GED ต้องเก่งภาษาอังกฤษแค่ไหน ถึงจะสอบได้?

การสอบ GED หรือ General Educational Development เป็นข้อสอบเทียบวุฒิมัธยมปลายที่ได้รับการรับรองระดับนานาชาติ ข้อสอบจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ภาษาอื่นที่มีให้เลือกจะมีภาษาสเปนและฝรั่งเศส แต่ไม่มีภาษาไทย เพราะฉะนั้นน้องๆ จะต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษในการสอบ GED นี่จึงเป็นที่มาที่มีน้องๆ หลายคนตั้งคำถามว่า “จะต้องเก่งภาษาอังกฤษขนาดไหน ถึงจะสามารถสอบ GED เพื่อคว้าวุฒิ ม.ปลายได้บ้าง” น้องๆ ที่ตั้งคำถามนี้ก่อนตัดสินใจติว GED แบบจริงๆ จังๆ มองว่าน่าจะพอเข้าใจแล้วว่าข้อสอบ GED มีอยู่ทั้งหมด 4 วิชา พี่ๆ ขอไล่ลำดับวิชาที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษจากมากไปหาน้อย ดังนี้ RLA > Social Studies > Science > Math แน่นอนอยู่แล้วว่าข้อสอบ GED RLA ก็คือการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษแบบตรงไปตรงมาเลยทีเดียว ต้องเข้าใจโครงสร้างและไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี และในข้อสอบ GED RLA ยังมีพาร์ท writing ที่เป็นส่วนที่เรียกได้ว่าใช้ทดสอบทักษะภาษาอังกฤษแบบมวลรวม รวมถึงในส่วนของ GED พาร์ท[...]

GED Social Studies Skill Needed อยากสอบผ่าน คะแนน 145 – 164 ทักษะไหนต้องมี เช็คเลย!

จะสอบ GED ให้ผ่านก็ต้องคว้าให้ครบทั้ง 4 วิชา วันนี้มาถึงทักษะที่จำเป็นในการสอบ GED Social Studies ให้ผ่านเกณฑ์ 145 จนถึง 164 คะแนน น้องๆ ที่กำลังติว GED Social Studies อยู่ตอนนี้ อาจจะเริ่มเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วว่าข้อสอบ GED Social Studies อาจไม่ใช่แค่ท่องจำ แต่ต้องมีความเข้าใจประวัติศาสตร์ สังคมหรือการเมืองอเมริกัน จนถึงวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันได้ เพื่อใช้ในการประกอบการตอบคำถามข้อสอบ GED Social Studies นั่นเอง แต่อย่าเพิ่งตกใจว่ามันจะยากเกินกว่าที่จะสอบผ่านไปได้ เพราะช่วงคะแนนของข้อสอบ GED มีอยู่หลายช่วง หากเรามีเป้าหมายเพื่อคว้าวุฒิมัธยมปลายที่คะแนน 145 - 164 คะแนน ไปอ่านทักษะที่จำเป็นสำหรับ GED Social Studies กันเลยค่ะ ทักษะในการวิเคราะห์และอธิบายในเชิงสังคมศึกษา สามารถระบุลักษณะเชิงประวัติศาสตร์จากมุมมองหรือจุดประสงค์ของผู้เขียนได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ สามารถเปรียบเทียบวิธีเขียนเชิงสังคมศึกษาหรือแสดงแหล่งที่มาของข้อมูลที่หลากหลายมาใช้สนับสนุนหัวข้อเดียวกันได้ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างแหล่งข้อมูลได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ ทักษะในการใช้ความรู้เชิงสังคมศึกษาในการวิเคราะห์และสนับสนุนข้อโต้แย้ง  สามารถระบุโครงสร้างเรื่องราวของประวัติศาสตร์ตามลำดับเวลาและต่อเนื่องกันได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ สามารถเปรียบเทียบชุดความคิดหลายทางที่เกี่ยวเนื่องในเชิงการเมือง[...]

สอบ GED RLA ให้ปัง! ต้องแม่นโครงสร้าง Essay!

