ทำไมจึงควรตัดสินใจติว GED กับ The Planner Education

  การหาสถาบันติว GED ในปัจจุบัน น้องๆสามารถหาได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว เพียงน้องๆพิมพ์คำว่า “ติว GED” ลงไปใน Google น้องๆก็จะพบว่ามีสถาบันติว GED มากมายให้น้องๆเลือกได้ตามอัธยาศัย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เราก็มักจะเลือกที่เรียนจาก ชื่อเสียง ประสบการณ์ คำบอกเล่า ราคาค่าเล่าเรียน หรือความสะดวกในการเดินทาง หรือบางครั้งเราก็เลือกเรียนตามเพื่อนของเราไปเลย แล้วทำไมจึงควรเลือกติว GED กับ The Planner Education ล่ะ? เพราะเราเป็นหนึ่งในผู้ที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญการติว GED ให้กับน้องๆมายาวนาน และเรามีปัจจัยสำคัญที่มากกว่าข้อพิจารณาขั้นต้นตามที่กล่าวมา นั่นคือ   The Planner Vision สถาบันของเรามีจุดมุ่งหมายในการเสริมสร้างความรู้ ความสามารถให้กับน้องๆคนรุ่นใหม่ ให้ก้าวไปสู่การศึกาในระดับอุดมศึกษาอย่างมีคุณภาพ ที่เชี่ยวชาญทั้งด้านภาษาอังกฤษ และด้านวิชาการ เราจึงเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนสำหรับน้องๆที่เตรียมตัวเข้าทดสอบทางด้านภาษา ไม่ว่าจะเป็น GED, IGCSE, SAT, IELTS, CU-AAT, CU-ATS, TOEFL-MUIC, MUIDS, CU-TEP, TU-GET,[…]

ทำความเข้าใจ การสอบ GED 2002 series และ GED 2014 ในแต่ละวิชา

  การสอบ GED นั้นเป็นการสอบเทียบวุฒิชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย การสอบมีมาตรฐานเป็นสากล โดยในประเทศไทยเราใช้ข้อสอบ GED 2002 series ซึ่งประกอบไปด้วยการสอบ 5 วิชา ได้แก่ Language Arts; Reading (การอ่านภาษาอังกฤษ) Language Arts; Writing (การเขียนภาษาอังกฤษ) Social Studies (สังคมศึกษาและประวัติศาสตร์) Mathematics (คณิตศาสตร์) Science (วิทยาศาสตร์) ดูรายละเอียด GED 2002 series ในการสอบ ทุกวิชาจะทำการสอบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มีทั้งที่เป็น Multiple Choice, การเติมคำ(ตัวเลข) และการเขียน ซึ่งแต่ละวิชาล้วนมีจุดประสงค์ในการวัดผลแตกต่างกัน จึงมีการแบ่งสัดส่วนของเนื้อหาตามความต้องการวัดผล ซึ่งหากน้องๆเข้าใจว่าข้อสอบแต่ละวิชาต้องการวัดอะไร น้องๆก็จะสามารถทำข้อสอบ GED ได้ดียิ่งขึ้น ทีนี้เรามาดูกันว่าข้อสอบ GED 2014 ต่างกับ GED 2002 อย่างไร ข้อสอบ GED 2014[…]

