คะแนน SAT แค่ไหนที่เรียกว่าดี? มาดู percentiles ของคะแนนแต่ละช่วงกันดีกว่า

ข้อสอบ SAT ในปัจจุบันจะใช้หลักคะแนนเต็ม 1600 คะแนน ซึ่งเมื่อก่อนนั้นจะเป็น 2400 คะแนน ขอเดาว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านเนื้อหานี้ก็ต้องมีคำถามอยู่ในหัวว่า คะแนน SAT ต้องได้เท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าดี นักเรียนที่ทำข้อสอบ SAT ก็มีเป้าหมายในการใช้คะแนนที่ต่างกัน แต่ทุกคนก็ต้องอยากรู้ว่าคะแนนสอบ SAT ของตัวเองอยู่ในระดับไหนกันแน่ แย่หรือดี แล้วต้องเทียบวัดคะแนนสอบ SAT แบบไหนที่เรียกว่าตามมาตรฐานทั่วไป เพราะฉะนั้นเรามาดูหลักเกณฑ์ที่ College Board ได้จัดเทียบกับ percentiles มาให้ ทั้งแบบรายวิชาและแบบคะแนนรวมเลย จะเห็นว่า Percentile Score ทำหน้าที่ชี้วัดประสิทธิภาพคะแนนสอบ SAT ของเราได้อย่างเข้าใจง่ายว่าเราจัดเป็นผู้สอบ SAT ที่มีผลคะแนนดีหรือไม่ แต่ถ้าต้องการเจาะจงเปรียบเทียบกับผู้สอบ SAT ทั่วไปว่าส่วนใหญ่ได้คะแนน SAT เท่าไหร่ ก็มีสรุปมาว่าได้คะแนน SAT เฉลี่ยกันอยู่ที่ 1060 คะแนน ในจำนวน 75% จะมีคะแนนสอบ SAT ที่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี คือ ระหว่าง 1190[...]

GED RLA Skill Needed อยากสอบผ่าน ทักษะต้องมีบ้าง?

น้องๆ หลายคนก็มีคำถามว่า อยากจะสอบ GED บ้างจะทำได้มั้ย? ยากมั้ย? ต้องเก่งภาษาอังกฤษหรือเปล่า? เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าข้อสอบ GED หรือ General Educational Development Test มีรายวิชาที่ต้องสอบให้ผ่านทั้งหมด 4 วิชา คือ Reasoning Through Language Arts, Mathematical Reasoning, Science และ Social Studies ซึ่งข้อสอบ GED ทุกรายวิชาจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เพราะวุฒิ GED เป็นวุฒิการศึกษาเทียบเท่ามัธยมปลายที่ได้รับการรับรองทั่วโลก หากน้องๆ ที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ แต่อยากจะติว GED เพื่อสอบเทียบวุฒิบ้าง สิ่งที่แนะนำได้ดีที่สุดก็คงต้องพัฒนาภาษาอังกฤษให้อยู่ในระดับที่ดีก่อน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการทำข้อสอบ GED ในอนาคต หากน้องๆ ยังจินตนาการได้ไม่ชัดว่าจะต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับไหน ลองอ่านทักษะที่ต้องมีเพื่อที่สอบผ่านรายวิชาแรกของข้อสอบ GED นั่นก็คือวิชาที่เรียกกันสั้นๆ ว่า RLA (Reasoning Through Language Arts) แล้วน้องๆ[...]

SAT Grammar Rules กฎไวยากรณ์ 10 ข้อ ต้องรู้!

