อัตราค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ SAT

[et_pb_section fb_built=”1″ admin_label=”section” _builder_version=”3.0.47″][et_pb_row admin_label=”row” _builder_version=”3.0.48″ background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.47″][et_pb_text admin_label=”Text” _builder_version=”3.19.17″ background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat”] อัตราค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ SAT (กรณีเลือกสอบนอกประเทศสหรัฐอเมริกา – สอบในประเทศไทย) ค่าธรรมเนียมคิดเป็นสกุลเงิน “ดอลลาร์” ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น ส่วนที่ 1 International Test & Registration Fees การสอบแบบนานาชาติและค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ SAT ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ $54.50 SAT Subject Tests ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ Basic Subject Test Fee (per registration) $26 SAT Subject Tests ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบในหมวดวิชา Language with Listening Tests[…]

ขั้นตอนของ SAT ตั้งแต่ติวSAT จนถึง สอบSAT

ขั้นตอนแรกเป็นขั้นตอนการสมัครสอบ แล้วเค้าสมัครกันที่ไหน? อย่างที่รู้กันว่าข้อสอบ SAT ถูกออกแบบและพัฒนาโดย The College Board องค์กรในสหรัฐอเมริกาและการสอบ SAT สอบด้วยข้อสอบเดียวกัน เวลาสอบเดียวกันเหมือนกันทั่วประเทศ การสมัครสอบก็สามารถทำได้เพียงหนึ่งช่องทางเท่านั้นคือสมัครสอบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://sat.collegeboard.org/home ขั้นตอนที่สอง หากเป็นคนที่เคยสมัครสอบ SAT มาแล้วจะมี Username และ Password ให้ทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบ เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วเว็บก็จะแสดงข้อมูลต่างๆ ของเราทั้งข้อมูลการสอบก่อนหน้า ผลการสอบในครั้งก่อนๆ หากจะสมัครสอบอีกก็คลิกเลือกวันที่ต้องการจะสอบ และทำการสมัครสอบได้เลย แต่หากเป็นคนที่เพิ่งมาสมัครสอบครั้งแรก จะต้องทำการลงทะเบียนเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ก่อน แล้วจึงจะทำการสมัครสอบได้ ข้อควรรู้ ในแต่ละปี The College Board จะเปิดให้สอบถึง 6 ครั้งในประเทศไทยคือในเดือน มกราคม, พฤษภาคม, มิถุนายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน และธันวาคม สามารถเข้าไปตรวจสอบตารางวันเปิดรับสมัคร วันสอบได้ที่หน้าเว็บไซต์ https://sat.collegeboard.org/home ได้เลยค่ะ ดังรูปตัวอย่างด้านล่างนี้ ขั้นตอนที่สาม การเลือกวันสอบควรดูความพร้อมของน้องๆ ด้วยนะคะ ว่าวันที่เราเลือกนั้นเราพร้อมสำหรับการสอบจริงๆ เพราะสอบออกมาแล้วคะแนนไม่ดี น้องๆ[…]

ไปเรียนต่ออเมริกาต้องรู้จัก SAT

SAT ในประเทศสหรัฐอเมริการะดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (High School) มีระบบการเรียนการสอนหลากหลายรูปแบบ ทั้งเกณฑ์การวัดผลก็แตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน จึงทำให้เกิดการสอบ SAT เพื่อนำผลการสอบมาใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานโดยไม่ดูผลการเรียนจากโรงเรียนมาพิจารณาเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย หรือเปรียบเทียบได้กับการสอบคัดเลือกระดับชาติ (Admission) ในประเทศไทยนั่นเอง ข้อสอบของ SAT จะวัดความรู้ทางด้านการอ่านภาษาอังกฤษ การเขียนภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์เป็นสำคัญ ดังนั้นน้องๆ ที่กำลังจะจบมัธยมศึกษาตอนปลายและมีแผนที่จะไปศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องมีผลสอบ SAT ที่อยู่ในเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ สรุปง่ายๆ SAT ก็คือเกณฑ์การวัดผลมาตรฐานที่ใช้ในการศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา จะเรียนต่ออเมริกาจะต้องสอบ SAT เข้าใจตรงกันนะ แต่เดี๋ยวก่อนมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติบางที่ บางคณะก็ใช้นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นจะไปเข้าอินเตอร์ที่ไหนอย่าลืมดูให้ดีด้วยนะคะ ว่าต้องใช้ผลสอบ SAT หรือไม่ เจาะลึก SAT ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น SAT จะมีข้อสอบการวัดความถนัด 3 ส่วน แต่ละส่วนมีคะแนนเต็มส่วนละ 800 คะแนน รวมทั้งหมด 2,400 คะแนน เวลาในการทำข้อสอบประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง แต่ละส่วนได้แก่ ส่วนที่ 1 การอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ (Critical[…]

ทำไมต้องสอบ SAT

SAT Reasoning Test ถูกพัฒนาขึ้นโดย College Board ของประเทศอเมริกา เป็นข้อสอบวัดความถนัดในวิชาภาษาอังกฤษ(Verbal)และวิชาเลข(Mathematics) ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆด้วยกัน

SAT I/SAT II

SAT (Scholastic Aptitude Test) SAT Iเป็นข้อสอบการวัดความถนัดในวิชาภาษาอังกฤษ(Verbal)และวิชาเลข(Mathematics) ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ การอ่าน (Critical Reading) การเขียน (Writing) และ เลข (Mathematics)  แต่มหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ส่วนใหญ่ในประเทศไทยไม่ว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ มหาวิทยาลัยนานาชาติมหิดล  จะดูผล Critical Reading และ Mathematics  2ส่วนเท่านั้นนักเรียนสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อสอบให้ได้คะแนนตามที่คาด หวังไว้ ผลสอบมีอายุ2ปี ดูรายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับ SAT SAT II เป็นข้อสอบวัดความถนัดทางด้าน ฟิสิกส์ เคมี ชีวะและเลข นักเรียนที่จะสอบเข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์หรือ วิทยาศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จะต้องใช้คะแนนในวิชาเหล่านี้ยื่นเข้าสมัครมหาวิทยาลัยด้วย การเรียน การสอน SAT ของ The Planner Education จะเน้นเทคนิคในการทำ Critical Reading และ Mathsเพราะข้อสอบนี้ต้องใช้ความเร็วและความแม่นยำ ข้อที่ว่ายาก[…]