ข้อสอบ GED Reasoning Through Language Arts หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า GED RLA เป็นข้อสอบที่วัดทักษะภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้เรื่องไวยากรณ์และการอ่าน แต่ยังมีพาร์ทที่น้องๆ หลายคนกำลังติว GED RLA กันอย่างขมักเขม้นต่างบ่นกันว่ายาก นั่นก็คือพาร์ท Writing ที่ต้องเขียนเรียงความ (GED Essay) นั่นเอง การเขียนเรียงความที่ดีในข้อสอบ GED นอกเหนือจากที่จะต้องคำนึงเรื่องความถูกต้องทางไวยากรณ์และคำศัพท์ที่เลือกใช้ อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเกณฑ์ในการประเมินวัดคุณภาพของงานคือ เรื่องของโครงสร้างและการเรียบเรียงเนื้อหา หรือที่เราเรียกว่า Essay Structure / Organization ภายในเวลา 45 นาทีในการทำข้อสอบ GED RLA Part Writing  ทุกคนทราบไหมว่าเราจำเป็นต้องเขียนกี่ย่อหน้าและแต่ละย่อหน้าทำหน้าที่อะไร?เฉลย: ในข้อสอบ GED RLA ไม่ได้มีการกำหนดย่อหน้าตายตัวว่าแต่ละคนจะเขียนกี่ย่อหน้า แต่ตามหลักการทุกคนควรจะเขียนประมาณ 3-5 ย่อหน้า อย่างไรก็ตามจำนวนย่อหน้าที่คนส่วนใหญ่นิยมเขียนคือ 5 paragraphs (แต่ถ้าไม่ทันจะลดเหลือแค่ 4 ก็พอรับได้) และแต่ละย่อหน้าใน GED[...]

GED Science Skill Needed อยากสอบผ่าน คะแนน 145 – 164 ทักษะไหนต้องมี เช็คเลย!

ใครที่ไม่ถนัดวิชาวิทยาศาสตร์ กำลังติว GED Science ไปก็กุมขมับไปด้วย เริ่มกลัวว่าจะสอบ GED Science ไม่ผ่าน อย่าเพิ่งท้อถอยอ่อนแรงค่ะ ข้อสอบทั้ง 4 รายวิชาต่างก็มีขอบเขตทักษะที่ต้องการวัดและระดับของการทดสอบที่แบ่งออกไปตามช่วงคะแนน GED แต่ละวิชา ซึ่ง GED Science ก็เช่นกันค่ะ ถึงแม้หลายคนจะคิดว่าเนื้อหามันยากและมีหลายอย่างที่จะต้องจดจำ แต่อยากให้น้องๆ ตั้งเป้าหมายคะแนนกันก่อนเป็นอย่างแรกว่าเราต้องการคะแนน GED วิชานี้ที่เท่าไหร่ หากเราต้องการเพียงให้ผ่านเกณฑ์หรือก็คือ Level 2 (Pass/High School Equivalency: 145 - 164)  เราอาจจะปรับการติว GED ให้มีความรู้เพียงพอต่อการสอบ GED Science ให้ผ่านให้ได้ เพราะเมื่อเป้าหมายในการสอบ GED Science ชัดเจน เราก็จะบริหารเวลาและติว GED ถูกทางนั่นเอง เรามาดูทักษะที่จำเป็นต่อการสอบ GED Science ให้ผ่านเกณฑ์ รายละเอียดในการทดสอบผู้สอบ GED Science ที่คะแนน 145[...]

GED Math Skill Needed อยากสอบผ่าน คะแนน 145 – 164 ทักษะไหนต้องมี รีบเตรียมตัวเลย!