ข้อสอบ SAT Evidence-Based Reading and Writing มีกฎไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (grammar rules) มีอยู่มากมายวาไรตี้ แต่กฎที่มักจะออกมาในข้อสอบ SAT ให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ ก็ค่อนข้างมีมาให้จับสังเกตได้ น้องๆ ที่กำลังติว SAT เพื่อจะลงสนามสอบครั้งหน้า อาจจะต้องมีการเตรียมตัว จับจุดข้อสอบ SAT ให้ได้ เพราะไม่ใช่แค่ทำข้อสอบได้ดีขึ้น แต่ยังใช้เวลาในการทำข้อสอบ SAT ได้เร็วขึ้นเช่นกัน ยกตัวอย่างว่าเราติว SAT มาล่วงหน้าด้วยการลองฝึกทำกฎไวยากรณ์ต่างๆ ที่ควรเน้น เราก็จะเคยชินกับข้อสอบ SAT และเมื่อต้องลงสนามจริง บังเอิญเจอกับโจทย์ SAT คล้ายกันที่ผ่านตาผ่านมือมาแล้ว เราก็จะตอบคำถามข้อสอบ SAT ข้อนั้นได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน เห็นมั้ยว่าการติว SAT ให้ตรงจุดมาล่วงหน้า ทำให้ได้ทั้งคะแนนแล้วยังประหยัดเวลาจริงๆ! เรามาดูกฎไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่เตรียมตัวดีก็มีชัยในการทำข้อสอบ SAT แน่ๆ!  จากที่เราดูกฎไวยากรณ์ภาษาอังกฤษต่างๆ ข้างต้น สามารถนำไปปรับใช้ในการติว SAT เพื่อหาจุดบกพร่องที่เรามักจะทำผิดอยู่บ่อยๆ ถ้าเราปิดจุดบอดที่มักทำพลาดหรือตกหล่นได้ การสอบ SAT ครั้งหน้าก็คว้าชัยแน่นอน![...]

A-Level หรือ IB เรียนหลักสูตรแบบไหนถึงจะใช่ตัวเรา มาวิเคราะห์กัน

นี่อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญของน้องๆ นักเรียนนานาชาติหลายคนที่กำลังต้องเลือกว่าจะเรียนต่อหลักสูตร A-Level (the General Certificate of Education Advanced Level) หรือหลักสูตร IB (the International Baccalaureate Diploma Program) ทั้งสองหลักสูตรคือการเรียนในระดับชั้นมัธยมปลาย โดยเป็นการเลือกเรียนในช่วงสองปีสุดท้ายหรือสำหรับนักเรียนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป แต่จะเรียน A-Level หรือเรียน IB ดีล่ะ? แบบไหนถึงจะเหมาะกับเราและเป็นต้นทุนในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ตรงจุด เรามาดูความแตกต่างหลักๆ ที่เห็นเด่นชัดกันดีกว่า มาดูบทสรุปว่าหลักสูตรแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา? สรุปหลักสูตร A-Level ➡ หลักสูตรนี้เหมาะกับน้องๆ ที่มั่นใจมากๆ ว่าจะไปเรียนต่อคณะและมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ เพราะหลักสูตรนี้ยึดตามระบบของประเทศอังกฤษค่ะ บ่อยครั้งที่ในการสัมภาษณ์เข้าเรียนบางคณะ เช่น การสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย Oxford และ Cambridge นักเรียนหลายคนจะเจอคำถามที่เป็นพื้นฐานของหลักสูตร A-Level รวมอยู่ด้วย หากเรียนมาตรงหลักสูตรก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งเลยใช่มั้ยล่ะ อีกทั้งการเรียน A-Level จะเป็นการศึกษาเนื้อหาความรู้แบบเจาะลึกในสิ่งที่เราจะไปใช้ต่อยอดในคณะที่ใฝ่ฝัน .สรุปหลักสูตร IB ➡ หลักสูตรนี้เหมาะกับน้องๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปเรียนต่อคณะและมหาวิทยาลัยใดในโลกไปนี้[...]