Checklist การสอบ GED จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดหมาย

  หากน้องๆกำลังพบว่าการเตรียมตัวสอบ GED มีหลายขั้นตอน จนไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อน เพราะไหนจะต้องวางแผนการอ่านถึง 5 วิชา ต้องไปติว GED ต้องทำแบบฝึกหัดและข้อสอบย้อนหลังตั้งหลายปี แถมยังต้องกังวลกับชีวิตการเรียนในระบบปกติ หรือบางคนอาจต้องทำงานไปด้วย ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะสามารถจัดตรางชีวิตเพื่อให้ทำทุกอย่างได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ ดังนั้น เราจึงต้องหาวิธีการในการลำดับความสำคัญของสิ่งที่เราต้องทำ ซึ่งตัวช่วยของเราก็คือสิ่งที่เรียกกันว่า “Checklist” Checklist คือ การรวบรวมรายละเอียดขั้นตอนของสิ่งที่ต้องทำ มาจัดทำเป็นลำดับขั้น 1, 2, 3, 4… ตามขั้นตอน หรือตามความสำคัญ หรือตามความเร่งด่วน ซึ่งการทำ Checklist ในการสอบ GED ช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง และสามารถ Update ได้ด้วยว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อให้น้องๆไม่พลาดทุกขั้นตอนสำคัญ ซึ่งวิธีการทำ Checklist ประกอบด้วย ระบุขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดของการสอบ GED: โดยสำรวจข้อมูลให้ครบถ้วนว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และ List เป็นข้อๆ จัดลำดับขั้นตอน: นำสิ่งที่ระบุไว้ในข้อที่ 1 มาทำการลำดับขั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสน น้องๆควรลำดับขั้นตอนตามความสำคัญ และความเร่งด่วน Update[…]

ลงทะเบียนสอบ GED ให้ปลอดภัย

การสอบ GED นั้น ผู้สมัครสอบจะต้องดำเนินการลงทะเบียนในเว็บไซต์ เลือกวัน เวลา สถานที่สอบ วิชาที่จะสอบ และชำระเงินค่าสอบ โดยทั้งหมดดำเนินการผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งถือว่ามีความสะดวกสำหรับผู้สมัครสอบอย่างมาก ที่ไม่ต้องเดินทางไปสมัครที่ศูนย์สอบให้ยุ่งยาก ยกเว้น “การสอบ” ผู้สมัครทุกคนจะต้องเดินทางไปสอบที่ศูนย์สอบด้วยตนเอง ตามวัน-เวลาที่ตนได้ลงทะเบียนไว้ โดยต้องแสดงตนต่อศูนย์สอบด้วยบัตรประชาชน และ Passport ซึ่งระเบียบการสอบนี้ ทาง GED ได้มีการเน้นย้ำไว้แล้วอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ความสะดวกในการดำเนินการเกือบทุกอย่างผ่านเว็บไซต์ ก็กลายเป็นช่องโหว่ให้เหล่ามิจฉาชีพสามารถหลอกล่อให้ผู้สมัครสอบชำระค่าสอบ GED บนเว็บไซต์ปลอม หรือให้ข้อมูลปลอม เพื่อให้ผู้สมัครชำระเงินมากกว่าปกติ โดยทำให้เชื่อว่าการสมัครสอบ GED ผ่านเว็บไซต์ของตนสามารถสอบทางออนไลน์ ไม่ต้องไปศูนย์สอบ หรือสามารถผ่าน GED ได้โดยไม่ต้องสอบเป็นต้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพื่อมิให้น้องๆที่สมัครสอบ GED จะต้องตกเป็นเหยื่อ เสียเงินจำนวนมากที่เตรียมไว้เพื่อการสอบ GED ตกไปเป็นของมิจฉาชีพเหล่านี้ เรามีข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยป้องกันภัยมาเล่าสู่กันฟัง ดังต่อไปนี้ เว็บไซต์เหล่านั้นตั้งชื่อคล้ายกับเว็บไซต์จริงที่ใช้ในการลงทะเบียน เช่น การเติม s หลังชื่อ, การใช้ชื่อเหมือนกับเว็บไซต์จริงแต่ใช้ (.) แตกต่างกันกับเว็บไซต์จริง ฉะนั้น[…]

