IELTS คืออะไร? ทำไมต้องสอบก่อนเข้าคณะอินเตอร์

“ภาษาอังกฤษ” ปฏิเสธกันไม่ได้เลยว่าสำคัญมาก ๆ ทั้งในเรื่องของการทำงาน ชีวิตประจำวัน รวมถึงในเรื่องของการศึกษา โดยเฉพาะการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติ ผลการทดสอบภาษาอังกฤษ ถือว่าสำคัญ “มากที่สุด”   

การสอบ IELTS จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่นักเรียนหลักสูตรอินเตอร์หลายคนทั่วโลก เลือกที่จะให้ความสนใจและทำการเข้าทดสอบเพื่อใช้ในการยื่นเข้าศึกษาในหลักสูตรอินเตอร์ระดับมหาวิทยาลัย แต่ในที่นี้ IELTS คืออะไร? และทำไมคนอยากเข้าคณะอินเตอร์ต้องให้ความสำคัญกันนะ? บทความนี้ The Planner มีคำตอบและเกร็ดความรู้ดี ๆ มาฝาก

IELTS คืออะไร? 

IELTS (International English Language Testing System) คือ การทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักหรือภาษาประจำชาติ ออกแบบมาเพื่อวัดทักษะของผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสารสำหรับการทำงาน การศึกษา หรือการย้ายถิ่นฐาน เป็นต้น โดยจะแบ่งระดับคะแนน (Band) ออกเป็น 9 ระดับ โดยเรียงลำดับจากระดับจาก 1 (ต่ำที่สุด) ไปจนถึง 9 สูงที่สุด

การสอบ IELTS ในประเทศไทย จัดขึ้นโดย British Council และ IDP: IELTS Australia ปัจจุบันมหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติในประเทศไทย หรือสถานศึกษาชั้นนำในต่างประเทศก็ได้มีการพิจารณาผลสอบ IELTS กันมากขึ้น เพื่อให้นักเรียนที่จะเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษานั้น ๆ มีความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษในระดับมาตรฐานที่กำหนด

อ่านบทความ IELTS Band 1-9 แตกต่างกันอย่างไร? ควรได้คะแนนเท่าไหร่ถึงยื่นติดคณะอินเตอร์? คลิกที่นี่

ทำไมต้องสอบ IELTS ก่อนเข้าคณะอินเตอร์?

อย่างที่ทราบกันดีว่าหลักสูตรอินเตอร์ หรือหลักสูตรนานาชาติทั้งในมหาวิทยาลัยไทยและมหาวิทยาลัยต่างประเทศ จะมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงการเรียนร่วมกับเพื่อน ๆ และอาจารย์ต่างชาติ ทั้งในห้องเรียนและการฝึกงานที่ล้วนแล้วแต่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร

ดังนั้น ผลการทดสอบภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพ เช่น IELTS หรือ TOEFL จึงเป็นส่วนสำคัญมากในการพิจารณาว่าน้อง ๆ จะพร้อมต่อการเข้าเรียนในหลักสูตรอินเตอร์นั้น ๆ หรือไม่ และสามารถรับการเรียนรู้ตลอดจนจบการศึกษาได้อย่างราบรื่น และเพียงพอต่อการดำเนินชีวิตหลังจบการศึกษาไปแล้วได้หรือไม่นั่นเอง 

ข้อสอบ IELTS มีกี่ประเภท?
ข้อสอบ IELTS หลัก ๆ จะถูกแบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน และระดับความยาก-ง่ายของเนื้อหาจะแตกต่างกันไปตามประเภทของข้อสอบด้วย ดังนี้

  1. IELTS General Training Module
    คือ การทดสอบสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา หลักสูตรระยะสั้น สมัครงาน/ทำงาน หรือขอสัญชาติ เป็นต้น โดยระดับความยาก-ง่ายของข้อสอบ IELTS ประเภทนี้ จะอยู่ในระดับทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
  2. IELTS Academic Module
    คือ การทดสอบที่จะเน้นใช้สำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา หรือสูงกว่าในมหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติภายในประเทศ หรือมหาวิทยาลัยทั่วไปในต่างประเทศ ข้อสอบ IELTS ประเภทนี้ จะเน้นการทดสอบที่เป็นภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ มีความยาก และซับซ้อนกว่าการสอบ IELTS แบบ General Training Module

นอกจากนี้ การสอบ IELTS ก็ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นพิเศษด้วย นั่นคือ IELTS UKVI ซึ่งเป็นข้อสอบที่มีจุดประสงค์เพื่อยื่นสมัครวีซ่าของสหราชอาณาจักร (UK) และใช้ในด่านตรวจคนเข้าเมืองสำหรับคนที่ต้องการไปศึกษาต่อใน UK หรือย้ายถิ่นฐานเข้าไปใน UK โดยในการสอบสามารถแบ่งออกไปได้ด้วยว่าจะเน้นสอบเพื่อทำงาน/ย้ายถิ่นฐาน (IELTS General Training Module) หรือสอบเพื่อเข้าเรียนต่อ (IELTS Academic Module)

IELTS Academic สอบอะไรบ้าง?
การวัดระดับภาษาอังกฤษของ IELTS นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ทักษะด้วยกัน

