เรียน GED เรียน IELTS Writing: เขียน Essay อย่างไรให้ได้คะแนนเยอะ

การเขียนเรียงความเป็นงานที่หลายคนไม่ชอบ เรียงความภาษาไทยก็นับว่ายากแล้วเรียงความภาษาอังกฤษความยากยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ การเรียนGED หรือ IELTS เป็นการเตรียมตัวสอบวัดความสามารถที่ยอมรับกันในระดับสากลในปัจจุบันนี้ เช่นการสอบ GED หรือการสอบ IELTS จะมีโจทย์ให้เขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษหรือที่เรียกว่า Essay สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวสอบและกังวลกับการเขียนเรียงความนี้ เรามีคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเพื่อทำข้อสอบในส่วนเขียนอย่างไรให้ได้คะแนนเยอะ ดังต่อไปนี้ อ่านให้มาก ควรเลือกอ่านบทความที่ดีมีคุณภาพในหนังสือพิมพ์ นิตยสารและเว็บไซต์ต่างๆ จะทำให้เราได้เห็นตัวอย่างที่ดี การเรียบเรียงความคิด คำศัพท์ใหม่ๆ รูปแบบการเขียน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ถ้าเราได้อ่านอย่างมากพอจะทำให้เราซึมซับได้อย่างอัตโนมัติโดยที่อาจจะไม่ต้องท่องจำไวยากรณ์อย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งอ่านมากคลังคำก็มากตามทำให้การเขียนของเราดีขึ้นตามไปด้วย อ่านโจทย์ให้เข้าใจ ว่าโจทย์ต้องการให้เราเขียนเกี่ยวกับอะไร ถึงแม้ว่านักเรียนจะเขียนได้ไพเราะถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ทุกอย่าง แต่เขียนตอบไม่ตรงคำถามก็คงไม่ได้คะแนนดีเท่าที่ควร เขียนให้ถูกวิธี บทความนั้นจะแบ่งได้เป็น 3ส่วนหลักๆ คือIntroduction, BodyและConclusionโดยแต่ละส่วนจะมีลักษณะดังนี้ Introductionหรือ บทนำจะเป็น Paragraph แรกของ Essay ส่วนนี้มีความสำคัญมากต้องเขียนดึงดูดใด้ผู้อ่านสนใจที่จะอ่านต่อไปในส่วนเนื้อหาให้ได้ Body เป็นส่วนใจความสำคัญ เป็นส่วนที่ยาวที่สุดที่จะบอกเล่าเนื้อหาต่างๆ ผู้เขียนควรวางโครงเรื่องให้ดี ให้มีความสอดคล้องกันตลอดเรื่อง ครบทุกประเด็นที่โจทย์ต้องการ Conclusionคือ บทสรุปของเนื้อหาทั้งหมดซึ่งจะขมวดใจความสำคัญของเรื่อง ตรงประเด็น ไม่ขัดแย้งกับเนื้อหาที่เขียน *อย่างไรก็ตาม เราจะต้องพิจารณาว่าหัวข้อที่เราได้มานั้นควรจะถูกเขียนเป็น 4 หรือ 5[…]