ข้อสอบ GED Mathematical Reasoning หนึ่งใน 4 วิชาที่นักเรียนที่กำลังติว GED จะต้องสอบ คะแนนเต็มของวิชานี้ก็ยังเป็น 200 คะแนนเท่ากับวิชาอื่นๆ หากอยากสอบ GED Math ผ่าน เกณฑ์คะแนนในการสอบผ่านหรือ Level 2 (Pass/High School Equivalency: 145 - 164) ก็มีรายละเอียดในการทดสอบผู้สอบ GED ซึ่งจะแตกย่อยออกมาเป็น 3 หัวข้อหลักๆ คือ ทักษะการแก้ปัญหาเชิงปริมาณในจำนวนตรรกยะ ทักษะการแก้ปัญหาเชิงปริมาณในแบบปริมาตร ทักษะการแก้ปัญหาเชิงพีชคณิตในรูปแบบสำนวนและความสมดุล รายละเอียดการทดสอบทักษะเหล่านี้จะทำให้น้องๆ ที่กำลังติว GED กันอยู่ตอนนี้หรือที่กำลังหลงทางอยู่ว่าจะติว GED Math ไปในทิศทางไหนดี ต้องท่องสูตรหรือจำวิธีทำอะไรบ้าง ทุกคนจะเริ่มมองเห็นหนทางและจับต้นชนปลายถูกแล้วว่าจะต้องติว GED Math ในขอบเขตเรื่องอะไร และจะไม่ต้องท้อแท้ว่าสิ่งที่ต้องเรียนรู้มันจะครองจักรวาลเกินไป เพราะหากต้องการสอบ GED ผ่านในระดับคะแนน 145-164 ทักษะ 3 หัวข้อหลักๆ นี้เอง[...]

GED RLA Skill Needed อยากสอบผ่าน ทักษะต้องมีบ้าง?

น้องๆ หลายคนก็มีคำถามว่า อยากจะสอบ GED บ้างจะทำได้มั้ย? ยากมั้ย? ต้องเก่งภาษาอังกฤษหรือเปล่า? เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าข้อสอบ GED หรือ General Educational Development Test มีรายวิชาที่ต้องสอบให้ผ่านทั้งหมด 4 วิชา คือ Reasoning Through Language Arts, Mathematical Reasoning, Science และ Social Studies ซึ่งข้อสอบ GED ทุกรายวิชาจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เพราะวุฒิ GED เป็นวุฒิการศึกษาเทียบเท่ามัธยมปลายที่ได้รับการรับรองทั่วโลก หากน้องๆ ที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ แต่อยากจะติว GED เพื่อสอบเทียบวุฒิบ้าง สิ่งที่แนะนำได้ดีที่สุดก็คงต้องพัฒนาภาษาอังกฤษให้อยู่ในระดับที่ดีก่อน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการทำข้อสอบ GED ในอนาคต หากน้องๆ ยังจินตนาการได้ไม่ชัดว่าจะต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับไหน ลองอ่านทักษะที่ต้องมีเพื่อที่สอบผ่านรายวิชาแรกของข้อสอบ GED นั่นก็คือวิชาที่เรียกกันสั้นๆ ว่า RLA (Reasoning Through Language Arts) แล้วน้องๆ[...]

