เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนคงเคยพบปัญหา เจอคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่หน้าตาหรือการออกเสียงคล้ายกัน และไม่มั่นใจว่าจะเลือกใช้คำไหนดี จึงจะเหมาะสมกับบริบทของการใช้งานที่ถูกต้อง เช่น Two – To, Than – Then หรือ Advice – Advise ซึ่งกลุ่มคำเหล่านี้ จัดเป็น Confusing Words ที่หากน้อง ๆ ไม่ได้มีความเข้าใจหรือใช้งานอยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้เกิดการใช้งานที่ไม่ตรงจุดหรือสร้างความสับสนได้ ทั้งในชีวิตประจำวันและในการทำข้อสอบ
โดยเฉพาะกับการสอบ SAT พาร์ท English ที่ในข้อสอบมักจะมีการทดสอบความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษ แม้โจทย์จะไม่ได้ถามกันตรง ๆ ว่าคำศัพท์ที่กำหนดให้แปลว่าอะไร แต่น้อง ๆ จะต้องได้ใช้ความรู้พื้นฐานด้านคำศัพท์เพื่ออ่านและวิเคราะห์ Passage รวมถึงข้อมูลด้านอื่น ๆ ในข้อสอบอย่างแน่นอน
เพื่อให้น้อง ๆ มีความเข้าใจและคุ้นเคยมากขึ้นกับคำศัพท์ลักษณะนี้ บทความนี้ The Planner จึงคัดคำศัพท์ออกสอบ SAT English ที่มีลักษณะคล้ายหรือใกล้เคียงกันมากที่สุด จนสร้างความสับสนและอาจเป็นตัวฉุดคะแนนของน้อง ๆ ในขณะสอบได้ จะมีคำไหนบ้าง ไปดูพร้อมกัน
คำศัพท์ SAT English – Confusing Words เจอบ่อย!
- Affect VS Effect
สองคำนี้นอกจากจะเขียนคล้ายกันแล้ว ยังมีความหมายที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย คือ ผลกระทบ แต่ทั้งคู่มีความแตกต่างกัน คือ affect = verb (มีผลต่อ) ขณะที่ effect = noun (ผลที่ตามมา)
- Allude VS Elude
คำคู่นี้มีการสะกดคำและการออกเสียงที่คล้ายคลึงกัน และเป็นคำกริยา (verb) ทั้งคู่ด้วย แต่จุดที่ทำให้ทั้งสองคำมีความแตกต่างกัน คือ ความหมายของคำศัพท์ เพราะ allude แปลว่า กล่าวถึง (refer to) ส่วน elude แปลว่า หลีกเลี่ยง (avoid)
- Perspective VS Prospective
คำคู่นี้แตกต่างกันเล็กน้อยตรงเสียงสระคำแรก คือ เพอ – per ในขณะที่คำที่สองคือ โพร – pro นอกจากนี้ คำว่า perspective ทำหน้าที่เป็น noun แปลว่า มุมมอง (point of view) แต่ prospective เป็น adjective แปลว่า ที่คาดหวัง/คาดการณ์ไว้ (planned)
- Afflict VS Inflict
แม้ทั้งสองคำนี้จะออกเสียงพยางค์ท้ายคล้ายกันและเป็น verb ทั้งคู่ แต่มีการออกเสียงแตกต่างกันที่พยางค์แรก โดย afflict แปลว่า ทำให้เดือดร้อน/เจ็บป่วย (trouble) แต่ inflict หมายถึง ลงโทษ (punish)
- Descent VS Dissent
สองคำนี้ค่อนข้างออกเสียงใกล้เคียงกัน แตกต่างกันที่การสะกดคำและความหมาย โดยคำว่า descent ในที่นี้ทำหน้าเป็น noun แปลว่า การสืบทอด/เชื้อสาย แต่คำว่า dissent แปลว่า ไม่เห็นด้วยหรือความขัดแย้ง
- Elicit VS Illicit
สองคำนี้มองผ่าน ๆ จะมีการออกเสียงคำคล้ายกันมากและยังมีพยางค์สุดท้ายของคำที่สะกดเหมือนกันอีกด้วย แต่ใน part of speech และการนำมาใช้งานนั้นค่อนข้างแตกต่างกันมาก โดย elicit เป็น verb แปลว่า กระตุ้น/ดึงออกมา แต่ illicit เป็น adjective แปลว่า ผิดกฎหมาย
- Respective VS Respectful
สองคำนี้มองครั้งแรกดูเหมือนจะมีรากศัพท์มาจากคำว่า respect ที่แปลว่า เคารพ เหมือนกันใช่ไหม แต่ที่จริงคำว่า respective ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ respect เลย เพราะคำนี้เป็น adjective แปลว่า ตามลำดับ/โดยเฉพาะ เช่น Go to your respective seats. (ไปนั่งที่ตามลำดับที่จัดไว้) ในขณะที่ respectful แปลว่า น่าเคารพ
- Simulate VS Stimulate
คำคู่สุดท้ายสะกดต่างกันตรงที่คำที่สองจะมีเสียง t เพิ่มเข้ามา โดยที่ทั้งคู่ต่างทำหน้าที่เป็น verb เช่นเดียวกันด้วย แต่ในเรื่องของความหมาย คำว่า simulate จะแปลว่า เลียนแบบ/จำลอง แต่ stimulate แปลว่า กระตุ้น นั่นเอง
ตัวอย่าง การเลือกใช้คำ Confusing Words ในโจทย์ SAT พาร์ทภาษาอังกฤษ
The smell of durian can (elicit/illicit) reactions that range from deep appreciation to intense disgust.
