น้อง ๆ หลายคนที่อยากเข้ามหาวิทยาลัยคณะอินเตอร์ที่กำลังเตรียมคะแนน SAT เพื่อยื่นเข้ามหาวิทยาลัย อยากรู้หรือไม่? ต้องทำยังไงถึงจะสอบ SAT ได้คะแนน 1400++ บล็อกนี้ The Planner พาน้อง ๆ ลูกศิษย์คนเก่งมาแชร์เคล็ดลับอ่านหนังสือสอบยังไงให้ได้คะแนน SAT สูง
เคล็ดลับติวสอบ SAT ให้ได้คะแนน 1400++ ฉบับน้อง ๆ The Planner
1. ตั้งเป้าหมาย วางแผนในการสอบ และการอ่านหนังสือ
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อเริ่มเตรียมตัวสอบ SAT น้อง ๆ ควรตั้งเป้าหมายคะแนนที่ต้องการให้ชัดเจน โดยดูจากคะแนนขั้นต่ำที่มหาวิทยาลัย หรือคณะที่น้อง ๆ ต้องการสมัครกำหนดไว้ เพื่อให้มีทิศทางที่ชัดเจนว่าควรทำคะแนนให้ได้เท่าไร จากนั้นจึงวางแผนการติว SAT การทบทวนบทเรียน หรือการหาคอร์สติว SAT และควรจัดเวลาสำหรับการอ่าน และฝึกทำข้อสอบทุกวัน เพื่อให้แน่ใจว่าน้อง ๆ มีความพร้อม และความมั่นใจในการสอบ
2. ทำความเข้าใจโครงสร้างข้อสอบ SAT
ทำความเข้าใจโครงสร้างข้อสอบ SAT โดยข้อสอบจะมีการแบ่งเนื้อหาการสอบออกเป็น 2 วิชา คือ ภาษาอังกฤษ (Evidence-Based Reading & Writing) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) ดังนี้
Evidence-Based Reading & Writing คะแนนเต็ม 800 คะแนน ใช้เวลา 1 ชม. 40 นาที แบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ชุด คือ
- Reading มี 52 ข้อ
- Writing and Language มี 44 ข้อ จาก 4 บทความ
Mathematics คะแนนเต็ม 800 คะแนน ใช้เวลา 1 ชม. 20 นาที โดยจะมีทั้งรูปแบบที่เป็น Choice และ แบบเติมคำตอบ
- Math Test – Calculator มี 38 ข้อ โดยสามารถใช้เครื่องคิดเลขช่วยในการคำนวณได้
- Math Test – No Calculator มี 20 ข้อ โดยห้ามใช้เครื่องคิดเลข
3. หาเพื่อนช่วยติว
หาเพื่อน หรือ คุณครูช่วยในการติวสอบ SAT เพื่อช่วยพัฒนาทักษะ และจุดอ่อนให้ดีขึ้น โดยน้อง ๆ ที่เรียนที่ The Planner ไม่ว่าจะเป็นคอร์ส SAT Content, SAT Paper Practice, SAT Fast Track น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เคล็ดลับต่าง ๆ ที่ใช้ในการสอบ SAT แบบที่น้อง ๆ จะไม่สามารถหาเคล็ดลับนี้ได้จากที่ไหน
“ผมรู้สึกว่าคอร์ส SAT นะครับ คุณครูก็สอนแบบพวกโจทย์ได้ดี โจทย์ปัญหาต่าง ๆ ก็แก้ได้อย่างชัดเจน แล้วก็ตรงไหนที่ผมไม่เข้าใจผมสามารถยกมือถามคุณครูได้ คุณครูก็จะเข้ามาแล้วก็มาช่วยเหลือผมแบบส่วนตัวเลยครับ” – น้องไฟโต, อายุ 16 ปี
“For English, the teacher advised us to focus on the question first, then skim the passage to save time. For math, the teacher showed us tricks and efficient methods to solve problems.(สำหรับวิชาภาษาอังกฤษ คุณครูแนะนำให้โฟกัสที่คำถามก่อน แล้วค่อยอ่านบทความแบบคร่าว ๆ เพื่อประหยัดเวลา ส่วนวิชาคณิตศาสตร์ คุณครูสอนเทคนิค และวิธีแก้โจทย์อย่างถูกต้อง และสามารถใช้ได้จริงครับ)” – น้องเต็ง, อายุ 16 ปี
“ทริคที่ครูสอนจะเป็นเรื่องการบริหารเวลาครับ ก็คือครูเขาจะให้ลองทำเป็นเหมือนลองทำโจทย์จริง ๆ เลย แล้วก็มีการจับเวลาด้วย เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าพาร์ทนี้ควรใช้เวลาเท่าไหร่ อีกพาร์ทหนึ่งใช้เวลาเท่าไหร่ ซึ่งมันทำให้ผมได้คุ้นชินกับการทำข้อสอบจริง แล้วพอไปทำมันก็ไม่ตื่นเต้น แล้วก็สามารถจัดการบริหารเวลาได้ดีขึ้นครับ” – น้องเปตอง, อายุ 18 ปี