5 หลักไวยากรณ์ต้องโฟกัส ถ้าอยากสอบผ่าน GED RLA

ข้อสอบ GED Reasoning Through Language Arts ปราบเซียนมานักต่อนัก จนติว GED กันหัวจุกข้อสอบเพื่อจะเอาชนะเจ้าข้อสอบ GED RLA นี้ให้ได้ ความสำเร็จได้มาจากความรู้ที่แน่น และความรู้ที่แน่นปึกก็มาจากการเตรียมตัวที่ถูกทาง เพราะนอกจากการฝึกฝนทำข้อสอบ GED แล้ว เนื้อหาที่เป็นแก่นสำคัญของข้อสอบ GED ก็สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือเรื่องไวยากรณ์อันเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เรามาดูกันว่ามีไวยากรณ์แบบไหนบ้างที่โผล่มาให้เราต้องไขปริศนากันอยู่เรื่อย Subject-Verb agreement คือ การใช้ประธานและกริยาให้สอดคล้องตามหลักไวยากรณ์ Pronouns ก็คือ คำสรรพนาม Idioms สำนวนภาษาอังกฤษต่างๆ Punctuations การใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่ถูกต้อง Verb Tenses คำกริยาบ่งบอกกาลเวลา เช่น อดีต ปัจจุบัน อนาคต ไวยากรณ์ข้างต้นอาจจะดูเป็นเรื่องทั่วไปที่ไม่น่าจะยากเย็นอะไรสำหรับน้องๆ หลายคน แต่ความรอบคอบเป็นกุญแจสำคัญในการทำข้อสอบ ไม่แพ้ความรู้และความชำนาญในเรื่องภาษาเลยล่ะ ลองเริ่มจากการหมั่นตรวจทานสิ่งที่เราเขียน ดูซิว่าตกหล่นไวยากรณ์ตัวไหนโดยไม่ตั้งใจหรือเปล่า เพราะไม่แน่ว่าในชีวิตประจำวันยังตกหล่นได้ แล้วโอกาสที่จะตกหล่นในตอนที่ต้องทำข้อสอบ GED ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ข้อสอบ GED RLA ยังมีอีกหลายจุดให้เจาะลึกและฝึกฝน[...]

5 สิ่งต้องทำ! ถ้าอยากเอาชนะ GED RLA อ่านเร็วขึ้น เข้าใจทุกมิติ

การที่จะเอาชนะข้อสอบ GED RLA หรือชื่อวิชาเต็มๆ คือ GED Reasoning through Language Arts เราจะต้องอ่านอย่างระมัดระวังเพื่อเข้าใจสิ่งที่อ่าน และจะต้องมีทักษะในการอ่านเร็ว นักเรียนที่กำลังติว GED หลายคนก็มักจะมีปัญหากับการทำข้อสอบ GED RLA เพราะเมื่ออ่านช้าก็ทำข้อสอบไม่ทัน อ่านไม่เข้าใจก็ตอบคำถามไม่ได้ การเรียน GED ให้สอบได้คะแนนดีและแม่นยำในการทำข้อสอบจึงต้องพ่วงมากับเทคนิคที่มีประโยชน์ เรามาดู 5 สิ่งที่ต้องทำ ถ้าอยากเอาชนะข้อสอบ GED RLA กันดีกว่า! Stop reading aloud การอ่านออกเสียงเป็นเทคนิคที่ดีและมีประโยชน์ในการทำ proofreading แต่นั่นอาจไม่เหมาะกับการอ่านในเวลาทำข้อสอบ เพราะการอ่านออกเสียงนั้นทำให้เราอ่านบทความได้ช้าลงนั่นเอง ใครที่ติดกับการอ่านออกเสียงอยู่และรู้ตัวว่ากำลังอ่านข้อสอบได้ช้า อาจจะต้องมาฝึกฝนตัวเองให้ไม่ออกเสียงทุกคำที่อ่าน หรืออย่างมากที่สุดก็ทำได้แค่พึมพำ ลองปรับดูแล้วจะพบว่าการอ่านของเราเร็วขึ้นหลายเท่า! Read groups of words แทนที่จะอ่านเป็นคำๆ เราควรฝึกฝนตัวเองได้มองตัวหนังสือเป็นกลุ่มหรือรูปประโยค นั่นไม่ใช่แค่การอ่านที่ไวขึ้น แต่กลับทำให้เรารับรู้และเข้าใจข้อมูลของสิ่งที่อ่านได้ง่ายขึ้นนั่นเอง Stop rereading หากใครกำลังพบว่าตัวเองมักจะอ่านไปอ่านมาแล้วหลุดบรรทัด หลงทางว่าตัวเองอ่านถึงบรรทัดไหนแล้ว จนทำให้ต้องกลับไปอ่านทวนใหม่ซ้ำๆ นั่นทำให้เสียเวลาอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้มีสมาธิอยู่กับที่อ่านมากขึ้น[...]

