ข้อสอบ BMAT (BioMedical Admissions Test) เป็นข้อสอบที่ใช้ในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก เพื่อคัดเลือกผู้สมัครที่ต้องการเข้าเรียนต่อทางด้านแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ ทันตกรรม ชีวการแพทย์ รวมไปถึงสัตวแพทย์ โดยข้อสอบ BMAT จะวัดความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ รวมไปถึงการแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ และทักษะภาษาอังกฤษด้านการเขียนเพื่อการสื่อสารอีกด้วย
การติวคอร์ส BMAT – Fast Track ที่เดอะ แพลนเนอร์ เป็นคอร์สละ 70 ชั่วโมง แบบเข้มข้นครอบคลุมข้อสอบทุกหัวข้อ โดยแบ่งเป็น 7 พาร์ท 3 sections ได้แก่
- Section 1 – Thinking Skill ทั้งหมด 2 พาร์ท ได้แก่
- Problem Solving 10 ชั่วโมง
- Critical Thinking 10 ชั่วโมง
- Section 2 – Scientific Knowledge and Applications ทั้งหมด 4 พาร์ท ได้แก่
- Biology 10 ชั่วโมง
- Chemistry 10 ชั่วโมง
- Physics 10 ชั่วโมง
- Mathematics 10 ชั่วโมง
- Section 3 – Writing Task ทั้งหมด 1 พาร์ท 10 ชั่วโมง
โดยการติว BMAT Fast Track ที่เดอะ แพลนเนอร์ เน้นการตะลุยโจทย์ที่ครอบคลุมทุกหัวข้อเพื่อให้น้องๆ คุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบ พร้อมด้วยการสอบ Mock Test เพื่อให้น้องๆ รู้สึกมั่นใจก่อนไปสอบจริง โดยคุณครูจะช่วยให้น้องๆ คิดวิเคราะห์โจทย์และทริคพิชิตโจทย์หลอกเพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง และแก้จุดอ่อน เสริมจุดแข็งให้น้องๆ พร้อมทั้งฝึกทำข้อสอบให้ได้คะแนนดีที่สุดภายในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อให้เตรียมตัวไปสอบได้อย่างมั่นใจและได้คะแนนถึงเป้าหมาย
BMAT Part 1: Thinking Skills
- อ่านจับ Main Idea ของ Paragraph ให้ได้ก่อน
- แยก “Fact (ข้อเท็จจริง)” กับ “Opinion (ความคิดเห็น)” ให้ออก
- บางข้ออาจจะมีการคำนวณ แต่ไม่จำเป็นต้องคิดเป็นตัวเลขสำเร็จออกมา เน้นการใช้ Logic
- ถ้าคิดไม่ออกให้ข้ามไปก่อน แต่ก่อนหมดเวลา ต้องตอบให้ครบ เพราะตอบผิดไม่มีติดลบคะแนน
BMAT Part 2: Scientific Knowledge and Applications
- คิดให้เร็ว อ่านให้เร็ว เพราะเวลาค่อนข้างน้อย เฉลี่ยข้อละไม่ถึง 1 นาทีเท่านั้น
- ข้อสอบไม่ได้เรียงหัวข้อมาเป็นข้อ เช่น 1-8 เป็น Biology หรือข้อ 9-16 เป็น Chemistry อย่างที่น้อง ๆ เข้าใจ ดังนั้น ถ้าจะข้ามข้อ ให้ระวังการสลับข้อให้ดี
- คำถามเกี่ยวกับคณิตศาสตร์จะน้อยที่สุดในพาร์ทนี้ แต่ต้องคำนวณออกมาให้เป็นคำตอบสุดท้าย
- ถ้าดูเวลาแล้วทำไม่ทันพยายามอย่าเว้นว่าง ตอบให้ครบ เพราะตอบผิดไม่มีติดลบ
BMAT Part 3: Essay หรือ Writing Task
- คะแนนจะพิจารณาจาก 2 ส่วน คือ เนื้อหาการวิเคราะห์และการใช้ภาษาอังกฤษ เช่น ไวยากรณ์ คำศัพท์ การเรียบเรียงประโยคต่าง ๆ เป็นต้น
- พยายามเขียนทั้ง 2 มุมมอง ทั้ง ข้อดีและข้อเสีย และควรโต้แย้งประเด็นที่ไม่เห็นด้วย
- ระมัดระวังเรื่องการสะกดคำผิด และการเว้นวรรคประโยค
- มีเวลาประมาณ 30 นาที อย่าวางแผนนานเกินไป เริ่มบรรยายเร็ว เสร็จเร็ว จะช่วยให้เหลือเวลากลับมาทบทวน
การเรียน BMAT ที่โรงเรียน The Planner Education มี 3 แบบด้วยกัน
- เรียนเดี่ยว
- เรียนคู่
- จัดกลุ่มมา (ตั้งแต่ 3 คน)
- แนวข้อสอบอัปเดตล่าสุด
- ตะลุยโจทย์ครอบคลุมทุกหัวข้อ
- แก้จุดอ่อน เสริมจุดแข็งอย่างมั่นใจ
- เลือกเวลาเองได้
- ขาดเรียนมีชดเชย
- แนวข้อสอบอัปเดตล่าสุด
- ตะลุยโจทย์ครอบคลุมทุกหัวข้อ
- แก้จุดอ่อน เสริมจุดแข็งอย่างมั่นใจ
- เลือกเวลาเองได้
- ขาดเรียนมีชดเชย
- แนวข้อสอบอัปเดตล่าสุด
- ตะลุยโจทย์ครอบคลุมทุกหัวข้อ
- แก้จุดอ่อน เสริมจุดแข็งอย่างมั่นใจ
- เลือกเวลาเองได้
- ขาดเรียนมีชดเชย
ติดต่อสอบถามคอร์สการเรียน BMAT ได้ที่เบอร์ 095-726-2666 หรือ LINE: @theplanner
ติดต่อสอบถามคอร์สการเรียน BMAT ได้ที่เบอร์ 095-726-2666 หรือ LINE: @theplanner
ข้อสอบ BMAT ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ในการสอบเพื่อทดสอบการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้และการสื่อสารของบุคคลนั้นๆ และจะไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขได้
รายละเอียดของข้อสอบ BMAT ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
การจัดสอบ BMAT
ปัจจุบันการสอบ BMAT จะสามารถสมัครสอบได้เพียง 1 ครั้งต่อปีในเดือนพฤศจิกายน โดยมีค่าสมัครสอบ 7,500 บาท และหากสมัครล่าช้าจะมีค่าธรรมเนียมการสมัคร 9,200 บาท และผลสอบจะออกหลังจากวันสอบประมาณ 3 สัปดาห์