มารู้จัก GED ให้มากขึ้นกันดีกว่า

หากถามผู้ใหญ่หลายๆ คนว่า GED คืออะไร เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะส่ายหน้าว่าไม่รู้จัก แม้ไปถามเด็กนักเรียนก็อาจจะมีบางคนไม่รู้จักเช่นกันก็เป็นได้ GED ย่อมาจาก General Education Development หมายถึง การสอบเทียบวุฒิการศึกษามัธยมปลายตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ สามารถสอบได้ ประวัติความเป็นมาของการสอบเทียบ ม.ปลาย (GED Test) การสอบเทียบถือกำเนิดขึ้นจากเจตนาดีที่ต้องการเพิ่มโอกาสให้กับคนทั่วไปที่ไม่ได้รับการศึกษาในระบบโรงเรียน ได้มีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้ในวิชาแขนงต่างๆ และยังสามารถได้รับประกาศนียบัตรเช่นเดียวกับนักเรียนในระบบ ในอเมริกาผู้ที่สอบ GED ส่วนมากจะเป็นวัยผู้ใหญ่ที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย การสอบมีขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1942 ซึ่งตรงกับ พ.ศ.2485 นับเป็นเวลากว่า 70 ปีแล้วที่มีการสอบดังกล่าว ซึ่งการสอบเป็นการประเมินทักษะและความรู้ทางวิชาการของผู้เรียนในระดับชั้นไฮสคูลหรือมัธยมศึกษาตอนปลายในรายวิชาภาษาอังกฤษทั้งการอ่านและการเขียน สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ข้อสอบ GED เป็นข้อสอบแบบปรนัย(Multiple choic) ข้อสอบถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องควบคู่กันไปกับการพัฒนาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของอเมริกา นอกจากนี้ยังออกข้อสอบให้เข้ากับสภาพสังคมในขณะนั้น จวบจนปัจจุบันมีการแก้ไขชุดข้อสอบแล้วทั้งหมด 5 เวอร์ชั่นดังนี้ เวอร์ชั่น ค.ศ.1942 เป็นข้อสอบชุดแรกที่ใช้ในท่ามกลางความรุ่งเรืองยุคอุตสาหกรรม ข้อสอบภาษาอังกฤษจะเน้นความถูกต้องและประสิทธิภาพในการใช้ภาษา ส่วนวิชาสังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์เน้นการตีความจากการอ่านข้อสอบ เวอร์ชั่น ค.ศ.1978 ยุคอุตสาหกรรมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงการใช้ชีวิตของผู้คน[…]

ใครควรเรียน GED

GED ย่อมาจาก General Education Development เป็นการสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของไทยให้เทียบเท่าระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบันการสอบดังกล่าวเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทยโดยเฉพาะในหมู่นักเรียนโรงเรียนนานาชาติ แม้ไม่มีการบังคับให้นักเรียนทุกคนต้องสอบ แต่ก็ยังมีนักเรียนบางส่วนต้องการสอบ GED ด้วยความสมัครใจในเหตุผลที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลดังต่อไปนี้ คำถามก็คือใครควรเรียนGED บุคคลส่วนใหญ่ด้านล่างนี้ล้วนแล้วเหมาะแก่การเรียนGEDเป็นอย่างมาก และที่ผ่านมาตามสถิติแล้วนั้น บุคคลในกลุ่มนี้เรียนGEDกันมากที่สุด เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนที่กลับมาจาก exchange program ในต่างประเทศเมื่อกลับมาไม่ต้องการกลับไปเรียนกับรุ่นน้อง จึงต้องการสอบ GED เพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนที่จบระดับ High School จากต่างประเทศ แต่กระทรวงศึกษาธิการไม่รับเทียบวุฒิให้ ซึ่งเป็นไปได้หลายสาเหตุ เช่น หน่วยกิตไม่เพียงพอ กลุ่มวิชาเรียนไม่ตรงกัน เรียนจบจากโรงเรียนนานาชาติในไทยแต่กระทรวงศึกษาธิการไม่รับรองคุณวุฒิ ดารานักร้องวัยรุ่นที่ไม่มีเวลาไปเข้าห้องเรียนตามปกติ ไม่สามารถทำการบ้านอ่านหนังสือสอบได้เช่นนักเรียนทั่วไป นักเรียน Home School ซึ่งมีการเรียนการสอนที่บ้านโดยไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนในระบบ หลังจากเรียนจบจึงต้องการสอบ GED เพื่อสอบเทียบวุฒิและนำไปสมัครเรียนในชั้นอุดมศึกษา นักเรียนที่ต้องออกจากระบบการศึกษากลางคัน จากนั้นศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ต้องการสอบ GED เพื่อสอบเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาในระบบได้เหมือนเดิม เด็กนักเรียนที่พ่อแม่ส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ และไม่สามารถเรียนจบได้ อาจจะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ก็สามารถสอบ GED เพื่อเทียบวุฒิและศึกษาในประเทศไทยต่อได้ เป็นนักเรียนในระบบปกติแต่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยก่อนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6[…]

