“เรียนต่อคณะอินเตอร์” ช่วยเปิดโลกการศึกษาและการทำงานให้กว้างขึ้น คำพูดนี้ไม่เกินจริงสำหรับการศึกษาและการทำงานในยุคปัจจุบัน เนื่องจากคณะอินเตอร์หรือมหาวิทยาลัยที่สอนหลักสูตรนานาชาติ จะมีการเรียนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษและหลายหลักสูตรมีการปรับให้เข้ากับการทำงานในระดับสากล ทำให้น้อง ๆ ที่เรียนจบในคณะอินเตอร์ จะมีโอกาสได้เข้าทำงานและพัฒนาอาชีพของตนเองได้หลากหลายกว่าการเรียนคณะภาคไทย
แน่นอนว่า นักเรียนที่ยื่นคะแนนเข้าคณะหรือมหาวิทยาลัยอินเตอร์ส่วนใหญ่ เป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ หรือนักเรียนสายเทียบวุฒิที่เป็นหลักสูตรอินเตอร์ เช่น หลักสูตร GED หรือ หลักสูตร A-LEVEL เป็นต้น แล้วถ้าน้อง ๆ ที่เรียนจบหลักสูตรสายสามัญหรือภาคไทยและมีฝันอยากเรียนต่อคณะอินเตอร์ ต้องทำอย่างไร? วันนี้มาดูคำตอบเหล่านั้นกัน
มีวุฒิการศึกษาระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า
ปกติแล้วแทบทุกคณะและหลักสูตรที่เป็นนานาชาติ จะใช้เกณฑ์พิจารณาวุฒิการศึกษาในรูปแบบที่คล้ายกัน สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนจบในระบบการศึกษาของประเทศไทยหรือหลักสูตรสายสามัญ น้อง ๆ สามารถใช้วุฒิยื่นเข้ากับคณะหรือหลักสูตรอินเตอร์นั้น ๆ ได้เลย แต่ทั้งนี้ บางหลักสูตรอาจจะต้องมีการพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของผลเกรดวิชาภาษาอังกฤษหรือวิชาคณิตศาสตร์และอื่น ๆ ตามที่น้อง ๆ ได้เรียนในภาคไทยด้วย ดังนั้นแนะนำว่าควรทำเกรดวิชาที่จำเป็นต้องใช้ในคณะที่ต้องการยื่นเข้าไว้ให้ดี
ผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษ อย่างใดอย่างหนึ่ง
สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนจบหลักสูตรไทยและอยากยื่นคะแนนเข้าเรียนต่อในคณะอินเตอร์ทุกคน จะต้องสอบผ่านหรือมีผลคะแนนการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ เช่น IELTS หรือ TOEFL เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าน้อง ๆ มีทักษะทางภาษาอังกฤษที่มากพอ ที่จะสามารถเรียนในคณะหรือหลักสูตรอินเตอร์ได้อย่างไม่เป็นอุปสรรค เนื่องจากระบบการเรียนการสอนของหลักสูตรอินเตอร์หรือคณะอินเตอร์จะเป็นภาษาอังกฤษล้วน ซึ่งเกณฑ์ส่วนใหญ่ที่หลายคณะอินเตอร์กำหนดไว้ เช่น IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0, TOEFL ไม่ต่ำกว่า 79, SAT Verbal ไม่ต่ำกว่า 450 หรือ CU-TEP+Speaking ไม่ต่ำกว่า 111 เป็นต้น
ผ่านการทดสอบวิชาพื้นฐานหรือวิชาเฉพาะ อย่างใดอย่างหนึ่ง
สำหรับการยื่นเข้าเรียนคณะหรือหลักสูตรอินเตอร์ บางที่จำเป็นต้องมีคะแนนสอบเฉพาะหรือพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรการเรียนการสอนนั้น ๆ อยู่ด้วย เช่น หากน้อง ๆ อยากจะเข้าเรียนในหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติ (ISE) ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกเหนือจากผลการทดสอบภาษาอังกฤษแล้ว น้อง ๆ จะต้องมีผลการทดสอบทางคณิตศาสตร์ เช่น SAT Math ไม่ต่ำกว่า 620, ACT Math ไม่ต่ำกว่า 26 หรือ มีผลสอบ CU-AAT Math ไม่ต่ำกว่า 480 อีกด้วย (อ้างอิงจากเกณฑ์ปี 2565)
นอกจากนี้ ก็อาจจะต้องมีคะแนนสอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น วิทยาศาสตร์, ฟิสิกส์ หรือเคมี ที่ใช้พิจารณาเพิ่มเติมกรณีน้อง ๆ ต้องสมัครเข้าเรียนในคณะหรือหลักสูตรอินเตอร์ที่ต้องการ ทั้งนี้น้อง ๆ ต้องตรวจสอบเกณฑ์หรือ Requirement ของคณะที่น้อง ๆ จะเข้าไว้ก่อนให้ดี เพื่อที่จะได้วางแผนติวสอบและเข้าสอบในวิชาที่ต้องใช้ต่อไป
ยังคงต้องเข้าระบบ TCAS เหมือนหลักสูตรภาคไทย
สำหรับน้อง ๆ นักเรียนสายสามัญหรือภาคไทย ถึงแม้น้อง ๆ จะไม่ได้สอบข้อสอบกลาง เช่น TGAT – TPAT หรือไม่ต้องการเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรอุดมศึกษาภาคไทยแล้ว ยังไงน้อง ๆ ก็ยังคงต้องสมัครและกรอกข้อมูลลงในระบบ TCAS หรือระบบกลางการรับเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ดี เนื่องจากระบบ TCAS นี้จะเป็นระบบที่น้อง ๆ ทุกคนจะต้องยืนยันสิทธิ์การเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยที่น้อง ๆ เลือก กรณีน้อง ๆ ผ่านการคัดเลือกแล้ว ยกเว้นแต่ว่าน้อง ๆ ที่เลือกเรียนต่อกับมหาวิทยาลัยเอกชน จะไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเข้าระบบ TCAS นั่นเอง
อ่านบทความ The Planner Education สอนสดข้อสอบอินเตอร์ คลิกที่นี่
ไม่ว่าจะเป็นน้อง ๆ ที่เรียนในสายสามัญ นานาชาติหรือเทียบวุฒิ หากน้อง ๆ กำลังมองหาสถาบันติวข้อสอบเข้าคณะอินเตอร์ดี ๆ เดินทางง่าย เรียนแล้วได้คะแนนสูงในราคาที่สมเหตุสมผล สถาบัน The Planner Education คือ สถาบันติวสอบอินเตอร์อันดับ 1 ในดวงใจของน้อง ๆ ด้วยระบบการสอนที่มีคุณภาพ ครบทุกคอร์สติวสอบเข้าคณะอินเตอร์ที่น้อง ๆ ตามหา รวมถึงการบริการแบบครบครันในที่เดียว การันตีผลลัพธ์สุดประทับใจด้วยน้อง ๆ ศิษย์เก่าที่สอบผ่านและเข้าคณะในฝันได้แล้วมากกว่า 2,000 คน
มั่นใจ… เลือกติวสอบอินเตอร์ที่ The Planner ไม่มีผิดหวังแน่นอน
สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT/GSAT | ACT | IELTS | IB | AP | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ARTS | TU-GET | Academic Writing ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!
