ติว GED ให้ถูกใจ เลือกเรียนที่ไหนดี

GED Certificate เป็นกุญแจในการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในภาคอินเตอร์ รวมถึงการศึกษาต่อในต่างประเทศ ซึ่ง GED เปรียบเสมือนบันไดเลื่อนให้น้องๆสามารถก้าวสู่ระดับอุดมศึกษาได้เร็วกว่าการเรียนสายสามัญตามปกติ อย่างน้อยก็ลดเวลาได้ถึง 1-2 ปี ดังนั้น หลายคนจึงมุ่งมั่นที่จะพิชิต GED Certificate ให้ได้ โดยนอกจากจะต้องอ่านหนังสือ และขยันทำแบบฝึกหัดทั้ง 5 วิชาที่ใช้สอบแล้ว การติว GED ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะเสริมสร้างความมั่นใจให้กับน้องๆอีกด้วย ปัจจุบันก็มีหลายสถาบันที่เปิดสอน ติว GED รวมไปถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการสอบ GED แต่ที่ไหนน่าเรียน หลักสูตรแบบไหนที่น่าสนใจ และเหมาะกับน้องๆมากที่สุดนั้น จะทราบได้อย่างไร คอร์สติว GED ที่ The Planner Education เป็นที่นิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ และมีนักเรียนประสบความสำเร็จด้วยคะแนนที่สูงลิบลิ่วหรือได้คะแนนเต็มในบางวิชา นั่นเป็นเพราะว่าคุณครูและพี่ๆให้ความสำคัญกับสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเรียนการสอน นั่นคือคุณภาพของการติวGED นักเรียนทุกคนจะได้เรียน GED ด้วยเนื้อหาที่ออกสอบบ่อยที่สุดและติวGEDพร้อมแนวข้อสอบจริงของทุกรอบ เรากล้ารับประกันผล เพราะเรารู้จริงทุกเรื่องของการติวGED นอกเหนือจากนั้น เรื่องของค่าเรียนที่The Planner Education ก็สมเหตุสมผลและย่อมเยาว์ จุดเด่นเพิ่มเติมของคอร์สติว GED ของ The[…]

เจาะลึกการเรียนGEDด้วยเทคนิคเขียน Essay

อย่างที่เราทราบกันดีว่าในส่วนของข้อสอบ GED วิชา Language Arts; Writing นั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ข้อสอบด้านโครงสร้างและไวยากรณ์ และอีกส่วนหนึ่งคือการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ (Essay) ตามหัวข้อที่กำหนดให้ ซึ่งผู้สอบหลายท่านอาจเป็นกังวล ทั้งเรื่องวิธีการเขียน การเรียบเรียงเรื่องที่เขียน ไหนยังจะความถูกต้องของเนื้อหาและไวยากรณ์ด้วย ดังนั้น การลำดับความคิด และการวางแผนการเขียน เพื่อให้การเขียน Essay มีประสิทธิผล จะช่วยให้ได้คะแนนของข้อสอบ GED ในส่วนนี้ได้ไม่ยาก การเขียนเรียงความสำหรับการสอบ GED นั้น จะมีการกำหนดหัวข้อและจำนวนคำ ดังนั้น ผู้สอบจะต้องคิดและเขียนเพื่อให้ได้เนื้อหาตรงตามหัวข้อที่กำหนด ซึ่งการจะเขียน Essay ให้ได้คะแนนที่ดีนั้น มีเพียง 3 อย่างที่ต้องรู้ และจำไว้ให้ขึ้นใจ คือ รู้อ่าน รู้เขียน และรู้จักตรวจทาน ซึ่งการรู้ทั้ง 3 อย่างนี้ จะช่วยเพิ่มคะแนน GEDในส่วนของ Writing ได้อย่างไรนั้น อธิบายได้ดังต่อไปนี้ รู้อ่าน การอ่านเป็นรากฐานสำคัญ ซึ่งการอ่านจะทำให้เราได้ความรู้ที่กว้างขึ้น[…]