เรียนโฮมสคูลดีมั้ย? มาดู 5 ข้อเปรียบเทียบที่จะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เด็กๆ สามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รู้จักตัวเองได้ลึกซึ้งและเข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไร หลายคนจึงสร้างเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่แปลกที่เด็กๆ จะค่อนข้างให้ความสนใจกับการปรับเปลี่ยนระบบการเรียนให้เข้ากับวิถีชีวิตตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะสอบเทียบวุฒิ GED เพื่อจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายในระยะเวลาที่สั้นกว่าระบบปกติ หรือการเรียนโฮมสคูลภายใต้หลักสูตรการเรียน IGCSE และ A-Level เพื่อมีวุฒิการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ แถมยังได้เลือกเรียนวิชาที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความชอบและความถนัดของตัวเอง แต่อย่างที่ทราบกันว่าการสอบ GED คือการเรียนและเตรียมสอบนอกระบบโรงเรียนอยู่แล้ว ส่วนการเรียน IGCSE เรียน A-Level เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนแบบอังกฤษที่มีสอนอยู่ในระบบโรงเรียนนานาชาติ หลายครั้งก็ถูกนำมาสอนแบบโฮมสคูลโดยน้องๆ จะมีการจัดตารางติวและมีครูมาสอนที่บ้านหรือผ่านระบบออนไลน์ หากน้องๆ กำลังคิดว่าอยากเรียนระบบโฮมสคูล แต่ยังไม่ค่อยๆ แน่ใจว่าจะเหมาะกับตัวเองหรือเปล่า เราลองมาดูข้อเปรียบเทียบในปัจจัยต่างๆ กันค่ะ ปัจจัยแรกที่ต้องนึกถึงอย่างแน่นอนอยู่แล้วก็คือ ครอบครัว ซึ่งการเรียนโฮมสคูลอาจจะส่งผลโดยตรงกับคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ต้องมาบริหารจัดการตารางชีวิตให้ลูกๆ แบบเต็มร้อยเปอร์เซนท์ หากเรียน GED อาจมีวิชาที่ต้องมานั่งจัดตารางเรียนไม่มากนัก กลับกันกับการเรียน IGCSE หรือ A-Level ที่มีวิชามากมายที่ต้องเรียนให้ผ่านครบหลักสูตร โดยไม่ควรมีวิชาไหนตกหล่นเพราะเสี่ยงที่เราจะพลาดในกรณีที่ต้องเรียนต่อระดับที่สูงขึ้น แต่ถ้าหากน้องๆ เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบในตัวเองสูง จัดลำดับความสำคัญได้ด้วยตัวเอง พ่อแม่ก็อาจจะไม่ต้องหนักใจในเรื่องนี้ ปัจจัยที่สำคัญมาก เรียกได้ว่าอาจจะต้องเอามาไตร่ตรองเป็นลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ก็คือ ค่าใช้จ่ายนั่นเอง[...]

สอบ GED test ยากมั้ย?

หากถามว่า GED test ยากมั้ย?ความยากที่เห็นได้ชัดของ General Educational Development (GED) test อันดับแรกคงต้องบอกว่าเป็นเรื่องความกดดันของระยะเวลาอันจำกัดในการทำข้อสอบ GED test ให้เสร็จครบทุกข้อนะคะน้องๆ ? จำนวนคำถาม 35 - 40 ข้อ⏰ ระยะเวลาในการทำ 70 - 150 นาที โดยจะขึ้นอยู่กับวิชาที่น้องๆ สอบค่ะ เราจะได้ยินคนที่สอบ GED test บ่นกันบ่อยๆ ว่า “ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ฉันต้องทำคะแนนได้ดีแน่” แต่ตัวข้อสอบ GED test อาจไม่ได้ยากมากอย่างที่คิด เพราะคำถามใน GED test จะไม่เป็นคำถามลวงให้น้องๆ ต้องสับสนมึนงงค่ะ ส่วนใหญ่แล้วคำถามใน GED test จะเป็นคำถามแบบตรงๆ ถ้าหากน้องๆ เตรียมตัวติว GED มาอย่างดีก็สามารถทำได้ผ่านฉลุยเลยค่ะ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานความรู้ของน้องๆ แต่ละคนด้วยนะคะ) สำหรับ GED test[...]