อยากเรียนต่อที่อังกฤษ ต้องเรียน GED หรือ ติวIGCSE

GED (General Educational Development) คือ การสอบที่เทียบวุฒิการศึกษามัธยมปลายตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) คือ การสอบเทียบวุฒิการศึกษาชั้นมัธยมปลายในเครือสหราชอาณาจักร ดังนั้น จากนิยามเราจะสังเกตได้ว่า การสอบทั้ง 2 ประเภทเป็นการสอบเพื่อเทียบวุฒิชั้นมัธยมปลายเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันคือ GED สำหรับสหรัฐอเมริกา ส่วน IGCSE ใช้สำหรับประเทศอังกฤษนั่นเอง น้องๆที่ต้องการศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ ต้องสอบ IGCSE ซึ่งประกอบไปด้วยการสอบภาษาอังกฤษทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน ร่วมกับการสอบวิชาเฉพาะตามความถนัดของผู้สอบอีก 2 วิชา ซึ่งน้องๆสามารถเลือกได้ตามวิชาที่ตนเองถนัด การสอบ IGCSE แบ่งการสอบเป็น 2 ระดับคือ Core                       จะตัดเกรด ตั้งแต่ C-G Extended              จะตัดเกรด ตั้งแต่ A*-G ข้อสอบ IGCSE เป็นการสอบแบบอัตนัยและบางวิชาอาจต้องแสดงวิธีทำด้วย สำหรับการสอบ[…]

บันได 5 ขั้นแห่งการสอบ GED

ตั้งแต่เล็กจนโต เราทุกคนล้วนผ่านการเรียนรู้ในระบบการศึกษามาทีละขั้นๆ ตั้งแต่ในระดับอนุบาล ประถม มัธยมต้น มาจนถึงมัธยมปลาย ซึ่งการสอบ GED ก็ถือเป็นบันไดขั้นหนึ่งก่อนที่จะก้าวไปสู่ระดับอุดมศึกษา ซึ่งเป็นก้าวใหญ่ที่เปลี่ยนจากมัธยมไปสู่สังคมมหาวิทยาลัย แต่ การเรียน GED ไม่ใช่การเรียนในลักษณะเดียวกันกับระบบการศึกษาสายสามัญ แต่เป็นการใช้ความรู้ในสายสามัญของสหรัฐอเมริกามาสอบเพื่อเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยที่น้องๆไม่ต้องใช้เวลาในการเรียนเท่ากับสายสามัญตามปกติ ดังนั้น GED จึงเป็นเสมือนทางลัด แต่เป็นทางลัดที่อาศัยความมุมานะบากบั่นไม่น้อยเลยทีเดียว ในการสอบ GED นั้น มีลำดับขั้นตอนในการดำเนินการเช่นเดียวกับการสอบเทียบวุฒิอื่นๆเช่น IGCSE ซึ่งเราต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจตั้งแต่การสอบ GED คืออะไร สมัครสอบอย่างไร สอบอะไร ไปจนถึงสอบผ่านแล้วจะได้อะไร ซึ่งจะขอเรียกขั้นตอนแต่ละขั้นว่า “บันได” ที่จะให้เราก้าวขึ้นไปทีละ Step จนถึงจุดสูงสุด ดังต่อไปนี้ ขั้นเริ่มต้น : เป็นขั้นตอนการเริ่มเรียนรู้ และทำความเข้าใจว่า GED คืออะไร และเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง โดยในขั้นนี้ น้องๆจะได้ทราบว่า GED จะต้องสอบอะไรบ้าง และเริ่มวางแผนการอ่าน การติว รวมทั้งหาหนังสือและแบบฝึกหัดเพิ่มเติม ขั้นเตรียมพร้อม : ในขั้นนี้เป็นขั้นตอนการดำเนินการตามแผนที่เราวางไว้ในขั้นเริ่มต้น ได้แก่[…]