GED คืออะไร 10 คำถามควรรู้ ก่อนเรียน GED

การใช้ชีวิตในยุคดิจิตอลเช่นนี้ ไม่ว่าอะไรต่างก็ปรับตัวให้รวดเร็วทันใจสมชื่อยุค ไม่เว้นแม้แต่ระบบการศึกษา การเรียน GED เป็นการเรียนเพื่อสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ตามหลักสูตรของสหรัฐอเมริกา ผู้สอบผ่านสามารถใช้ประกาศนียบัตรสมัครเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันนักเรียนให้ความสนใจสมัครเรียน GED และสอบ GED กันมากขึ้น เพราะช่วยให้สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เร็วขึ้นกว่าปกติ The Planner Education เป็นหนึ่งในสถาบันเรียน GED ที่ดีที่สุด ได้รับการไว้วางใจจากน้อง ๆ และผู้ปกครองมากมาย ดูแลและให้คำปรึกษาเรื่องการเรียน GED ตั้งแต่สมัครเรียนจนได้รับวุฒิ คอร์สเรียน GED รับรองผล 100% (สอบไม่ผ่าน เรียนซ้ำฟรีจนผ่าน) ที่ The Planner Education ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตรงตามจุดประสงค์ของผู้สอบ โดยมีการเรียนเนื้อหาที่สำคัญที่มีในข้อสอบจริงที่อัปเดทล่าสุด ดังนั้นเราจึงกล้ารับประกันผล หากลงเรียนเต็มคอร์สแล้วสอบไม่ผ่าน เรียนซ้ำฟรี! รับคำปรึกษารายบุคคล คลิกที่นี่ สำหรับใครที่สนใจสอบถาม หรืออยากรู้ข้อมูลคอร์สเรียน GED เพิ่มเติม เรามีข้อมูลมาฝากกัน 10 ข้อดังต่อไปนี้ GED คืออะไร และย่อมาจากอะไร ตอบ[...]

5 วิชาเรียนGED

การเรียนGEDเป็นการเรียนเพื่อสอบGED ซึ่งเทียบเท่าวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรของประเทศสหรัฐอเมริกาและรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย การเรียนGEDตามสถาบันจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาที่ผู้จบมัธยมปลายควรจะรู้ ผู้สอบสามารถเข้าสอบได้ตามศูนย์สอบทั่วโลก โดยสอบผ่านคอมพิวเตอร์และสามารถทราบผลสอบหลังจากสอบเสร็จเลยทันที ยกเว้นข้อสอบในส่วนของการเขียนที่ต้องรอผลประมาณ 1 สัปดาห์ เนื้อหาการเรียนGEDแต่ละวิชามีดังนี้ กลุ่มวิชาที่สอบมี 5 วิชา ดังต่อไปนี้ Language Art, Writing แบ่งออกเป็น 2 ส่วน Part I: การอ่านบทความ เช่น บทความจากหน้าหนังสือพิมพ์ จดหมาย บันทึกการประชุม อีเมล์ต่างๆ ข่าวหรืองานเอกสารที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และตอบคำถามให้ถูกต้องเกี่ยวกับไวยากรณ์และการใช้ โครงสร้างรูปประโยค การเชื่อมต่อประโยคและคำศัพท์Part II: เขียนเรียงความ 1 เรื่อง เขียนเรียงความ(Essay)ตามหัวข้อที่กำหนดโดยพิมพ์ผ่านแป้นคอมพิวเตอร์โดย การให้คะแนนบทความนั้นจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น เน้นประเด็นสำคัญ ความชัดเจนของโครงร่าง การแสดงความคิดเห็น การใช้ภาษาที่ถูกต้อง Language Art, Reading เนื้อหาส่วนนี้เน้นในเรื่องการอ่านวรรณกรรมทั้งที่เป็นวรรณคดี (literature ) และเรื่องที่เกิดขึ้นจริง (nonfiction) สำหรับบทความที่เป็น nonfiction จะเป็นการอ่านเอกสารทางธุรกิจ และอาจมีบทความอื่นๆ บทบรรณาธิการ บทภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เป็นต้น[…]