5 จุดเด่นของนักเรียน IB ที่ไม่ได้เก่งแค่ในห้องเรียนเท่านั้น

หลักสูตรการเรียน IB (The International Baccalaureate Diploma Program) คิดค้นโดยประเทศเยอรมันนี เป็นหลักสูตรที่ยอมรับในระดับสากลและยังถูกพูดถึงว่าเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนชั้นเยี่ยม! หลักสูตรการเรียน IB เรียกได้ว่าเกิดขึ้นมาเพื่อนักเรียนที่ชอบความท้าทายและพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นรอบด้านโดยไม่จำกัดแค่ในหนังสือเรียน หากน้องๆ เป็นหนึ่งในนักเรียนที่ฝันไกล ใส่ใจเรื่องรอบตัวจนถึงรอบโลก ไม่เกรงกลัวต่อการเรียนรู้วิชาการที่เข้มข้นและภาวะกดดันของการบริหารเวลา หลักสูตรการเรียน IB ก็ถือว่าเป็นหลักสูตรที่เหมาะกับน้องๆ เรามาดูกันว่าการได้เรียน IB จะทำให้น้องๆ มีจุดเด่นแบบไหนบ้างที่ไม่เหมือนที่อื่น สมองฟิตพร้อมพิชิตเป้าหมาย นักเรียน IB จะต้องเลือกวิชาในบรรดารายวิชาที่หลากหลาย สิ่งสำคัญก็คือการเลือกวิชาที่จะต้องมีความยากง่ายคละอยู่ด้วยกัน จะมีทั้งวิชาในระดับพื้นฐานและระดับสูง ซึ่งวิชาที่มีความยากในระดับสูงนั้นเรียกได้ว่าเป็นเนื้อหาสำคัญในการเรียนต่อมหาวิทยาลัย อีกทั้งนักเรียนหลายคนยังใช้เก็บหน่วยกิตวิชานั้นๆ ในมหาวิทยาลัยได้เลยอีกด้วย เนื้อหาความรู้ในเชิงวิชาการแบบนี้จะช่วยผลักดันนักเรียน IB ให้ขยายลิมิตการเรียนรู้ของตัวเองให้ไกลขึ้น จึงเป็นที่มาของสมองฟิตพร้อมพิชิตเป้าหมายนั่นเอง! มีทักษะการใช้ชีวิต ตามหลักสูตรการเรียน IB นักเรียนจะไม่ใช่แค่เรียนรู้วิชาการอย่างเข้มข้น แต่ในรูปแบบการเรียนนั้นจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้นักเรียน IB ต้องเรียนรู้การบริหารจัดการเวลา คิดอย่างมีตรรกะ วิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ และทักษะอีกหลากหลายที่ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนช่วยให้ออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอกได้อย่างแข็งแกร่ง รู้จักยืดหยุ่น อดทนและบริหารเวลาได้ดี สามทักษะนี้จะเป็นทักษะที่สำคัญมากๆ เพราะในช่วงสองปีในการเรียน IB Diploma Program นักเรียนจะต้องพบเจอกับรูปแบบการเรียนที่ต้องมีการวางแผนที่ดี เช่น[...]

เช็คลิสต์ 8 ข้อ เตรียมสอบ SAT Reading & Writing แบบไม่มีตกหล่น!

ติว SAT อยู่นาน เตรียมสอบอยู่แต่บนหน้าข้อสอบเก่ากองพะเนินเทินทึก ลองเงยหน้าขึ้นมาหายใจหายคอกันสักหน่อยมั้ย มีอะไรตกหล่นหรือเปล่า ฝึกฝนความรู้เตรียมสอบ SAT Reading & Writing ให้ได้คะแนนมากขึ้นมานาน แต่ก็ยังเหมือนกับว่าจะหลงทางไม่เลิก ดูท่าทางต้องมาตรวจสอบเช็คลิสต์เคล็ด(ไม่)ลับที่จะทำให้การสอบ SAT Reading & Writing ที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นไปอย่างใจต้องการแล้วล่ะ 1. หาจุดอ่อนของตัวเองให้เจอติว SAT อยู่เรื่อยๆ ฝึกทำข้อสอบ SAT อยู่บ่อยๆ แล้วเราเคยสังเกตและทำความเข้าใจตัวเองมั้ยว่า เรามีจุดอ่อนในด้านไหนบ้าง ถ้าเอาแต่ทำข้อสอบเก่าโดยไม่เคยสำรวจตัวเองเลยว่าไม่ถนัดหัวข้อไหนในข้อสอบ SAT ถึงเวลาที่จะต้องจดโน้ตในส่วนที่ไม่เข้าใจเพื่อที่จะได้นำมาฝึกฝนหนักขึ้นและหาความรู้ในส่วนนั้นเพิ่มเติมจนชำนาญ 2. ไวยากรณ์ต้องแน่น!ภาษาดีเป็นเลิศ คำศัพท์เพื่อสอบ SAT ก็ท่องจำมาแล้วหลายตลบ แต่อย่ามองข้ามเรื่องสุดสำคัญอย่างไวยากรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูไม่น่าพลาดอย่าง punctuation และ spelling แต่เก่งมาจากไหนก็ตาม ถ้าไม่ตรวจทานให้รอบคอบล่ะก็… คะแนนหายไปไม่รู้ตัวนะขอบอก 3. เขียนอย่างสร้างสรรค์ ใส่ความเป็นตัวตนข้อสอบ SAT อาจจะไม่ได้เจาะจงวัดความคิดสร้างสรรค์ของผู้สอบ แต่อย่างน้อยก็คงดีกว่าแน่ ถ้าเราใส่ความเป็นตัวตนลงไปบ้าง ให้ข้อสอบของเราไม่เหมือนกับการท่องจำเข้ามา 4. เขียนให้ครบองค์ประกอบไม่ว่าจะสอบ[...]