สังเกตได้ว่าประโยคนี้ คำตอบอยู่หลัง can แสดงว่าต้องการ verb มาเติมในประโยค ซึ่งจะช่วยทำให้ประโยคมีความหมายสมบูรณ์และถูกไวยากรณ์มากยิ่งขึ้น
ดังนั้นในโจทย์ข้อนี้จึงตอบ elicit (เป็น Verb) และในส่วนของความหมายจะเห็นว่า elicit ก็เหมาะสมกับบริบทที่สุด เพราะประโยคนี้หมายถึง
กลิ่นทุเรียนสามารถกระตุ้นการตอบสนองได้หลากหลาย ตั้งแต่ความชื่นชอบไปจนถึงความเกลียด
อ่านบทความ ระดับคะแนน Digital SAT Percentiles อัปเดต 2024! คลิกที่นี่
การท่องจำคำศัพท์เป็นสิ่งที่ดี แต่หากน้อง ๆ รู้ความหมาย รวมถึงบริบทของการใช้งานในแง่มุมต่าง ๆ อย่างถูกต้องไปด้วย จะทำให้ประสิทธิภาพของการใช้งานคำศัพท์นั้น ๆ เต็มที่มากขึ้น และอย่าลืมว่า Practice makes perfect! หลังอ่านบทความนี้จบแล้ว น้อง ๆ อย่าลืมไปฝึกฝนและทดลองใช้งานคำศัพท์ SAT English – Confusing Words ใหม่ ๆ เพิ่มเติมกันด้วย
แต่ถ้าหากใครกำลังมองหาคอร์สติว Digital SAT ที่ตอบโจทย์การติวสอบในทุกด้าน ทั้งเนื้อหาสอบ เทคนิคสอบ คำศัพท์เฉพาะ และการได้ตะลุยโจทย์จริงแบบเข้มข้น ที่สถาบัน The Planner Education มีเปิดสอนคอร์ส SAT ให้น้อง ๆ ครบมากถึง 3 รูปแบบ
- คอร์ส SAT Content (Regular) 120 ชั่วโมง: ติวเนื้อหา Content ทั้ง Math และ English ครบทุก Topic พร้อมฝึกทำโจทย์ Paper Practice เหมาะกับน้อง ๆ ที่ไม่มีพื้นฐาน SAT มาก่อน และต้องการติวข้อสอบแบบจัดเต็มตั้งแต่เริ่มต้น
- คอร์ส SAT Paper Practice 40 ชั่วโมง: คอร์สตะลุยโจทย์จริงจากข้อสอบ Digital SAT พร้อมเรียนเทคนิค ตอบไวโดยไม่เสียคะแนน เหมาะกับน้อง ๆ ที่มีพื้นฐาน SAT มาแล้ว แต่ยังต้องการฝึกทำโจทย์จริงให้คล่องมากขึ้น
- คอร์ส SAT Fast Track 20 ชั่วโมง: คอร์สติว SAT รวบรัด ที่เน้นเจาะเทคนิคและฝึกใช้สูตรลัดทำข้อสอบ SAT โดยเฉพาะ เหมาะกับน้อง ๆ ที่มีพื้นฐาน SAT หรือเคยสอบ SAT มาแล้ว และต้องการอัปคะแนนให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ ทุกคอร์สติวสอบที่สถาบัน The Planner ยังมีบริการแบบ All-in-One Service ดูแลน้อง ๆ แบบครบจบในที่เดียว ตั้งแต่เริ่มสมัครสอบ ติดตามผลสอบ จนแนะแนวการยื่นคะแนนให้ติดคณะที่ต้องการ โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่ติวคอร์ส SAT ทั้ง 3 รูปแบบคอร์สทุกคน ยังมีโอกาสได้รับสิทธิ์เข้าสอบ SAT Mock Test ฟรี! ที่สถาบันเพื่อประเมินผลตนเองก่อนไปสอบจริงอีกด้วย
มองหาที่ติว SAT หรือยังไม่รู้ว่าจะติว SAT ที่ไหนดี ติว SAT ที่ The Planner ได้ครบทั้งติวเนื้อหา ทำโจทย์ พร้อม All-in-One Service ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ไม่ Confused ในห้องสอบ 100%! สนใจสอบถามตารางติวและวางแผนสอบกับพี่แอดมิน แอดไลน์ @theplanner
สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT | IELTS | ACT | GSAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ATS | TU-GET | IB | AP | Academic Writing
ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!