  1. Listening (ทดสอบการฟัง): ใช้เวลาสอบ 40 นาที

รูปแบบการสอบ คือ ฟังคลิปเสียง 4 คลิปที่มีหลากหลายสำเนียง และตอบคำถาม 40 ข้อ โดยน้อง ๆ จะต้องตอบโดยใช้

  • multiple choice
  • matching
  • diagram labelling
  • sentence completion
  • Reading (ทดสอบการอ่าน): ใช้เวลาสอบ 60 นาที

รูปแบบการสอบ คือ อ่าน Passage 3 เรื่อง (อาจเป็นแผนภาพ กราฟ หรือเป็นภาพประกอบ) ข้อสอบ Reading Part จะประกอบด้วยคำถามทั้งหมด 40 ข้อ 

  • Writing (ทดสอบการเขียน): ใช้เวลาสอบ 60 นาที

รูปแบบการสอบ มี 2 ส่วนต้องทำ ได้แก่

  • การเขียนเพื่อบรรยาย, อธิบาย หรือสรุปข้อความหรือแผนภาพ 1 ชิ้น (อย่างน้อย 150 คำ) โดยน้อง ๆ จะต้องบรรยาย, สรุป หรืออธิบายข้อมูลในกระบวนการ, วิธีการทำงาน, วัตถุ หรือเหตุการณ์นั้น ๆ ที่โจทย์ให้มา
  • เรียงความ 1 ชิ้น (อย่างน้อย 250 คำ) เพื่อแสดงความคิดเห็นต่อแนวคิด, ข้อโต้แย้ง หรือปัญหา
  • Speaking (ทดสอบการพูด): ใช้เวลาสอบ 10-15 นาที

รูปแบบการสอบ จะเป็นการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับอาจารย์ผู้คุมสอบ โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 Task ได้แก่

  • Task 1 – อาจารย์ผู้คุมสอบจะถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับตัวน้อง ๆ และเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย เช่น บ้าน ครอบครัว การเรียน และความสนใจ โดยจะใช้เวลาใน Task นี้ประมาณ 4 – 5 นาที
  • Task 2 – น้อง ๆ จะได้รับการ์ดหนึ่งใบ ที่จะให้พูดเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ เป็นเวลาไม่เกิน 2 นาที โดยน้อง ๆ จะมีเวลา 1 นาที ในการเตรียมตัวและเตรียมคำตอบ และอีก 1 นาทีในการพูดคำตอบ
  • Task 3 – น้อง ๆ จะถูกถามคำถามที่ต่อยอดมาจากหัวข้อใน Task ที่ 2 โดยน้อง ๆ สามารถอภิปรายแนวคิดและประเด็นในเชิงที่เป็นนามธรรมได้มากขึ้น โดยจะใช้เวลาใน Task นี้ประมาณ 4 – 5 นาที

ศูนย์สอบ IELTS มีที่ไหนบ้าง?

สนามสอบหรือศูนย์สอบ IELTS มีให้น้อง ๆ เลือกสมัครได้ตามความสะดวกใน 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี พิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา สงขลา (หาดใหญ่) และภูเก็ต

ดูขั้นตอนการสมัครสอบ IELTS และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.britishcouncil.or.th

อ่านบทความ เปิดแฟ้มลับ เกณฑ์การคิดคะแนน IELTS Speaking รู้แล้วปรับใช้ ได้ Band 8.0 ชัวร์ คลิกที่นี่

เรียนพิเศษ IELTS ที่ไหนดี? คอร์ส IELTS ที่ไหนช่วยให้สอบผ่านและได้คะแนนสูง? ที่ The Planner Education สถาบันติวสอบเข้าคณะอินเตอร์อันดับ 1 เปิดสอนคอร์ส IELTS ระยะสั้น 90 ชั่วโมง เนื้อหาการติวตรงตามศูนย์สอบฉบับอัปเดตล่าสุด สอนโดยคุณครูผู้เชี่ยวชาญ ที่เรียนจบตรงสายด้านภาษา มั่นใจได้ว่าน้อง ๆ จะได้รับประสบการณ์การติวที่เต็มเปี่ยม ได้เทคนิคแน่น ๆ ไม่เหมือนใคร พร้อมการบริการจากพี่ ๆ ทีมแอดมิน ที่คอยอำนวยความสะดวกและให้คำปรึกษาดี ๆ กับน้อง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นติวสอบ จนสอบผ่านและใช้คะแนนยื่นติดคณะอินเตอร์ที่น้อง ๆ อยากเข้า 

Band 8.0 ไม่ไกลเกินฝัน ติวสอบกับสถาบันติว IELTS โดยตรง ที่ The Planner Education ทุกความสำเร็จ เป็นจริงได้แน่นอน!!

สนใจติว GED | IGCSE | A-LEVEL | SAT | IELTS | ACT | GSAT | BMAT | TOEFL-MUIC/MUIDS | CU-TEP | CU-AAT | CU-ATS | TU-GET | IB | AP | Academic Writing

ดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจได้เลย!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Line: @theplanner หรือ Phone: 095-726-2666

เพิ่มเพื่อน

Leave a Reply