5 หลักไวยากรณ์ต้องโฟกัส ถ้าอยากสอบผ่าน GED RLA

ข้อสอบ GED Reasoning Through Language Arts ปราบเซียนมานักต่อนัก จนติว GED กันหัวจุกข้อสอบเพื่อจะเอาชนะเจ้าข้อสอบ GED RLA นี้ให้ได้ ความสำเร็จได้มาจากความรู้ที่แน่น และความรู้ที่แน่นปึกก็มาจากการเตรียมตัวที่ถูกทาง เพราะนอกจากการฝึกฝนทำข้อสอบ GED แล้ว เนื้อหาที่เป็นแก่นสำคัญของข้อสอบ GED ก็สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือเรื่องไวยากรณ์อันเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เรามาดูกันว่ามีไวยากรณ์แบบไหนบ้างที่โผล่มาให้เราต้องไขปริศนากันอยู่เรื่อย Subject-Verb agreement คือ การใช้ประธานและกริยาให้สอดคล้องตามหลักไวยากรณ์ Pronouns ก็คือ คำสรรพนาม Idioms สำนวนภาษาอังกฤษต่างๆ Punctuations การใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่ถูกต้อง Verb Tenses คำกริยาบ่งบอกกาลเวลา เช่น อดีต ปัจจุบัน อนาคต ไวยากรณ์ข้างต้นอาจจะดูเป็นเรื่องทั่วไปที่ไม่น่าจะยากเย็นอะไรสำหรับน้องๆ หลายคน แต่ความรอบคอบเป็นกุญแจสำคัญในการทำข้อสอบ ไม่แพ้ความรู้และความชำนาญในเรื่องภาษาเลยล่ะ ลองเริ่มจากการหมั่นตรวจทานสิ่งที่เราเขียน ดูซิว่าตกหล่นไวยากรณ์ตัวไหนโดยไม่ตั้งใจหรือเปล่า เพราะไม่แน่ว่าในชีวิตประจำวันยังตกหล่นได้ แล้วโอกาสที่จะตกหล่นในตอนที่ต้องทำข้อสอบ GED ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ข้อสอบ GED RLA ยังมีอีกหลายจุดให้เจาะลึกและฝึกฝน[...]