5 สิ่งที่ควรทราบในการสอบ GED

บ่อยครั้งที่เราพลาดการสอบครั้งสำคัญอย่างการสอบ GED ด้วยเหตุเพราะการละเลยข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ซึ่งน้องๆทราบไหมคะว่า รายละเอียดปลีกย่อยนั้นก็มีความสำคัญต่อการเตรียมตัวไปสอบ GED ไม่น้อยไปกว่าข้อมูลวิชาการ เพราะทุกๆอย่างที่น้องๆเตรียมตัวมา เพื่อการสอบ GED จะไม่มีความหมายเลย หากน้องๆลืมใส่ใจในระเบียบการสอบ ดังต่อไปนี้ สถานที่สอบ ศูนย์สอบ GED ในประเทศไทยนั้นตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 อาคารชาญอิสสระ 2 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งน้องๆควรศึกษาเส้นทาง วิธีการเดินทางให้พร้อม เพื่อให้เดินทางไปถึงศูนย์สอบให้ทันเวลาเข้าสอบ เผื่อเวลาในการเดินทาง จะได้ไม่พลาดการสอบ หรือหากไม่มั่นใจน้องๆสามารถโทรศัพท์สอบถามเส้นทางจากศูนย์สอบได้โดยตรงที่หมายเลข 02-718-1599 ควรไปให้ถึงอย่างน้อย 15 นาทีก่อนเวลาสอบ น้องๆควรเดินทางไปให้ถึงศูนย์สอบก่อนเวลาสอบอย่างน้อย 15 นาที เพื่อดำเนินการติดต่อ และแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์สอบ และน้องๆจะได้มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบด้วย ที่สำคัญการไปถึงก่อนเวลาทำให้เราคุ้นเคยกับสถานที่ ช่วยลดความตื่นเต้นได้อีกด้วย อย่าลืมบัตรประชาชน/Passport บัตรประชาชน และ Passport เป็นเอกสารสำคัญที่น้องๆห้ามลืมอย่างเด็ดขาด! เพราะน้องๆต้องใช้ในการแสดงตนต่อศูนย์สอบก่อนเข้าห้องสอบ มิฉะนั้นน้องจะไม่ได้รับอนุญาตให้สอบได้ แล้วสิ่งที่เตรียมตัวมาก็จะหมดความหมาย ฉะนั้นตรวจสอบให้ดีก่อนออกจากบ้านว่าไม่ลืมบัตรประชาชน และ Passport นะคะ เครื่องเขียน/เครื่องคิดเลข ไม่จำเป็น[…]

5 สถานที่อ่านหนังสือสอบGED ทบทวนเนื้อหาเรียนGED ให้มีประสิทธิภาพ

บรรยากาศมีผลต่อสมาธิในการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นการอ่านหนังสือสอบด้วยแล้ว ยิ่งต้องการบรรยากาศที่เอื้อต่อการอ่านเพื่อจดจำเป็นพิเศษ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงได้อ่านเท่านั้น ยังต้องสามารถมีสมาธิได้เป็นเวลานาน จดจำเนื้อหาที่สำคัญได้อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าน้องๆที่กำลังเตรียมตัวสอบ GED หลายคนต้องเคยประสบปัญหาในการอ่านหนังสือคล้ายๆกัน เช่น              อ่านแล้วง่วงนอน              อ่านแล้วจับประเด็นไม่ได้             ไม่มีสมาธิในการอ่าน เป็นต้น ซึ่งถ้าปล่อยให้การอ่านหนังสือสอบเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ คะแนน GED ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน ดังนั้น เราจึงต้องมองหาสถานที่สร้างแรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือสอบกันสักหน่อย อย่างน้อยก็ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่เคร่งเครียดให้รื่นรมย์ขึ้นมาบ้าง และถ้ามีสมาธิในการอ่านได้ดี คะแนนสอบก็จะดีไปด้วย น้องๆแต่ละคนย่อมมีสไตล์ในการอ่านหนังสือแตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปสถานที่ที่เราใช้บ่อยที่สุดคือโต๊ะเขียนหนังสือที่บ้านของเราเอง แต่พอนั่งไปนานๆประสิทธิภาพก็เริ่มลดลง เพราะการจ้องอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ ทำให้สมองเหนื่อยล้า เราจึงต้องมองหาสถานที่เปลี่ยนบรรยายกาศ ซึ่งเราขอแนะนำสถานที่อันทรงประสิทธิผลต่อการอ่านหนังสือสอบ ดังต่อไปนี้ บ้านของเรา ถึงแม้ว่าการอ่านหนังสือในบ้านนานๆบางครั้งจะทำให้เราเบื่อจากบรรยากาศเดิมๆ แต่การอ่านหนังสือที่บ้านในบางเวลาก็ช่วยสร้างสมาธิที่ดีได้ เช่น การอ่านวิชาที่ต้องท่องจำในตอนเช้ามืดช่วง 4.00 – 5.00 น. หรือตอนดึกๆไปเลยก็ได้เช่นกัน และอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้การอ่านหนังสือสอบ GED ในบ้านได้ดี นั่นคือ การจัดบ้านให้อยู่ในบรรยากาศที่น่าอ่าน มีเพลงที่ชอบ และที่นั่งสบาย แต่อย่าเผลอหลับไปเสียก่อน มิฉะนั้นอาจจะอ่านหนังสือสอบ GED ไม่ทันนะคะ[…]

