หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “หมอไทยเก่งไม่แพ้ชาติไหนในโลก” คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงเลย เพราะหมอไทยเก่งจริง วิจัยทางการแพทย์ของไทยก็มีตัวที่โดดเด่นในแวววงหลายตัว อีกทั้งคณะแพทยศาสตร์ในไทยถึง 16 คณะผ่านการประเมินจากสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ (สมพ.) และถือว่าได้มาตรฐานระดับโลก นอกจากนี้หมอไทยยังเก่งจนคนต่างชาติไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกต่างก็อยากมารักษาที่ไทย ประเทศไทยอีกหนึ่ง medical hub ที่คนทั่วโลกอยากมาใช้บริการ
จากที่เกริ่นมาข้างต้นทำให้เห็นว่าวงการแพทย์ของไทยเก่ง แน่นอนว่าการเรียนแพทย์ในไทยก็ต้องได้ประสิทธิภาพไม่ต่างจากเรียนที่ต่างประเทศ และบุคลากรอาจารย์หมอของเราคุณภาพมาก ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติในไทย และข้อดีของการเรียนแพทย์ INTER ในไทย
ข้อดีของการเรียนคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติในไทย
- การันตีคุณภาพทางการศึกษาได้จาก 2 อย่างดังนี้
1.1 คณะแพทยศาสตร์ในไทยถึง 16 คณะได้รับรองมาตรฐานระดับโลก
1.2 อาจารย์เก่งและมีคุณภาพ เนื่องจากวงการแพทย์ไทยมีคนเก่งเยอะ และคนเก่งเหล่านั้นมีโอกาสมาเป็นอาจารย์หมอที่สอนในคณะ
- ข้อได้เปรียบในการทำงานเป็นหมอในต่างประเทศ เนื่องจากไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบัน หรือในอนาคตอาชีพแพทย์ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ หากได้เรียนในคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จะได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษทำให้มีภาษีดีในการไปทำงานยังต่างประเทศ เพราะไม่ว่าจะประเทศไหนต่างก็ต้องการหมอ
- ระหว่างเรียนมีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ และบางทีทางคณะอาจมีงบดูงานส่วนนี้สนับสนุนนักศึกษาด้วย เช่น CICM ของธรรมศาสตร์
จะเข้าคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มีคะแนนสำคัญ ๆ อะไรบ้าง บทความนี้จะพาน้อง ๆ ไปศึกษากันค่ะ คะแนนที่ใช้นอกจากคะแนนสอบ IELTS TOEFL ที่น้องน่าจะคุ้นเคยกันแล้ว ยังมีคะแนนอีกหนึ่งการทดสอบคือ BMAT (Biomedical Admission Test) ซึ่งเป็นการทดสอบในหมวดวิทยาศาสตร์ที่เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนคณะที่เปิดสอนหลักสูตรแพทยศาสตร์ นานาชาติในไทยมีดังนี้
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ (CU-Medi)
คะแนนภาษาอังกฤษที่ใช้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- IELTS (Academic) : ≥7.0
- TOEFL (iBT) : ≥85
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ (CICM)
คะแนนที่ใช้
- GPA : ≥3.50
- คะแนน BMAT
คะแนนภาษาอังกฤษที่ใช้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- IELTS (Academic / UKVI) : ≥6.5
- TOEFL (iBT) : ≥85
- TU-GET (PBT) : ≥550
- TU-GET (CBT) : ≥79
- มหาวิทยาลัยมหิดล
- คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี (แพทยศาสตร์ – การจัดการบัณฑิต หลักสูตรนานาชาติ M.D. / M.M.)
คะแนนที่ใช้
- GPA : ≥3.50
- คะแนน BMAT
คะแนนภาษาอังกฤษที่ใช้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- IELTS (Academic) : ≥6.5
- TOEFL (iBT) : ≥80
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- คณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ
คะแนนที่ใช้
- GPA : ≥3.50
- GED : วิชาละ ≥165
- A-Level : Maths, Physics, Biology, Chemistry ≥A
- คะแนน BMAT
- SAT : คะแนนรวม ≥1,200
คะแนนภาษาอังกฤษที่ใช้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- IELTS (Academic) : ≥7.0
- TOEFL (iBT) : ≥80
- TOEFL (CBT) : ≥240
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- คณะแพทยศาสตร์ โครงการความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม (สหราชอาณาจักร)
คะแนนที่ใช้
- GPA : ≥3.0
- A-Level : Maths, Physics, Biology, Chemistry ≥A
- คะแนน BMAT
- IELTS (UKVI) : ≥7.0
จากเกณฑ์คะแนนของแต่ละที่จะเห็นได้ว่าค่อนข้างสูงและโหดเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากน้อง ๆ อยากเป็นว่าที่นิสิตนักศึกษาแพทย์ อินเตอร์ และยังไม่รู้ว่าจะเริ่มวางแผนการเรียน การติวยังไงดี มาปรึกษากับ The Planner Education ได้เลยค่ะ ไม่ว่าน้อง ๆ จะอยากเรียนBMAT ติวBMAT เรียนIELTS ติวIELTS เรียนTOEFL ติวTOEFL หรืออยากเรียนตัวอื่น ๆ ทาง The Planner ของเรามีทุกคอร์สให้น้องเลือกเรียนเลยค่ะ
สนใจติว IELTS | IGCSE | A-Level | GED | SAT | IELTS | TOEFL-MUIC | CU-TEP | TU-GET | GSAT | CU-ATT | CU-ATS | BMAT | ACT เพื่อคว้าคะแนนและมหาวิทยาลัยในฝันหรือยัง? ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!
เราพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนต่อ ไม่ว่าจะมหาลัยในไทยหรือต่างประเทศ
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 095-726-2666 หรือ LINE: @theplanner