เอาชนะพาร์ท Speaking ไม่หินอย่างที่คิด!
ข้อสอบ IELTS พาร์ท Speaking เป็นพาร์ที่นักเรียนมักจะแอบกังวล เพราะต้องประจันหน้ากับผู้คุมสอบแบบตัวต่อตัว ซึ่งก่อให้เกิดอาการมือสั่น ปากไม่ขยับ เหงื่อตก ? เพราะความตื่นเต้นกลัวว่าจะพูดอะไรผิดๆ ถูกๆ แล้วส่งผลต่อคะแนน วันนี้ The Planner Education จึงขอหยิบยกวิธีการเตรียมตัวก่อนไปสอบ IELTS ในหัวข้อ “How to Prepare for IELTS Speaking เอาชนะพาร์ท Speaking ไม่หินอย่างที่คิด!”
ทำความเข้าใจ Speaking Test Format
ก่อนอื่นเรามาอินโทรทำความเข้าใจรูปแบบของการสอบกันก่อนนะคะ ข้อสอบพาร์ทนี้จะวัดทักษะการพูดและการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษของเรา โดยแบ่งย่อยออกเป็น 3 พาร์ท และจะใช้เวลาประมาณ 11 – 14 นาทีในการทดสอบ
Part 1 Interview (เวลาประมาณ 4-5 นาที) ข้อนี้จะบอกว่าเป็นการอุ่นเครื่องผ่อนคลายก็ได้ค่ะ ผู้คุมสอบจะถามเราเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวและครอบครัว อาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับการศึกษางานอดิเรกต่างๆ ให้เราสามารถตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติและไม่ตึงเครียดจนเกินไป
Part 2 Cue Card (เวลาประมาณ 3-4 นาที) ในส่วนนี้เราจะได้การ์ดที่มี Topic อยู่ค่ะ หลังจากเราได้หัวข้อแล้วเราจะมีเวลา 1 นาทีพร้อมกระดาษโน๊ตและปากกาเพื่อโน๊ตหัวข้อที่เราจะพูด ในส่วนนี้จะผู้คุมสอบจะปล่อยให้เราได้อธิบายซึ่งเราควรใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที หากพูดเกินผู้คุมสอบจะส่งสัญญานให้เราหยุด เช่นเดียวกันถ้าเราพูดไม่ถึงนาทีก็จะให้เราได้พูดต่อ
Part 3 Discussion (เวลาประมาณ 4-5 นาที) ข้อสองคือการตอบแบบเรื่องใกล้ตัวแต่ในข้อนี้คำถามในข้อสองจะถูกขยายให้เป็นพาร์ทใหญ่และเป็นนามธรรมขึ้น ซึ่งข้อนี้นักเรียนมักจะพบว่าเป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ เพราะจะมีการพูดคุยถามตอบกันอย่างจริงจัง ผู้คุมสอบจะประเมินความสามารถในการเล่าเรื่อง ความเชื่อมโยง สถานการณ์สมมติหรือการเปรียบเทียบต่างๆ
เกณฑ์การให้คะแนน
- ความคล่องแคล่วในการสื่อสารและการเชื่อมโยงเนื้อหา
- ใช้ศัพท์ที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม
- ความแม่นยำของไวยากรณ์
- การออกเสียง
ตั้งเป้าหมายและสำรวจตัวเอง
เชื่อว่าทุกคนที่วางแผนสอบ IELTS ต้องมีเป้าหมายของตัวเองอยู่แล้วแน่นอน แต่เป้าหมายในที่นี้มาพร้อมกับการสำรวจและวัดผลตัวเอง เพื่อให้เราได้พัฒนาตัวเอง อย่างเช่นการฝึกฝนจริงกับติวเตอร์สอน IELTS และให้ติวเตอร์ช่วยประเมินผลว่าตอนนี้เราอยู่แบนด์ไหนกันนะ? ข้อนี้จะช่วยให้เราเห็นข้อบกพร่องของตัวเองได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนเราจะสามารถตั้งเป้าหมายเพื่อพัฒนาตัวเองก่อนไปสู่สนามสอบจริง