5 สิ่งต้องทำ! ถ้าอยากเอาชนะ GED RLA อ่านเร็วขึ้น เข้าใจทุกมิติ

การที่จะเอาชนะข้อสอบ GED RLA หรือชื่อวิชาเต็มๆ คือ GED Reasoning through Language Arts เราจะต้องอ่านอย่างระมัดระวังเพื่อเข้าใจสิ่งที่อ่าน และจะต้องมีทักษะในการอ่านเร็ว นักเรียนที่กำลังติว GED หลายคนก็มักจะมีปัญหากับการทำข้อสอบ GED RLA เพราะเมื่ออ่านช้าก็ทำข้อสอบไม่ทัน อ่านไม่เข้าใจก็ตอบคำถามไม่ได้ การเรียน GED ให้สอบได้คะแนนดีและแม่นยำในการทำข้อสอบจึงต้องพ่วงมากับเทคนิคที่มีประโยชน์ เรามาดู 5 สิ่งที่ต้องทำ ถ้าอยากเอาชนะข้อสอบ GED RLA กันดีกว่า! Stop reading aloud การอ่านออกเสียงเป็นเทคนิคที่ดีและมีประโยชน์ในการทำ proofreading แต่นั่นอาจไม่เหมาะกับการอ่านในเวลาทำข้อสอบ เพราะการอ่านออกเสียงนั้นทำให้เราอ่านบทความได้ช้าลงนั่นเอง ใครที่ติดกับการอ่านออกเสียงอยู่และรู้ตัวว่ากำลังอ่านข้อสอบได้ช้า อาจจะต้องมาฝึกฝนตัวเองให้ไม่ออกเสียงทุกคำที่อ่าน หรืออย่างมากที่สุดก็ทำได้แค่พึมพำ ลองปรับดูแล้วจะพบว่าการอ่านของเราเร็วขึ้นหลายเท่า! Read groups of words แทนที่จะอ่านเป็นคำๆ เราควรฝึกฝนตัวเองได้มองตัวหนังสือเป็นกลุ่มหรือรูปประโยค นั่นไม่ใช่แค่การอ่านที่ไวขึ้น แต่กลับทำให้เรารับรู้และเข้าใจข้อมูลของสิ่งที่อ่านได้ง่ายขึ้นนั่นเอง Stop rereading หากใครกำลังพบว่าตัวเองมักจะอ่านไปอ่านมาแล้วหลุดบรรทัด หลงทางว่าตัวเองอ่านถึงบรรทัดไหนแล้ว จนทำให้ต้องกลับไปอ่านทวนใหม่ซ้ำๆ นั่นทำให้เสียเวลาอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้มีสมาธิอยู่กับที่อ่านมากขึ้น[...]

เรียนโฮมสคูลดีมั้ย? มาดู 5 ข้อเปรียบเทียบที่จะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เด็กๆ สามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รู้จักตัวเองได้ลึกซึ้งและเข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไร หลายคนจึงสร้างเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่แปลกที่เด็กๆ จะค่อนข้างให้ความสนใจกับการปรับเปลี่ยนระบบการเรียนให้เข้ากับวิถีชีวิตตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะสอบเทียบวุฒิ GED เพื่อจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายในระยะเวลาที่สั้นกว่าระบบปกติ หรือการเรียนโฮมสคูลภายใต้หลักสูตรการเรียน IGCSE และ A-Level เพื่อมีวุฒิการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ แถมยังได้เลือกเรียนวิชาที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความชอบและความถนัดของตัวเอง แต่อย่างที่ทราบกันว่าการสอบ GED คือการเรียนและเตรียมสอบนอกระบบโรงเรียนอยู่แล้ว ส่วนการเรียน IGCSE เรียน A-Level เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนแบบอังกฤษที่มีสอนอยู่ในระบบโรงเรียนนานาชาติ หลายครั้งก็ถูกนำมาสอนแบบโฮมสคูลโดยน้องๆ จะมีการจัดตารางติวและมีครูมาสอนที่บ้านหรือผ่านระบบออนไลน์ หากน้องๆ กำลังคิดว่าอยากเรียนระบบโฮมสคูล แต่ยังไม่ค่อยๆ แน่ใจว่าจะเหมาะกับตัวเองหรือเปล่า เราลองมาดูข้อเปรียบเทียบในปัจจัยต่างๆ กันค่ะ ปัจจัยแรกที่ต้องนึกถึงอย่างแน่นอนอยู่แล้วก็คือ ครอบครัว ซึ่งการเรียนโฮมสคูลอาจจะส่งผลโดยตรงกับคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ต้องมาบริหารจัดการตารางชีวิตให้ลูกๆ แบบเต็มร้อยเปอร์เซนท์ หากเรียน GED อาจมีวิชาที่ต้องมานั่งจัดตารางเรียนไม่มากนัก กลับกันกับการเรียน IGCSE หรือ A-Level ที่มีวิชามากมายที่ต้องเรียนให้ผ่านครบหลักสูตร โดยไม่ควรมีวิชาไหนตกหล่นเพราะเสี่ยงที่เราจะพลาดในกรณีที่ต้องเรียนต่อระดับที่สูงขึ้น แต่ถ้าหากน้องๆ เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบในตัวเองสูง จัดลำดับความสำคัญได้ด้วยตัวเอง พ่อแม่ก็อาจจะไม่ต้องหนักใจในเรื่องนี้ ปัจจัยที่สำคัญมาก เรียกได้ว่าอาจจะต้องเอามาไตร่ตรองเป็นลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ก็คือ ค่าใช้จ่ายนั่นเอง[...]