“For the SAT, I don’t practice much on my own. But having a teacher and others around pushed me to try, so I completed many questions, which helped me prepare for the actual test. (สำหรับ SAT ผมไม่ได้ฝึกทำโจทย์เองมากนัก แต่พอมีครู และเพื่อนคนอื่น ๆ ทำไปด้วยกัน มันช่วยกระตุ้นให้ลงมือทำ และก็ได้ทำโจทย์เยอะขึ้นมาก ซึ่งช่วยเตรียมตัวสำหรับสอบจริงได้มาก ๆ เลย)” – น้องฮับ, อายุ 17 ปี
“คุณครูเขามีทริคแบบว่าไฮไลท์จุดสําคัญในหนังสือค่ะ เขาก็จะเน้นย้ำเรื่องที่ออกสอบบ่อย ๆ เขาก็จะให้เป็นคีย์เวิร์ดมาว่าอันนี้ก็จะส่วนใหญ่ถามเป็นอย่างนี้ค่ะ แล้วครูเขาก็จะสรุปเนื้อหารวม ๆ ไม่ได้พาอ่านทั้งหน้าค่ะ ไม่ทําให้บรรยากาศตึงเกินไป” – น้องณัชชา, อายุ 17 ปี
“หลังจากมาเรียนที่ The Planner ก็คือครูเขาก็สอนว่า ข้อแนวนี้มันจะต้องคิดยังไงแล้วก็มีสูตรยังไงบ้าง หรือว่ามีเทคนิคยังไงบ้างที่สามารถทำข้อสอบให้เร็วขึ้นค่ะ ส่วนภาษาอังกฤษก็ส่วนใหญ่เป็น Pattern เดิมอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ แกรมม่าก็เป็นไวยากรณ์แบบเดิมอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็คือถ้าสมมุติท่องได้หรือว่าจำขึ้นใจได้แล้วก็คือตอบได้ค่ะ” – น้องกระปุก, อายุ 17 ปี
“ถ้าเป็นวิชาคณิต คุณครูเขาก็จะสอนให้อ่านโจทย์เฉพาะที่เป็นจุดสำคัญ เพื่อที่จะให้ลดเวลาในการทำโจทย์ข้อนั้น ๆ ครับ ส่วนถ้าเป็นภาษาอังกฤษ คุณครูก็จะสอนให้อ่านโจทย์ให้เข้าใจก่อนแล้วก็ให้หาความสัมพันธ์ระหว่าง Passage กับโจทย์ครับ” – น้องคีน, อายุ 17 ปี
น้อง ๆ ที่อยากมีเพื่อนช่วยติวเตรียมความพร้อมพาน้อง ๆ สอบ SAT ได้คะแนน 1400+ สามารถปรึกษาพี่แอดมินได้ที่ ปรึกษาพี่แอดมิน
4. ฝึกทำโจทย์ ทำความเข้าใจกับความผิดพลาด และหาวิธีคิดที่เหมาะสมกับแต่ละข้อ
การฝึกทำโจทย์นอกจากจะเป็นกระบวนการที่สำคัญในการสอบ SAT ก็ยังสามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา โดยเฉพาะสำหรับการเตรียมตัวสอบ SAT ซึ่งต้องการความแม่นยำ และความรวดเร็วในการทำโจทย์ นอกจากการหาคำตอบที่ถูกต้องแล้ว การทำความเข้าใจกับความผิดพลาด หรือจุดอ่อนที่เกิดขึ้นยังเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะเราสามารถนำมาแก้ไขข้อบกพร่องในการสอบ และหาวิธีคิด หรือแนวทางที่เหมาะสมกับการทำข้อสอบ หรือโจทย์แต่ละข้อ
5. เตรียมตัวล่วงหน้า
แนะนำให้น้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ SAT พยายามเตรียมตัวล่วงหน้า อย่ารอจนใกล้เวลาแล้วถึงค่อยมาอ่านหนังสือ เพราะจะทำให้น้อง ๆ อ่านหนังสือไม่ทัน จนทำให้เวลาน้อง ๆ ไปสอบ SAT อาจจะเกิดอาการประหม่า ตื่นเต้น จนทำให้ทำข้อสอบออกมาได้ไม่ดี เพราะฉะนั้น นอกจากน้อง ๆ ต้องเตรียมตัวในการจัดสรรตารางเรียน วางแผนในการอ่านหนังสือล่วงหน้า และพยายามหาเวลาเพื่อกลับมาทบทวนบทเรียนอยู่เสมอแล้ว น้อง ๆ สามารถหาที่เรียนเพื่อช่วยให้น้อง ๆ เตรียมตัวในการสอบ SAT ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากน้อง ๆ มีการทบทวนบทเรียน และมีเพื่อนช่วยน้อง ๆ ติวก็จะทำให้สามารถจำเนื้อหาที่เรียน จนสามารถนำไปใช้ในการสอบได้ดีมากขึ้นเช่นกัน
น้อง ๆ ที่กำลังหาที่ติว SAT เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอินเตอร์ยอดฮิตของประเทศไทย หรืออยากอัปคะแนน SAT 1400+ สามารถปรึกษาพี่ ๆ แอดมินได้ที่ ปรึกษาพี่แอดมิน หรือแอดไลน์ @theplanner
สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT | IELTS | ACT | GSAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ATS | TU-GET | IB | AP | Academic Writing
ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!