกลจากนี้แล้ว น้องๆ ต้องเปิดกว้างพร้อมเรียนรู้ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เพราะอาจจะมีสายงานใหม่ๆ ให้ได้เลือกเรียน อาชีพใหม่ๆ ที่มารองรับการพัฒนา ยิ่งเราประสบความสำเร็จได้ก่อนใครยิ่งได้เปรียบ The Planner Education พร้อมช่วยน้องๆ วางแผนด้านการเรียนต่อในคณะอินเตอร์ กับคอร์ส GED IGCSE A-Level SAT IELTS และอีกมากมายที่จะช่วยให้น้องๆ พิชิตเป้าหมายด้วยการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ สามารถสอบถามข้อมูลคอร์สได้ที่ Line Official @theplanner