Native English Speaker สอบ SAT Reading & Writing ได้คะแนนเต็มกันทุกคนจริงหรือ?

หลายคนอาจมั่นใจว่าบรรดาเจ้าของภาษาที่เกิดมาก็อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่และจะต้องสอบ SAT Evidence-Based Writing and Reading ได้คะแนนเต็มแน่ๆ แต่ความจริงแล้วมันเป็นอย่างที่เราคิดหรือเปล่านะ คำตอบ คือ ไม่จริงทั้งหมดค่ะ มีเจ้าของภาษาเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่สามารถทำข้อสอบ SAT ไม่ว่าจะ Reading หรือ Writing ได้คะแนนเต็ม มาดูกันดีกว่าว่าเพราะอะไร 1. อ่านออกเขียนได้ ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถวิเคราะห์สิ่งที่อ่านได้ การอ่านบทความในข้อสอบ SAT เป็นเพียงสงครามด่านแรกที่ต้องเผชิญ เพราะสิ่งที่ต้องต่อสู้หลังจากนั้นก็คือการวิเคราะห์เนื้อหา เปรียบเทียบบทความ ค้นหาใจความสำคัญ และหาข้อสรุปเนื้อหาที่สลับซับซ้อน การจะทำข้อสอบในส่วนนี้ได้ดีจะต้องอาศัยทักษะการคิดเชิงตรรกะ มากกว่าการอ่านแบบเอาความหมายเท่านั้น 2. ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่อง ไม่ได้หมายความว่ารู้คำศัพท์ทุกคำ คำศัพท์ในข้อสอบ SAT บางคำเป็นคำที่จำกัดใช้ในวงแคบหรือเฉพาะทางนั่นเอง ซึ่งเจ้าของภาษาหลายคนก็ไม่เคยแม้แต่จะใช้คำศัพท์พวกนั้นมาก่อนในชีวิตประจำวัน มีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะรู้และเข้าใจคำศัพท์ยากบางคำในข้อสอบ SAT ซึ่งคำศัพท์จำพวกนั้นจะใช้ในการประเมินผลผู้สอบในแง่ความรู้ของเนื้อหา รากศัพท์และการผสานคำ  3. ไม่ใช่เจ้าของภาษาทุกคนที่เข้าใจความซับซ้อนของไวยากรณ์และรูปแบบการเขียนที่เฉพาะตัวได้ เราอาจจะเห็นว่าเจ้าของภาษาสามารถใช้ภาษาได้อย่างลื่นไหล แต่เมื่อต้องลงมือเขียนนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะใส่ใจหรือเข้าใจว่าการเรียบเรียงใจความในเรื่องที่เขียนนั้นมีความสำคัญมาก เปิดประโยคแบบไหนให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ? ควรเรียบเรียงประโยคแบบไหนไม่ให้ย่อหน้าต่อไปสะดุด? คำถามเหล่านี้ก็มักจะเกิดขึ้นกับเจ้าของภาษาได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้คำถามในข้อสอบ SAT ก็ยากสำหรับเจ้าของภาษาหลายๆ คนอีกด้วย เพราะข้อสอบ SAT[...]