เรียน GED ติว GED ให้ผ่านภายใน 1 เดือน เป็นไปได้ไหม

น้องๆเคยสงสัยไหมว่า ทำไมเพื่อนๆบางคนใช้เวลาในการเตรียมตัวสอบ GED ไม่มากนัก และยังสามารถสอบ GED ผ่านได้อย่างง่ายดาย พวกเขามีวิธีการเตรียมตัวอย่างไร และพอเราได้เห็นว่าเพื่อนของเราทำได้ เราก็ยิ่งมีพลังขึ้นมาว่าฉันก็น่าจะทำได้เช่นเดียวกัน นั่นเป็นที่มาของคำถาม ที่น้องๆบางคน ที่อยากจะสอบผ่าน GED เร็วๆบ้าง ว่าถ้าจะใช้เวลาเพียง 1 เดือน ในการสอบ GED ให้ผ่าน จะเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งการได้เรียน GED กับ The Planner Education จะเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสอบที่สามารถการันตีกับน้องๆได้ว่า การสอบ GED ให้ผ่านภายใน 1 เดือนนั้น เป็นไปได้! หากน้องๆเข้าไปในเว็บไซท์ http://theplannereducation.com ในส่วนของ Course Schedule น้องๆจะได้พบกับตารางเรียนเพื่อติว GED ที่ทางเราได้วางแผนการเรียน โดยจัดสรรเวลาเป็นอย่างดีให้น้องๆสามารถเตรียมตัวสอบได้ครบถ้วนทั้ง 5 วิชา ไม่ว่าจะเป็น Reading, Writing, Social Studies, Mathematics, และ Science โดยแต่ละวิชานั้น[…]

เรียนGED สอบGED อีกทางเลือกของการศึกษา

ปัจจุบัน การศึกษามีบทบาทสำคัญในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น โดยผู้ที่ได้รับการศึกษาในระดับอุดมศึกษามักจะได้รับโอกาสที่ดีกว่าผู้ที่มีวุฒิน้อย ดังนั้น น้องๆที่อยู่ในวัยเรียนจึงอยู่ในระบบการแข่งขันที่กดดันมากเป็นพิเศษ เนื่องด้วยการศึกษานำมาซึ่งโอกาสดีๆในชีวิต ไม่เพียงเท่านั้น การได้เรียนจบเร็วกว่าเกณฑ์ก็เป็นอีกค่านิยมหนึ่งที่เด็กยุคใหม่ รวมถึงผู้ปกครองให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เกินวัยแล้ว ยังช่วยลดระยะเวลาการศึกษาในสายสามัญไปได้อย่างน้อย 1-2 ปีอีกด้วย ดังนั้น น้องๆที่ต้องการเรียนจบก่อนวัย ต้องการศึกษาต่อภาคอินเตอร์ หรือต่างประเทศ จึงเลือกการสอบเทียบโดยการสอบ GED เพื่อย่อระยะเวลา ดังนั้น การสอบ GED จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเส้นทางการศึกษา ที่เปิดโอกาสให้น้องๆที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปสามารถสอบเทียบวุฒิระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยเป็นการเทียบในระบบ High School ของอเมริกา ซึ่งน้องๆสามารถนำวุฒินี้ยื่นสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย หรือมหาวิทยาลัยในต่างประเทศก็ได้เช่นกัน การสอบ GED ในประเทศไทยนั้นแบ่งเป็น 5 วิชา คือ Language Arts; Reading (การอ่านภาษาอังกฤษ), Language Arts; Writing (การเขียนภาษาอังกฤษ), Social Studies (สังคมศึกษาและประวัติศาสตร์), Mathematics (คณิตศาสตร์) และ Science[…]