เรียนGED มีเนื้อหาอะไรบ้าง

การพิชิตข้อสอบ GED ยิ่งเรารู้มากเท่าไหร่ โอกาสสอบผ่านก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าการสอบ GED จะสามารถลงทะเบียนสอบใหม่ (Re-Score) ได้หากสอบไม่ผ่าน แต่คงจะดีกว่าถ้าเราจะเตรียมตัวให้พร้อมอย่างเต็มที่ โดยยอมจ่ายราคาให้กับเวลาเตรียมตัว และค่าสอบเพียงครั้งเดียว จากนั้นก็เปิดประตูสู่มหาวิทยาลัยได้อย่างสวยงาม การสอบ GED ประกอบไปด้วยวิชาหลักสำหรับนักเรียน High School ในสหรัฐอเมริกา จำนวน 5 วิชา ได้แก่ Language Arts; Reading (การอ่านภาษาอังกฤษ), Language Arts; Writing (การเขียนภาษาอังกฤษ), Social Studies (สังคมศึกษาและประวัติศาสตร์), Mathematics (คณิตศาสตร์) และ Science (วิทยาศาสตร์) ซึ่งในการสอบ GED แต่ละวิชา จะมีข้อสอบปรนัย 50 ข้อ แบ่งเป็นเนื้อหาย่อย และมีการให้น้ำหนักแต่ละส่วนของเนื้อหา ดังตาราง ทุกวิชามีคะแนนเต็ม 800 คะแนน โดยเกณฑ์ในการสอบ GED ให้ผ่าน ไม่มีอะไรซับซ้อน[…]

การเรียนGED คืออะไร

Francis Bacon นักปราชญ์ รัฐบุรุษ นักวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย และ นักเขียน ชาวอังกฤษเคยกล่าวไว้ว่า “Knowledge is Power” มีความหมายว่า “ความรู้ คือ พลัง” ดังนั้น โอกาสแห่งเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งน้องๆที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนต่างก็มีเส้นทางในการเรียนรู้ต่างๆกันออกไป บางคนอยู่ในระบบการศึกษา บางคนเรียนแบบ Home School หรือบางคนเรียนรู้จากระบบการศึกษานอกโรงเรียน เป็นต้น บทความนี้เราจะแนะนำให้น้องๆรู้จักกับประตูแห่งการศึกษาอีกแบบหนึ่งที่เราเรียกกันว่า GED (จีอีดี) ซึ่งชื่อเต็มก็คือ General Educational Development นั่นเอง ในแวดวงการศึกษาต่อเราอาจจะเคยได้ยินคำว่า “การสอบ GED” กันมาบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการสอบ GED คืออะไรกันแน่ และสอบไปแล้วจะเอาผลไปใช้อะไรได้บ้าง ดังนั้น เรามาเริ่มกันตั้งแต่นิยามของ GED กันเลย GED (General Educational Development) คือ การสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับ High School Diploma ของระบบการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา[…]

General Educational Development (GED)

GED หรือ General Educational Development เป็นการสอบเทียบเท่าระดับมัธยมปลายของประเทศอเมริกา และได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย นักเรียนสามารถใช้วุฒิ GED ในการสมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยรัฐบาลภาคอินเตอร์และ มหาวิทยาลัยเอกชนทั้งภาคไทยและอินเตอร์ในประเทศไทย หรือสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศก็ได้เช่นกัน ผู้มีสิทธิ์สอบจะต้องมีอายุครบ 16 ปีขึ้นไป แต่จะได้รับวุฒิเมื่ออายุครบ17 ปี นักเรียนจะต้องสอบทั้งหมด 5 วิชาด้วยกันนั่นก็คือ Language Arts Reading, Language Arts Writing, Social Studies, Science, and Mathematics แต่ละวิชานั้นมี 800 คะแนน นักเรียนจะต้องสอบให้ได้ 410 คะแนนถึงจะผ่าน ส่วนคะแนนรวมทั้ง 5 วิชาต้องได้ 2250 คะแนน ข้อสอบGED ในประเทศไทยเปลี่ยนหรือยัง? ในปี 2014 นี้ ศูนย์สอบในประเทศไทยยังคงใช้ข้อสอบ The 2002 Series GED® test ที่มี 5 วิชาอยู่เช่นเดิม ถึงแม้ว่าทางฝั่งอเมริกาจะเปลี่ยนการสอบจาก The 2002 Series GED® test  เป็นแบบใหม่ที่เรียกว่า The 2014[…]