สวัสดีครับ วันนี้เรามาดูภาษาอังกฤษในบทเรียน SAT Passage-based Reading and Writing กันนะครับ หากเราต้องการที่จะบรรยายเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นหรือเล่าเหตุการณ์ในอนาคต เราสามารถใช้โครงสร้างประเภท Future Tense มาช่วยประกอบการบรรยายได้ แต่ทราบกันไหมครับว่าอันที่จริงอนาคตในภาษาอังกฤษมีวิธีเล่าทั้งหมดถึง 4 แบบด้วยกัน แต่วันนี้พี่จะมาสอนวิธีการใช้รวมทั้งเปรียบเทียบความแตกต่างของ Future Simple กับ Future Perfect ให้น้องฟัง เพราะข้อสอบและบทเรียน SAT พาร์ท English ชอบทดสอบว่าน้องสามารถแยกแยะและใช้งาน Tense คู่นี้ได้หรือเปล่า
ปกติแล้วเรามักจะใช้ Future Tense ในการบรรยายเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น เพียงแต่ผู้พูดวางแผนหรือคาดการณ์ว่าเหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งหัวใจสำคัญของ Tense นี้คือคำว่า “will” (จะ) และอย่าลืมนะหลัง will ต้องตามด้วย Infinitive Verb เสมอ ( Verb ไม่ผันและห้ามเติม -s/-es/-ed หรือ -ing ต่อท้ายเด็ดขาด!) เช่น will be, will have และ will become
แม้ทั้งสอง Tense จะใช้บอกการกระทำในอนาคตแต่ก็ใช้งานในบริบทแตกต่างกัน พี่อยากให้น้องท่องความต่างว่า “Future Sim ใช้คาดการณ์ว่าเหตุการณ์จะเกิด แต่ Future Per ใช้คาดการณ์ว่าเหตุการณ์จะจบเมื่อไหร่” ติว SAT English อย่าลืมดูบทนี้กันด้วยนะครับ
– โครงสร้างของ Future Simple คือ S +will + V.Infinitive. (มักมีคำบอกว่าเวลาในอนาคตปรากฏอยู่ด้วยเช่น tomorrow, next week หรือ in the future)
Next week, the government will launch new social programs to help those who got affected by the COVID-19 situation. (สัปดาห์หน้ารัฐบาลจะนำเสนอนโยบายใหม่เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 – ยังไม่ได้ทำแค่วางแผนว่าจะทำ)
– โครงสร้างของ Future Perfect คือ S +will have + V. Infinitive. (มักมีคำว่า “by/within” แปลว่า “ภายใน” ปรากฏอยู่ในประโยคเพื่อบอกระยะเวลาว่าเหตุการณ์จะเกิดภายในช่วงเวลาใด เช่น by tomorrow และ by this Thursday)
By the end of this year, some health institutes will have developed a vaccine to kill the Corona Virus. (ภายในสิ้นปีนี้ สถาบันสุขภาพบางแห่งน่าจะสมารถพัฒนาวัคซีนที่จะใช้กำจัดไวรัสโคโรนาได้สำเร็จ – คาดการณ์ว่าการกระทำ หรือ เหตุการณ์จะเสร็จสิ้น/จบลงตอนปลายปี)
ทีนี้เมื่อเราติว SAT English กันเราลองมาเปรียบเทียบสองโครงสร้างในบริบทที่ใกล้เคียงกันไปเลยดีกว่าจะได้เห็นภาพ เพื่อที่เราจะได้คะแนนที่ดีขึ้นเมื่อสอบ SAT
The plane will fly to Germany next month.
The plane will have flown to Germany by next month.
ประโยคที่หนึ่งหมายถึง “เครื่องบินจะเริ่มออกเดินทางเดือนหน้า” (เล่าว่าเหตุการณ์จะเกิด) แต่ประโยคที่สองสื่อว่า “เครื่องบินน่าจะไปถึงเรียบร้อยภายในเดือนหน้า” (เล่าว่าเหตุการณ์จะจบ)
พี่ว่าทุกคนจะพอเข้าใจความแตกต่างของ Tense นี้กันแล้วนะครับ ในข้อสอบ SAT พาร์ท English หรือ Passage-based Reading and Writing มีแน่นอนครับ ต่อไปนี้ก็อยู่ที่ทุกคนแล้วว่า You will review the lesson today. หรือ You will have reviewed the lesson by today พี่หวังว่าน้องจะเลือกประโยคที่สองนะครับ เพราะหากมัวแต่คิดว่าจะทำอาจไม่ทัน สู้พยายามทำให้เสร็จภายในวันนี้ไปเลยดีกว่าจะได้ไม่เผลอผัดวันประกันพรุ่ง