SAT English : Future Simple VS Future Perfect แตกต่างกันยังไง?

ข้อสอบ Digital SAT พาร์ท Passage-based Reading and Writing หรือ SAT English มักจะมีคำถามที่ต้องการทดสอบความเข้าใจเรื่องไวยากรณ์ภาษาอังกฤษในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงเรื่อง Future Simple และ Future Perfect ซึ่งเป็นโครงสร้าง Tense ที่พบได้บ่อยในข้อสอบประเภทนี้

เพื่อให้น้อง ๆ เข้าใจความแตกต่างของโครงสร้างทั้งสองและสามารถเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้อย่างมั่นใจ บทความนี้ The Planner จะขอมาให้ความรู้เกี่ยวกับ ความแตกต่างของ Future Simple VS Future Perfect ทั้งสอง Tense นี้จะมีความแตกต่างกันอย่างไร? อ่านข้อมูลต่อได้ด้านล่างนี้

Tense คืออะไร?

Tense คือ หนึ่งในหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่แสดง “กาล” หรือช่วงเวลาของคำกริยา (Verb) ในประโยค เพื่อให้รู้ว่าเหตุการณ์ที่ต้องการกล่าวถึงนั้น เกิดขึ้นใน Past (อดีต), Present (ปัจจุบัน), หรือ Future (อนาคต) โดย Tense จะมีทั้งหมด 12 แบบด้วยกัน ดังนี้  

ตารางสรุปหลักการใช้ 12 Tenses

Tenses Past Present Future
Simple
(ทั่วไป, เป็นประจำ)

S + V.2

(เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วและจบลงไปแล้วในอดีต)

S + V.1

(เหตุการณ์เกิดในปัจจุบัน, ทำเป็นประจำ หรือสิ่งที่เป็นจริง)

S + will + V.1

(เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในอนาคต, ตั้งใจจะทำ)

Continuous
(ต่อเนื่อง หรือกำลังทำ)

S + was/were +
V.ing

(เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์มาแทรก)

S + is/am/are +
V.ing(เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน)

S + will + be + V.ing

(เหตุการณ์กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคต)

Perfect
(สมบูรณ์, ทำเสร็จแล้ว)

S + had + V.3

(เหตุการณ์ที่จบลงแล้ว  ก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้นในอดีต)

S + has/have + V.3

(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และส่งผลมาถึงปัจจุบัน หรือเพิ่งจบลง)

S + will + have + V.3

(เหตุการณ์ที่เกิดมานานแล้ว และคาดว่าจะจบลงในอนาคต)

Perfect Continuous
(สมบูรณ์, ทำเสร็จแล้ว และต่อเนื่อง)

S + had + been + V.ing

(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอดีต และจบลงแล้วในอดีต)

S + has/have +
been + V.ing(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และยังคงเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันไปเรื่อย ๆ)

S + will + have +
been + V.ing

(เหตุการณ์ที่เกิดมานานแล้ว และจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต)

 

Future Simple และ Future Perfect เกี่ยวข้องกับ SAT English ยังไง?

ในข้อสอบ Digital SAT โดยเฉพาะในส่วน Passage-based Reading and Writing หรือ SAT English นั้น มีคำถามที่เน้นทักษะด้าน Grammar and Usage ซึ่ง Future Simple และ Future Perfect มีความเกี่ยวข้อง ดังนี้

1. การทดสอบความรู้เกี่ยวกับ Tense และ Context

SAT อาจให้โจทย์ที่น้อง ๆ ต้องเลือกคำกริยาที่เหมาะสมตามบริบทของประโยค ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการใช้ Future Simple หรือ Future Perfect โดยตรง เช่น:

ตัวอย่างโจทย์ SAT:

By the time we get to the venue, the band ___ playing.
(A) will start
(B) will have started
(C) started
(D) is starting

คำตอบ: (B) will have started เพราะ “By the time” เป็นตัวบ่งบอกว่าเหตุการณ์นี้จะเสร็จก่อนเวลาในอนาคต

2. ความสัมพันธ์ของเวลาในประโยค (Sequence of Events)

SAT มักจะทดสอบการเรียงลำดับสองเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งต้องเลือก Tense ให้สอดคล้องกับความสัมพันธ์ของเวลา เช่น เหตุการณ์หนึ่งเกิดก่อน อีกเหตุการณ์เกิดหลัง

ตัวอย่างโจทย์ SAT:
By next summer, they ___ their house renovation and will be ready to host guests.
(A) will complete
(B) will have completed
(C) are completing
(D) completed

คำตอบ: (B) will have completed เพราะ “By next summer” บอกถึงความสำเร็จก่อนเวลาที่กำหนด

3. การทดสอบการอ่านจับใจความ (Reading Context)

นอกจากเรื่อง Grammar โดยตรงแล้ว Future Simple และ Future Perfect อาจปรากฏในเนื้อหาที่ให้อ่านเพื่อวิเคราะห์ เช่น การคาดการณ์ การวางแผน หรือการเปรียบเทียบเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งน้อง ๆ ต้องเข้าใจว่าแต่ละโครงสร้างบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับลำดับเวลา

ตัวอย่างเนื้อหา:

The researchers believe that by 2030, they will have developed a more efficient solar panel technology, which will help reduce global energy consumption.

คำถาม: Why does the author use “will have developed” in this context?

คำตอบ: To indicate that the technology will be completed before 2030.

4. การประยุกต์ใช้ Tense ในการเขียน (Writing and Language Section)

Future Simple และ Future Perfect อาจเกี่ยวข้องกับการแก้ไขประโยคในพาร์ท Writing ซึ่งน้อง ๆ ต้องเลือก Tense ที่ถูกต้องเพื่อให้ประโยคชัดเจนและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์

รู้จัก Future Simple และ Future Perfect ให้มากขึ้น

Future Simple: จะเกิดอะไรในอนาคต?