ทำภาษาอังกฤษให้เป็นชีวิตประจำวัน
เพราะนอกจากการอ่านตำราจำหลักไวยากรณ์แล้ว สิ่งสำคัญของภาษาอังกฤษคงหนีไม่พ้นการใช้จริง ยิ่งการที่เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษกับเรื่องราวในชีวิตประจำวันได้จะทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น ฟังข่าวภาษาอังกฤษ, ชาเลนจ์พูดภาษาอังกฤษกับเพื่อน 30 นาที, ฟัง Podcasts ภาษาอังกฤษในหัวข้อที่สนใจ, ดูหนังหรือซีรีส์ภาษาอังกฤษ, เปลี่ยนการนั่งอ่านหนังสือกับเพื่อน มาเล่นเกมจับการ์ด Topic แล้วพูดใน 2 นาที สิ่งเหล่านี้คือการทำให้ภาษาอังกฤษมาอยู่ใน daily routine
ฝึกพูดในสถานการณ์จริง
หลักการฝึกฝนที่สำคัญสำหรับพาร์ท Speaking ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นคือการใช้จริง แต่สำหรับการสอบให้ผ่านแค่ใช้จริงอาจไม่พอ เราจึงควรฝึกซ้อมให้เหมือนสถานการณ์จริงไม่ใช่ฝึกแค่กับแนวข้อสอบเดิม หาคนฝึกภาษาอังกฤษด้วยและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เราสนใจวิธีนี้จะฝึกให้เราพูดได้คล่องแคล่วมากขึ้น Speaking Test ของ IELTS มักจะถูกถามเกี่ยวกับเรื่องอดีต/ปัจจุบัน/อนาคต ความคิดเห็นและสถานการณ์สมมติ ดังนั้นจึงควรเรียนรู้ Grammar และประโยคต่างๆ ที่มักจะถูกนำมาใช้ในสถานการณ์นี้
ฝึกขยายคำตอบ
การตอบสั้นๆ ทำให้ได้คะแนนน้อยเพราะแสดงให้เห็นว่าเราฝึกฝนมาไม่มากพอ ทั้งที่จริงๆ แล้วก็อาจจะเกิดจากการประหม่าร่วมด้วยเช่นกัน ดังนั้นน้องๆ จึงต้องจดจำหลักการการขยายคำตอบเอาไว้ให้แม่นยำ ยกตัวอย่างคำถามเช่น ‘Who is the kindest person you know?’ ถ้าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ได้มีการประเมินผลเราก็อาจจะตอบสั้นๆ ว่า แม่ หรือ พ่อ แต่ในสนามสอบจำเป็นต้องขยายคำตอบให้มีเรื่องราวมากขึ้น โดยอาจใช้หลักการ A-E-E (Answer-Explain-Example) ตอบ – อธิบาย – ยกตัวอย่าง “แม่ของฉันคือคนที่ใจดีที่สุด เพราะแม่มักจะคอยปลอบใจในวันที่ฉันทำพลาด เช่น (ยกตัวอย่างสถานการณ์)…”
คอร์สเรียน IELTS ที่เดอะ แพลนเนอร์ เป็นคอร์สระยะสั้นที่เน้นการติวสอบอย่างเข้มข้น ทุกๆชั่วโมงในคลาสเรียน IELTS ผู้เรียนจะได้เรียนจากเนื้อหาที่ออกข้อสอบประจำ ซึ่งทางสถาบันจะคัดเลือกเนื้อหาให้ตรงกับข้อสอบมากที่สุด พร้อมเรียนเนื้อหาการสอบที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนได้เตรียมตัวครบทุกด้านก่อนลงสนามจริง
นอกเหนือจากนั้นคอร์สติว IELTS ของที่นี่ จะเน้นการตอบให้ได้คะแนนในทุกๆข้อ เน้นการหาคำตอบด้วยเทคนิคเฉพาะพาร์ท และที่สำคัญ ทุกคอร์สจะเน้นวิธีทำข้อสอบ ตั้งแต่การตีความโจทย์ จนกระทั่งการใช้คำศัพท์ที่เพิ่มคะแนนได้ ในรูปแบบที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การให้คะแนนของ IELTS