โครงสร้าง Future Simple ใช้สำหรับพูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแบบทั่ว ๆ ไป หรือการคาดการณ์ที่ยังไม่แน่นอน โดยมีโครงสร้าง ดังนี้

Subject + will + verb 1

ตัวอย่าง:

  • I will finish my homework tonight. (ฉันจะทำการบ้านให้เสร็จคืนนี้)
  • They will go to the beach tomorrow. (พวกเขาจะไปชายหาดพรุ่งนี้)

ในบริบทของ SAT Passage-based Reading and Writing น้อง ๆ อาจพบคำถามที่ให้เลือกคำกริยาที่เหมาะสมที่สุดในประโยคที่บอกถึงการกระทำในอนาคต ซึ่ง Future Simple จะใช้ในกรณีที่ต้องการสื่อถึง “แค่การกระทำที่จะเกิดขึ้น” แต่ไม่เน้นเวลาว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไร

Future Perfect: จะเสร็จเมื่อไรในอนาคต?

Future Perfect ใช้สำหรับพูดถึงเหตุการณ์ที่คาดว่าจะ “เสร็จสิ้น” ก่อนเวลาหนึ่งในอนาคต โดยมีโครงสร้าง ดังนี้

Subject + will + have + verb 3

ตัวอย่าง:

  • By this evening, she will have completed the report. (ภายในเย็นนี้ เธอจะทำรายงานเสร็จแล้ว)
  • They will have arrived when it is 9 AM. (พวกเขาจะมาถึงก่อนเก้าโมงเช้า)

ใน SAT Passage-based Reading and Writing โจทย์อาจถามถึงการเลือกโครงสร้างกริยาที่เหมาะสมเพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์นั้นจะเสร็จสิ้นเมื่อไร ดังนั้น น้อง ๆ ต้องสังเกตคำสำคัญในประโยค เช่น “by” หรือ “before” ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้เวลาสำคัญของ Future Perfect

ความแตกต่างระหว่าง Future Simple VS Future Perfect

หัวข้อ Future Simple Future Perfect
เวลา พูดถึงการกระทำที่ “จะเกิดขึ้น” พูดถึงการกระทำที่ “จะเสร็จสิ้น” ก่อนเวลาหนึ่ง
โครงสร้าง Subject + will + verb 1 Subject + will + have + verb 3
ตัวอย่างในข้อสอบ I will study tomorrow.
ฉันจะเรียนหนังสือพรุ่งนี้
By tomorrow, I will have studied for 5 hours.

ในวันพรุ่งนี้ ฉันจะได้เรียนหนังสือเป็นเวลา 5 ชั่วโมง

ปกติ Future Tense มักจะใช้ในการบรรยายเหตุการณ์ที่ “ยังไม่เกิดขึ้น” เพียงแต่ผู้พูดวางแผนหรือคาดการณ์ว่าเหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้น แม้ทั้ง Future Simple และ Future Perfect จะใช้บอกการกระทำในอนาคตเหมือนกัน แต่ก็ใช้งานในบริบทที่แตกต่างกัน ดังนั้น ความแตกต่างที่ควรจำให้แม่น คือ “Future Simple ใช้คาดการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรในอนาคต แต่ Future Perfect ใช้คาดการณ์ว่าเหตุการณ์จะจบลงเมื่อไร”

Future Simple และ Future Perfect มีบทบาทสำคัญมากในการสอบ SAT เนื่องจากช่วยทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ Tense อย่างถูกต้อง ทั้งในเรื่องการอ่านและการเขียน หากน้อง ๆ ฝึกฝนเรื่องนี้ให้ชำนาญ จะช่วยให้ตอบคำถามได้อย่างแม่นยำและลดโอกาสพลาดในข้อสอบได้แน่นอน

อ่านบทความ รีวิวติวสอบ SAT ที่ The Planner ดีไหม คลิกที่นี่

หากน้อง ๆ ต้องการเตรียมตัวสอบ SAT อย่างมั่นใจ หรือยังไม่รู้ว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดีให้ได้ทักษะครบทั้ง Math และ English มาติวคอร์ส SAT ที่ The Planner Education สถาบันติว SAT ชั้นนำ ที่เน้นสอนเนื้อหาเข้มข้น ตรงจุดออกข้อสอบจริง โดยคุณครูที่มีประสบการณ์สอนตรงสาย มีเทคนิคทำข้อสอบและแนวทางพิชิต SAT 1400++ แบบอัปเดตล่าสุด!

นอกจากนี้ ทางสถาบัน The Planner ยังดูแลน้อง ๆ ครบทุกด้านแบบ All-in-One Service ตั้งแต่การเตรียมตัวติว การสมัครสอบ จนถึงวันสอบจริง และน้อง ๆ ทุกคนที่สมัครติว SAT กับสถาบันทุกรูปแบบคอร์ส ยังได้รับสิทธิ์สอบ SAT Mock Test ฟรี! เพื่อประเมินความพร้อมก่อนไปสอบจริงอีกด้วย

มั่นใจได้ว่าติว SAT ที่ The Planner Education จะช่วยให้น้อง ๆ พิชิตคะแนนตามเป้า! พร้อมยื่นเข้าทุกคณะอินเตอร์ที่ต้องการ สนใจมาเรียนคอร์ส SAT จัดตารางเองได้วันนี้ผ่าน LINE Official: @theplanner

 

สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT | IELTS | ACT | GSAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ATS | TU-GET | IB | AP | Academic Writing

ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Line: @theplanner หรือ Phone: 095-726-2666

เพิ่มเพื่อน
Tags:

Leave a Reply